ยาคูลท์ (Yakult)
|
'ยาคูลท์' (Yakult)
เมื่อพูดถึงนมเปรี้ยวที่มีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย 'ยาคูลท์' (Yakult) คือแบรนด์อันดับต้นๆที่เรามักนึกถึง นมเปรี้ยวขนาดไซส์น่ารักๆ รสชาติถูกปากของคนทุก เพศทุกวัย
แต่เคยสงสัยกันไหม ? ว่าทำไมยาคูลท์ถึงมีขนาดบรรจุ 80 cc.เพียงขนาดเดียวเท่านั้น!!
 ก่อนที่จะเข้าไปสู่เนื้อหา ว่าทำไมยาคูลท์ถึงมีแค่ขนาดบรรจุเดียว เรามาทำความรู้จักกับยาคูลท์สักเล็กน้อยกันก่อนดีกว่า
ยาคูลท์ (Yakult) เป็นผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวที่มีจุลินทรีย์ที่มีชีวิต ที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายนับพันล้านตัว ซึ่งเกิดมาจากการหมักนมกับน้ำตาลกลูโคส โดยจุลินทรีย์ที่ใช้คือ 'ชิโรต้า' หรือชื่อเต็มคือ 'แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ ชิโรต้า'
คุณสมบัติพิเศษของเจ้าจุลินทรีย์ตัวนี้คือ มีความสามารถทนต่อสภาวะความเป็นกรดที่รุนแรงในกระเพาะอาหารของมนุษย์ และทนต่อความเป็นด่างที่รุนแรงของน้ำดี ซึ่งมันสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ในลำไส้ จึงทำให้เราได้รับประโยชน์เต็มๆ เมื่อทานจุลินทรีย์ชนิดนี้เข้าไป
ประโยชน์ของจุลินทรีย์ชิโรต้า
- ช่วยเพิ่มจำนวนแบคทีเรียที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย และรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้
- ยับยั้งและทำลายแบคทีเรียที่ให้โทษต่อร่างกาย อีกทั้งยังลดอาการท้องผูก และท้องเสียได้ด้วย
- ลดการสร้างสารพิษจากแบคทีเรียที่ให้โทษ
- ช่วยให้ลำไส้มีการขยับเคลื่อนตัวมากขึ้น นั่นแปลว่า ระบบการย่อยอยอาหารของเราก็จะดีขึ้น
- ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และลดการติดเชื้อได้ด้วย
ทีนี้มาพูดถึงสีของยาคูลท์กันบ้าง ว่ามีการตกแต่งสีหรือไม่ อย่างไร ?
สีที่เราเห็นนั้น คือสีเฉพาะตัวของยาคูลท์ ซึ่งเกิดจากการทำปฏิกิริยาของส่วนประกอบหลักของยาคูลท์ นั่นคือ นมขาดมันเนยและน้ำตาล เมื่อผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน กรดอะมิโนในนมผงและน้ำตาลก็จะทำให้สารละลายนมเปลี่ยนสีไป จากสีขาวเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ ซึ่งเป็นสีธรรมชาติ เป็นปฏิกริยาทางเคมีที่เรียกว่า 'ปฏิกิริยา Caramelisation'
กล่าวโดยสรุปคือ ..สีของยาคูลท์ คือสีธรรมชาติ ไม่มีการตกแต่งใดๆทั้งสิ้นจ้า
 ขอบคุณภาพจาก https://images.app.goo.gl/EK4nXwh2aKJdAcD87
พูดถึงสีกันไปแล้ว ทีนี้ก็มาพูดถึงรสชาติของยาคูลท์กันบ้างดีกว่านะ
รสชาติที่เราคุ้นเคยของยาคูลท์ เป็นรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของยาคูลท์ รสชาตินี้เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการหมักนมด้วยจุลินทรีย์ชิโรต้า พูดง่ายๆคือ เป็นรสธรรมชาติ ที่เกิดจากกระบวนการหมักนม ไม่ได้มีการตกแต่งรสชาติใดๆทั้งสิ้น
หลายคนอาจสงสัย ทำไมยาคูลท์ต้องเติมน้ำตาลในปริมาณที่เยอะขนาดนั้นด้วย หนึ่งขวดมีน้ำตาลถึง 18% หรือประมาณ 3.5 ช้อนชาเลยทีเดียว
คำตอบคือ ..เหตุผลที่ยาคูลท์ต้องใส่น้ำตาลในปริมาณค่อนข้างมาก ไม่ใช่เหตุผลเรื่องรสชาติแต่อย่างใด แต่เพื่อเป็นแหล่งอาหารที่เหมาะสมแก่แบคทีเรียที่มีอยู่ในยาคูลท์ต่างหาก ซึ่งมันช่วยให้แบคทีเรียมีชีวิตอยู่ได้ระหว่างช่วงเวลาการเก็บรักษาจนถึงมือลูกค้านั่นเอง
อ่า ที่นี้เข้าใจแล้วใช่ไหม ?
