ถึงเวลาโลกเอาคืน! ปี’67 โลกรวนสุด ร้อน แล้งจัด ฝนตกน้ำท่วมเป็นประวัติการณ์
ถึงเวลาโลกเอาคืน! ปี’67 โลกรวนสุด ร้อน แล้งจัด ฝนตกน้ำท่วมเป็นประวัติการณ์
น่าใจหายเมื่อโลกต่างเอาคืนมวลมนุษย์ที่เป็นตัวการทำให้โลกร้อน ปี2567 โลกรวนสุดขั้ว ทั้งร้อนจัด แล้งจัด ฝนตกมาก น้ำท่วมมากสุดเป็นประวัติการณ์ในปีเดียวกัน และยังน่าห่วงปีต่อไปจะเป็นอย่างไร ต้องยอมรับว่าปัญหาโลกร้อน โลกรวนทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลายประเทศกำลังเผชิญกับปัญหานี้ ซึ่งนับว่าไปซ้ำเติมความยากจนให้หลายๆประเทศอีกด้วย และประเทศไทยก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่กำลังได้รับผลกระทบจากภาวะโลกรวน เห็นได้ชัดเจนจากปี2567 ที่ยังไม่ครบปี แต่โลกรวนให้เห็นแบบสุดขั้ว ทั้งร้อน และแล้งจัด แถมฝนตกหนัก น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างภาคเหนือบางพื้นที่น้ำท่วมหนักในรอบ 100 ปี ทำเอาสร้างความเสียหายจำนวนมาก โดยที่ผ่านมา นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในภาคเหนือ 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา สุโขทัย ลำปาง เพชรบูรณ์ แพร่ น่าน พิษณุโลก และนครสวรรค์ ยังมีความน่าเป็นห่วงที่ฝนจะตกเพิ่มอีกระลอก ทั้งนี้มีประเมินมูลค่าความเสียหายกรณีสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่ภาคเหนือ เบื้องต้นประเมินความเสียหายประมาณ 4,000 – 6,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.02 – 0.03% ของ GDP ซึ่งยังคงต้องติดตามและประเมินผลกระทบอีกครั้ง เนื่องจากหลายจังหวัดยังมีความเสี่ยงที่อาจเกิดน้ำท่วมเพิ่มอีก อย่างไรก็ตามภาคการเกษตรได้รับผลกระทบมากที่สุด รองลงมาเป็นภาคบริการ และภาคอุตสาหกรรม โดยในระยะสั้นหอการค้าฯ เสนอให้รัฐบาลจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย และจะต้องเตรียมแผนรับมือมวลน้ำที่จะไหลลงมาสู่ภาคกลางและกรุงเทพฯ ตลอดจนปริมาณฝน และล่าสุดสดๆร้อนๆ น้ำท่วมแม่สาย จ.เชียงราย หนักสุดในรอบหลายปี โดยสถานการณ์น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมายังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และกระแสน้ำยังไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำมีความสูงตั้งแต่ 1- 2 เมตร ในบางพื้นที่ที่ลุ่มต่ำ ส่งผลให้การช่วยเหลือประชาชนก็ไปด้วยความลำบาก
ในขณะเดียวกันที่ จ.เชียงใหม่ มีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ในตำบลแม่อาย และ ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ หลังฝนตกหนักสะสม ทำให้แม่น้ำสาขา แม่น้ำอาย แม่น้ำแหลง และแม่น้ำสาว เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และ ล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนสายหลัก ชุมชน ย่านเศรษฐกิจ และ พื้นที่การเกษตร เป็นบริเวณกว้าง ทั้งหมดที่กล่าวมาเบื้องต้นจะเห็นได้ว่าน้ำท่าบ้านเราปี2567 ฝนตกเยอะ น้ำท่วมหนักในฤดูฝน แต่…ก่อนหน้านั้นฤดูร้อน อากาศก็ร้อนจัด และแล้งจัด เจอเอลนีโญสุดๆเหมือนกัน โดยนักวิทยาศาสตร์ เผยมีแนวโน้มถึง 90% ที่ปี 2567 มี อุณหภูมิทั่วโลกร้อน ขึ้นจนทุบสถิติ เนื่องจาก “ปรากฏการณ์เอลนีโญ” ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ป่าแอมะซอน หรือ อะแลสกาที่มีน้ำแข็งปกคลุมทั้งปีก็หนีไม่รอด ขณะที่ไทยก็ต้องเตรียมรับมือเช่นกัน
ดร.หนิง เจียง จากสถาบันวิทยาศาสตร์อุตุนิยมวิทยาจีน และคณะทำการศึกษา ซึ่งได้ตีพิมพ์ในวารสาร Scientific Reports โดยใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์ระบุฮอตสปอตในภูมิภาคที่เป็นไปได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 พร้อมจำลองผลกระทบของเหตุการณ์ดังกล่าวต่อความแปรผันของอุณหภูมิอากาศบนพื้นผิวในระดับภูมิภาคตั้งแต่เดือนก.ค. 2566 ถึง มิ.ย. 2567 พบว่ามีโอกาส 90% ที่อุณหภูมิโลกในปี 2567 จะสูงขึ้นจนทำลายสถิติใหม่
สำหรับต้นปี2567 ที่ผ่านมาไทยเจอเอลนีโญถล่มอย่างหนักในหลายพื้นที่ ทั้งร้อนจัด แล้งจัด ขาดแคลนน้ำ ลากยาวมาถึงปัจจุบันก็มาเผชิญกับลานีญาซ้ำเข้าไปอีก โดยกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า การเฝ้าระวังปรากฏการณ์เอลนีโญ ลานีญา เดือนก.ย.นี้ พบว่าปรากฏการณ์เอนโซ อยู่ในสภาวะเอลนีโญกําลังปานกลาง ด้านวิจัยกรุงศรี ได้วิเคราะห์ประมาณน้ำฝนจากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา โดยประเมินว่าปี 2567 ปริมาณน้ำฝนจะอยู่ที่ 1,612 มิลลิเมตร เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีปริมาณ 1,520 มิลลิเมตร ในขณะที่ปี 2568 จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1,795 มิลลิเมตร ขณะที่ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต และคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เผยว่า ปี2568 -2569 ไทยมีโอกาสเผชิญแล้งหนักสุดในรอบ 10 ปี และปี 2572-2573 จะมีโอกาสเกิดน้ำท่วมใหญ่ ดังนั้นก็ต้องหาทางรับมือกันให้ได้ทั้งรัฐ และประชาชนเอง
ที่มา : https://www.springnews.co.th/keep-the-world/climate-change/852687
|