รู้จัก ซีแลนเดีย ทวีปที่ 8 ของโลก โดย 90% ของพื้นที่ยังคงจมใต้มหาสมุทร
รู้จัก ซีแลนเดีย ทวีปที่ 8 ของโลก โดย 90% ของพื้นที่ยังคงจมใต้มหาสมุทร
สรุปให้ ซีแลนเดีย ทวีปในตำนานที่ได้รับการค้นพบ อาจกลายเป็นทวีปที่ 8 ของโลก โดย 90% ของพื้นที่ ยังคงจมอยู่ใต้มหาสมุทร และโลกร้อนอาจทำให้เราไม่มีโอกาสได้เห็นมันเลยตลอดชีวิตวิชาภูมิศาสตร์ที่เราเรียนมาบอกเราว่า บนโลกนี้มีทวีปอยู่ทั้งหมด 7 ทวีป นั่นคือ เอเชีย ยุโรป ออสเตรเลีย แอฟริกา อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และแอนตาร์กติก แต่มีสิ่งที่หลายคนยังไม่รู้คือ เรามีทวีปที่ 8 ด้วย ทวีปที่ 8 ของโลกมีชื่อว่า ซีแลนเดีย (Zealandia)
ทวีปซีแลนเดียที่ซ่อนอยู่เบื้องใต้ของนิวซีแลนด์ Cr. ETOPO2v2, a digital database of seafloor and land elevationsการพูดถึงครั้งแรกของซีแลนเดีย ทวีปในตำนานที่หายสาบสูญ
เรื่องนี้เป็นเส้นผมบังภูเขาอยู่นาน เพราะนักวิทยาศาสตร์ใช้เวลาค้นหามันถึง 375 ปี จากการสืบค้น ดูเหมือนว่า มันจะถูกพูดถึงครั้งแรก ไม่นานหลังมีการค้นพบประเทศนิวซีแลนด์ ในปี 1642 โดย อาเบล แทสมัน (Abel Tasman) กะลาสีเรือชาวดัตช์ ในความเป็นจริง แทสมันเชื่อว่ามีอีกทวีปหนึ่งซ่อนอยู่ แต่ในภารกิจ เขาได้เดินทางไปสิ้นสุดยังตอนใต้ของนิวซีแลนด์ นั่นคือการค้นพบนิวซีแลนด์ครั้งแรกของโลก แต่แทสมันก็ได้เจอเข้ากับชาวเผ่าเมารี ชนพื้นเมืองของนิวซีแลนด์เลยมีการปะทะกันเกิดขึ้น สุดท้าย แทสมันก็ไม่กลับไปเหยียบแผ่นดินใหม่ที่เขาค้นพบอีกเลย แต่อย่างไรก็ตาม แม้ออสเตรเลียจะเป็นที่รู้จักแล้ว แต่ชาวยุโรปคิดว่า นี่ไม่ใช่ทวีปในตำนานที่พวกเขากำลังตามหา จนมาในปี 1895 เซอร์ เจมส์ เฮกเตอร์ (Sir James Hector) นักธรรมชาติวิทยาชาวสก็อตได้ร่วมเดินทางสำรวจเกาะต่าง ๆ นอกชายฝั่งตอนใต้ของนิวซีแลนด์
และเงื่อนงำแรกก็โผล่ออกมา เจมส์สรุปว่า นิวซีแลนด์ เป็นเศษของภูเขาที่ก่อตัวเป็นยอดของภาคพื้นทวีปอันยิ่งใหญ่ในตำนานต่างหาก และทวีปแห่งนั้น ตอนนี้กำลังจมอยู่ใต้น้ำ แม้ดูเหมือนเขาจะค้นพบแล้ว แต่นั่นเป็นเพียงการสันนิษฐาน เพราะยังไม่มีหลักฐานใดแน่ชัดและบ่งชัดได้ว่ามันเป็นรูปร่างดังที่เขากล่าวจริง ๆ ดังนั้น การค้นพบซีแลนเดียจึงยังไม่เกิดขึ้น เพราะความเป็นไปได้ยังคลุมเครืออยู่ หลังจากนั้นภารกิจก็หยุดชะงักไปนานมาก ๆ เนื่องจากการเดินทางมีค่าใช้จ่ายสูง (และยังไม่มีเทคโนโลยีดาวเทียมที่ทันสมัยมากพอ)
จากนั้นในปี 1995 นักธรณีฟิสิกส์ชาวอเมริกัน Bruce Luyendyk กล่าวถึงมันอีกครั้งและแนะนำให้เรียกพื้นที่แห่งนั้นว่า “ซีแลนเดีย”
