เรื่องโอละพ่อ ผู้ว่าฯโอซาก้า เปิดเผยผลวิจัย น้ำยาบ้วนปากลดจำนวนผู้ป่วยโควิด -19 อาการไม่รุนแรงได้

เรื่องโอละพ่อ !! ผู้ว่าโอซาก้าออกมาแถลงใหม่ว่าเบตาดีนในน้ำยาบ้วนปากไม่ได้ป้องกันโควิด-19 แล้ว หลังจากเมื่อวันก่อนเพิ่งบอกว่ารักษาโควิด-19 ได้
 
 
ผู้ว่าหนุ่มอนาคตไกลแห่งนครโอซากา Hirofumi Yoshimura ได้แถลงข่าวดีเมื่อวันอังคาร(4สค63)ที่ผ่านมาว่า น้ำยากลั้วคอที่มีโพวิโดน-ไอโอดีนเจือจาง(Povidone-iodine) หรือชื่อการค้าว่า เบตาดีน(Betadine) สามารถป้องกันผู้ป่วยโควิด-19 ให้พ้นจากการป่วยหนักได้
 
โดยมีรายงานการศึกษาว่า ผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย 41 รายและถูกกักตัวอยู่แล้ว(Quarantine) เมื่อให้กลั้วคอด้วยน้ำยาโพวิโดน-ไอโอดีนเจือจางวันละ 4 ครั้ง ต่อเนื่องกัน 4 วัน พบว่าจำนวนผู้ป่วยที่ทดสอบพบเชื้อไวรัสในน้ำลายลดลงเหลือ 9.5% เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่บ้วนปากด้วยน้ำธรรมดามีผลการทดสอบเป็นบวกถึง 40%
 
ทำให้ผู้ว่าโอซาก้าออกมาแถลงข่าวทันทีว่า มันคุ้มค่ามากที่จะลองดู โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่ทำงานอยู่ในผับบาร์ ร้านอาหาร และโรงพยาบาล เพราะเป็นยาที่หาซื้อได้ทั่วไปและไม่มีอันตรายใดใด
 
เมื่อผู้ว่าฯหนุ่มอนาคตไกลประกาศข่าวดังกล่าวออกไป ก็เกิดการแตกตื่นอย่างโกลาหล ทำให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นจำนวนมากออกหาซื้อยาดังกล่าว ทำให้ร้านขายยาจำนวนมาก ทั้งโอซาก้า โตเกียว และอีกหลายเมือง ยาขาดตลาดทันที หาซื้อยาไม่ได้ และทำให้หุ้นบริษัทจำหน่ายยาดังกล่าวขึ้นทันที 7.7%
ยาบ้วนปากกลั้วคอ Povidone
 
Toshio Nakagawa นายกแพทยสมาคมแห่งญี่ปุ่น(Japan Medical Association)แถลงว่า ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่มากเพียงพอในการที่จะสรุปคำกล่าวของผู้ว่าโอซาก้าที่แนะนำให้ใช้เป็นการทั่วไป. เข้าใจดีว่าท่านผู้ว่ามีความกังวลในเรื่องการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเขตนครโอซากาอย่างมาก และอยากให้มีข่าวดีดีออกมาบ้าง
 
ในนามของแพทยสมาคมของญี่ปุ่น ขอเรียนให้ทราบว่า สมาคมจำเป็นจะต้องออกมาขอให้ทุกฝ่ายใจเย็น อย่าเพิ่งด่วนสรุป และรอผลการวิจัยอื่นๆให้ชัดเจนเสียก่อน
 
องค์การอนามัยโลกก็ได้กล่าวในทำนองเดียวกันว่าเรื่องดังกล่าวนี้ยังมีความไม่ชัดเจน ยังไม่สามารถเชื่อถือได้
 
ผู้ว่านครโอซาก้า
 
ในวันรุ่งขึ้นคือวันพุธ(5สค63) ผู้ว่านครโอซาก้าก็ออกมาแถลงกับผู้สื่อข่าวอีกครั้งว่า ไม่เคยพูดแม้แต่คำเดียวว่าน้ำยากลั้วคอดังกล่าวป้องกันโรคได้ ตนเองก็สงสัยผลการรักษาดังกล่าวอยู่แล้วตั้งแต่ต้น อยากให้สื่อมีความรับผิดชอบในการเขียนข่าวที่เป็นจริงด้วย
ผู้ว่ากล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาผลการศึกษา ตลอดจนจำนวนตัวเลขของผู้ป่วย ตลอดจนยาที่ใช้นั้นสามารถเข้าถึงได้ง่าย ทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสสูงที่จะหายได้เร็วขึ้น มันดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ แต่มันคือความจริง ขอเพียงแต่อย่ากักตุนยากันเป็นจำนวนมากเท่านั้นเอง
 
ความตื่นเต้นดีใจ จะโดยเจตนาหวังดี หรือหวังผลทางการเมืองของนักการเมืองในช่วงโควิด-19 มักจะทำให้มีการประกาศหรือแถลงของนักการเมืองอยู่เนืองๆ ว่ามีข่าวดี มีความหวังเกี่ยวกับการป้องกันรักษาโรคโควิด19 โดยที่ข้อมูลการศึกษาหรือการวิจัยยังไม่ชัดเจน ไม่เพียงพอ และยังไม่สามารถสรุปจนนำไปใช้ได้จริง และในที่สุดทำให้ต้องมีการออกมาแถลงแก้ข่าวเช่น กรณีของผู้ว่าโอซาก้า
แต่อย่างไรก็ดี ผู้นำบางประเทศยิ่งกว่าผู้ว่าโอซาก้าเสียอีก คือได้แถลงข่าวดีทำนองนี้และมิได้ออกมาแก้ไขให้ถูกต้องด้วย เช่น กรณีของ การใช้ไฮเตอร์ฆ่าเชื้อไวรัสในคน ยา Hydroxychloroquine หรือยา Avigan เป็นต้น
 
พวกเราจึงต้องฟังหูไว้หูเสมอ ในกรณีที่มีนักการเมืองออกมาแถลง ถึงเรื่องของยาที่ใช้รักษาได้แล้ว หรือกำลังจะผลิตวัคซีนสำเร็จในเดือนนั้นเดือนนี้ นับร้อยนับพันล้านเข็ม คงต้องรอฟังจากผู้ที่ทำการศึกษาวิจัยเรื่องนั้นๆโดยตรงออกมาแถลงจะดีกว่าครับ
 
Reference
 
ขอบคุณที่มา : ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย https://www.blockdit.com/articles/5f2ae6983742840e6abb92b4/#
Visitors: 1,213,183