คำถามที่ตามมาติดๆคือ น้ำตาลเยอะขนาดนี้ กินแล้วไม่อ้วนเหรอ ?กำลังสงสัยอยู่ใช่ไหมล้าา
โอเคครับ เดี๋ยวเราค่อยๆอ่านคำตอบไปพร้อมๆกันเลยนะ
ยาคูลท์ 1 ขวดมีน้ำตาล 18% หรือ เท่ากับ 3.5 ช้อนชา ให้พลังงานเท่ากับ 71 kcal
ปกติในลำไส้ หรือระบบทางเดินอาหารของคนเรา ก็มีจุลินทรีย์ที่ดีที่มีประโยชน์ ซึ่งจะช่วยในเรื่องการย่อย หรือระบบขับถ่ายอยู่แล้ว ดังนั้น เราไม่จำเป็นต้องทานจุลินทรีย์ ที่ดีจากภายนอก เพิ่มเข้าไปมากเกินพอดี เพราะนอกจากจะไม่เป็นผลดีแล้ว ยังจะก่อให้เกิดโทษตามมาอีกด้วย
ดังนั้น ขนาดรับประทานของยาคูลท์ที่แนะนำต่อวันคือ 1 ขวดเท่านั้น! ใน 1 ขวดก็บรรจุจุลินทรีย์ แอล คาเซอิ ชิโรต้าจำนวน 8,000 ล้านตัวแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่เหมาะสมในการรับประทานต่อวัน
แต่หากอยากรับประทานมากกว่า 1 ขวด ก็อย่าให้เกิน 2 ขวด จะดีที่สุด เพราะจะทำให้ลำไส้ของเราเต็มไปด้วยจุลินทรีย์ที่มากเกินพอดี อาจส่งผลให้เกิดอาการท้องเสียได้
ดังนั้น คำตอบของคำถามที่ว่า ในยาคูลท์มีน้ำตาลเยอะ ทานแล้วจะอ้วนไหม ? ขอตอบเลยว่า ถ้าเรารับประทานในปริมาณที่แนะนำต่อวัน คือ 1 ขวด ก็ไม่อาจทำให้อ้วนได้ หรอกครับ ยกเว้นหลังทานยาคูลท์แล้ว เราจะตบท้ายด้วยชานมไข่มุกอีกสักแก้วขนมหวานอีกชิ้น กินแล้วก็นอนทันที อันนี้ไม่รับประกันนะ ว่าจะไม่อ้วน
ทีนี้มาถึงคำถามสำคัญของเรื่องในวันนี้ ทำไมยาคูลท์ถึงมีแค่ ขนาด 80 cc ขนาดเดียว ?
คำตอบคือ เพราะมันเป็นปริมาณที่เหมาะสมที่สุดที่แนะนำต่อวันในการรับประทาน เพราะหากมากกว่านี้ นอกจากจะไม่ส่งผลดีแล้ว อาจทำให้เกิดโทษต่อร่างกายเราได้ เช่น ท้องเสีย
อย่าลืมว่า นมเปรี้ยวยาคูลท์ ผลิตด้วยวิธีการหมักเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นแบคทีเรีย ทำให้เกิดรสเปรี้ยว เนื่องจากเกิดกรดขึ้นมาหลายชนิดระหว่างกระบวนการหมัก (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรดแลคติก ปัจจุบันใช้เชื้อชื่อ Lactobaciius Balgaricu ร่วมกับ Stroptcoccus themophilus ในอุตสาหกรรมผลิตนมเปรี้ยวและโยเกิร์ต)
บางคนอาจกำลังคิด แล้วถ้าลดปริมาณจุลินทรีย์ลง ให้เท่ากับขวด 80 cc แล้วเพิ่มปริมาณนมให้เยอะขึ้น คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
จริงๆแล้ว ถ้าทำเช่นนั้น ก็อาจทำได้ แต่รสชาติของยาคูลท์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หรือต่อให้รสชาติยังคงเดิม แต่ปริมาณน้ำตาลที่เราจะได้รับ ก็เยอะเกินไปอยู่ดีแทนที่จะได้รับประโยชน์ อาจได้รับโทษแทนนะ
สู้กินปริมาณน้อยแต่อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ดีกว่าเนาะ
คำแนะนำในการเลือกซื้อยาคูลท์ :
- ดูวันหมดอายุก่อนซื้อ
- เลือกซื้อจากตู้แช่ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียสเท่านั้น เพราะจะทำให้จุลินทรีย์ แอล คาเซอิ ชิโรต้า ยังมีชีวิต และพร้อมที่จะทำงานให้เราได้ทันที
ตอนนี้ยาคูลท์ มีสูตรน้ำตาลน้อยแล้วนะ ใครยังไม่ลอง ไปลองกันได้เลย
อ้างอิง :
ที่มา : ติดอ่าน https://www.blockdit.com/posts/602a6b5abb197613802f2283 |
