พบหญิงชาวจีนวัย 68 ปี ติดเชื้อไวรัสโคโรนาซ้ำเป็นครั้งที่ 2 หลังจากหาย ไปแล้วนานถึง 6 เดือน

พบหญิงชาวจีนวัย 68 ปี ติดเชื้อไวรัสโคโรนาซ้ำเป็นครั้งที่ 2 หลังจากหายไปแล้วนานถึง 6 เดือน
 
 
Yang Zhanqiu รองผู้อำนวยการของมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น(Wuhan University)ได้แถลงข่าวในวันที่ 9 สค.2563 พบหญิงชาวจีนวัย 68 ปี จากเมือง Jingzhou ในเขตตอนกลางของมณฑลหูเป่ย(Hubei Province) ติดเชื้อโควิด-19 ซ้ำเป็นครั้งที่สอง
 
โดยเธอมีประวัติว่า เคยติดเชื้อโควิด19เมื่อ 6 เดือนก่อน คือวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 และได้รับการรักษาตัวจนหายดีแล้ว และให้กลับบ้านได้
 
เมื่อเวลาผ่านไป 6 เดือน กลับพบว่ามีอาการ และต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกครั้ง โดยตรวจพบการติดเชื้อไวรัสโคโรนาซ้ำเป็นครั้งที่สอง
 
จากการตรวจคนใกล้ชิดทุกคน ผลการทดสอบออกมาเป็นลบทั้งหมด นักไวรัสวิทยากล่าวว่า จัดเป็นกรณีที่พบได้ค่อนข้างยาก อาจจะเกิดจากเป็นคนที่มีเชื้อจำนวนน้อยคงอยู่ในตัวเป็นเวลานาน และยังไม่สามารถจะกำจัดเชื้อให้หมดไปได้
 
แต่การพบเชื้อนี้ ไม่ได้แปลว่าจะสามารถแพร่เชื้อออกไปได้ (Repositive ไม่เท่ากับ Infectious) ซึ่งสอดคล้องกับรายงานการศึกษาของประเทศเกาหลีใต้ ที่พบผู้ติดเชื้อซ้ำ 27 คน แต่เมื่อตรวจผู้ที่อยู่ใกล้ชิดจำนวน 790 คนแล้ว ไม่มีพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเลย
 
จากความรู้จนถึงปัจจุบันนั้น ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าการติดเชื้อไวรัสนั้นเมื่อหายแล้วก็จะมีภูมิต้านทานสูงอยู่ในระดับหนึ่ง ที่ป้องกันการติดเชื้อซ้ำได้ และภูมิต้านทานนั้นอย่างน้อยก็จะอยู่ไประยะเวลายาวนานพอสมควร
 
หลายคนกล่าวว่า การติดเชื้อซ้ำนั้นอาจมาจากความคลาดเคลื่อน เช่น ความแม่นยำถูกต้องในการทดสอบการติดเชื้อ แต่อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่เมืองจีนครั้งนี้ สอดคล้องกับที่เกาหลีใต้ และยังมีรายงานการศึกษาจากอิสราเอล ซึ่งมีการวินิจฉัยการติดเชื้อซ้ำครั้งที่สองด้วยเช่นกัน
 
จึงทำให้มีคำถามเกิดขึ้นว่า การติดเชื้อซ้ำนั้นอาจจะเกิดขึ้นกับโควิด-19 ได้จริง แม้จะมีไม่มากนักก็ตาม ทำให้วงการแพทย์จะต้องเร่งศึกษาค้นคว้าเรื่องนี้อย่างจริงจังต่อไป เพื่อทำความเข้าใจและพิสูจน์เรื่องนี้ให้ชัดเจนครับ เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ลำดับที่ 7 ที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 เป็นเชื้อไวรัสที่เรามีความรู้น้อย และต้องการการเรียนรู้เพิ่มเติมมากขึ้นทุกวันจริงๆครับ
 
Reference
 
 
ที่มา : ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย

 

Visitors: 1,198,067