การค้นพบซีแลนเดีย อย่างเป็นทางการ จนมากระทั่งปี 2017 มีนักธรณีวิทยากลุ่มหนึ่งได้พาดหัวข่าวว่า พวกเขาพบซีแลนเดีย หรืออีกชื่อหนึ่งคือ เตรีอูอามาวอี (ภาษาของเผ่าเมารี) ทวีปอันกว้างใหญ่ที่มีพื้นที่กว่า 4.9 ล้านตารางกิโลเมตร มีขนาดประมาณ 6 เท่าของมาดากัสการ์ ซึ่งในความเป็นจริง ถ้าหาก นิวซีแลนด์ สามารถพิสูจน์ได้ว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของทวีปขนาดใหญ่นั้น ก็จะสามารถเพิ่มอาณาเขตของนิวซีแลนด์ได้ถึง 6 เท่า และหลังจากนั้นก็จะมีผู้ให้ทุนมากมายในการเดินทางสำรวจพื้นที่ก่อนที่จะจมสู่ใต้มหาสมุทร
ว่ากันว่า เดิมที ซีแลนเดีย เป็นส่วนหนึ่งของมหาทวีป กอรด์วานาโบราณ (Gondwana) ซึ่งมีอยู่เมื่อประมาณ 500 ล้านปีก่อน ซึ่งมันได้รวมกันเป็นส่วนหนึ่งกับแอนตาร์กติกและออสเตรียเลีย และมันได้แยกตัวออกมา เมื่อประมาณ 105 ล้านปีที่แล้ว ในอดีต กอร์ดวานา มีพื้นที่ประมาณ 101 ล้านตารางเมตร มีสภาพอากาศที่อบอุ่น และเป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์นานาชนิด รวมถึงสัตว์ใหญ่มากมายจากยุคจูราสสิค ซึ่งคาดว่าตอนนี้ มีอีกหลายฟอสซิลอยู่ในชั้นหินของทวีปแห่งนี้เพียบ รวมถึงอาจมีที่มาของสายพันธุ์ นกกีวี่ สัตว์ประจำชาติของนิวซีแลนด์ด้วย
นกกีวี่ นกใหญ่แห่งนิวซีแลนด์ Cr. National Zoo
สิ่งมหัศจรรย์คือ แม้ว่าตอนนี้จะจมอยู่ใต้น้ำ แต่ทำไมมันถึงไม่แตกออกจากกันเลย และยังคงจับตัวเหนียวแน่น จนยังคงรูปของแผ่นดินขนาดใหญ่ไว้ได้ บทสรุป ในโลกยุคปัจจุบัน แม้หลายคนจะมั่นใจไปแล้วว่านี่คือซีแลนเดีย ทวีปที่ 8 ของโลก แต่นี่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่ามันจะสามารถเรียกเป็นทวีปได้หรือไม่ เนื่องจากเราไม่เห็นขอบของทวีปได้อย่างชัดเจน และพื้นที่ที่จะเรียกได้ว่าเป็นทวีป ควรจะต้องมีพื้นที่มากกว่า 1 ล้านตารางเมตร นอกจากนี้ตามคำจำกัดความ ทวีปควรอยู่สูงเหนือเปลือกโลกโดยรอบมหาสมุทร และจำเป็นต้องมีเปลือกทวีปมากกว่าเปลือกมหาสมุทร แต่กระนั้น ซีแลนเดีย เข้าเกณฑ์เกือบหมด เพียงแค่ว่า มันยังจมอยู่ใต้มหาสมุทร
Andy Tulloch นักธรณีวิทยาจาก New Zealand Crown Research Institute GNS Science ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทีมค้นพบซีแลนเดียกล่าวว่า
แต่ในขณะเดียวกัน โลกของเราก็กำลังประสบปัญหากับน้ำทะเลที่กำลังเพิ่มระดับสูงขึ้นจากธารน้ำแข็งละลาย ความเป็นไปได้ที่ทวีปแห่งนี้จะโผล่ขึ้นมาให้เราได้เห็นนั้น คงเป็นเรื่องที่เริ่มไกลห่างออกไปมากขึ้นเรื่อย ๆ และไม่รู้ว่า ซีแลนเดีย จะได้ขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของแผนที่โลกได้หรือไม่
ที่มาข้อมูล https://www.springnews.co.th/keep-the-world/environment/841875
|
