‘ไข่เจียว’ 3 หอม เติมกลไก quercetin บำรุงปอด กับรหัสลับ 6:6:1

‘ไข่เจียว’ 3 หอม เติมกลไก quercetin บำรุงปอด กับรหัสลับ 6:6:1

‘ไข่เจียว’ 3 หอม เติมกลไก quercetin บำรุงปอด กับรหัสลับ 6:6:1
 
เติมคุณค่าโภชนาการให้ “ไข่เจียว” ด้วย quercetin จากผักตระกูล “หอม” เสริมภูมิคุ้มกันสู้ศึกไวรัส ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ พร้อมรหัส 6:6:1 เจียวไข่ไม่ก่อโรค

เพิ่มคุณค่าสารอาหารให้กับ “อาหารที่กินอยู่ทุกวัน” ด้วยการเติม ผัก เข้าไปในเมนู เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะในสถานการณ์ระบาดโรค โควิด-19 เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่ายและควรทำเป็นอย่างยิ่ง

“เหตุผลที่เราย้อนกลับมากินผักผลไม้ ก็เพราะเจ้าโควิดซึ่งไม่ยอมจะไปไหนสักที  เราก็ต้องระวังตัวว่าจะกินอะไรที่สามารถป้องกันโควิดได้จากอาหารธรรมดา คนก็จะมีคำถาม  อยากกินอาหารเพื่อสามารถป้องกัน แม้ไม่ใช่ยาที่กินปุ๊บหายป่วยปั๊บ กินปุ๊บไวรัสตายไปทันที  แต่อาหารเป็นสิ่งจำเป็นมากค่ะ ผักต่างๆ กินได้จริง ราคาไม่แพง ทำเมนูได้ง่ายๆ ด้วยค่ะ”  แววตา เอกชาวนา นักกำหนดอาหารวิชาชีพ ผู้เขียน blog 'กินดี by แวว' และที่ปรึกษา ‘โครงการกินผักผลไม้ดี 400 กรัม’ ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ  (สสส.) กล่าวไว้ในเพจเฟซบุ๊ก “โครงการกินผักผลไม้ดี 400 กรัม”

 

‘ไข่เจียว’ 3 หอม เติมกลไก quercetin บำรุงปอด กับรหัสลับ 6:6:1

ไข่ไก่ เหมาะสำหรับทำอาหารได้ง่ายๆ

อาหารที่เหมาะกับค่าครองชีพยุคนี้ ทำง่าย แต่สามารถเพิ่มคุณค่าได้ไม่ยาก นั่นก็คือ ไข่เจียว แถมยังมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน

คุณแววตากล่าวว่า โปรตีนจากไข่ จะช่วยฟื้นฟูร่างกาย แม้แต่กับคนที่ไม่ได้เป็นโควิด โปรตีนมีความจำแป็นมากๆ 

 

แววตา เอกชาวนา กับ ไข่เจียว 3 หอม 

แววตา เอกชาวนา กับ "ไข่เจียว 3 หอม" เพื่อสุขภาพ

อาหาร..ถ้ามีแต่ผักอย่างเดียว อาจไม่ค่อยจูงใจให้อยากรับประทาน พอเรานำผักที่เข้ากับไข่ ทั้งรสชาติและลักษณะ ก็ทำให้การกินผักง่ายขึ้น นั่นก็คือการนำ หอม 3 อย่าง ใส่ลงไปในไข่เจียว ประกอบด้วย หอมใหญ่ หอมแดง และ ต้นหอม ในปริมาณที่ลดหลั่นกันไป แต่รวมแล้วให้ได้ 50 กรัม/ไข่ไก่ 1 ฟอง

ยกตัวอย่าง ไข่ไก่ 1 ฟอง ใช้ทั้งไข่แดงไข่ขาว ใส่ทั้งหอมใหญ่ 20 กรัม หอมแดง 15 กรัม และต้นหอม 15 กรัม 
 

 

‘ไข่เจียว’ 3 หอม เติมกลไก quercetin บำรุงปอด กับรหัสลับ 6:6:1 

ไข่เจียว กับผักตระกูลหอม 3 ชนิด (credit photo: สสส.)

“ไข่ไก่เบอร์ 3 หนักประมาณ 55 กรัม และผักก็หนัก 50 กรัม  จะรวมตัวกันได้อย่างไร เราสามารถใช้เทคนิคได้หลายอย่างที่ทำให้ไข่หนึ่งฟองกับผักในปริมาณที่เท่ากัน ก่อตัวแล้วน่ารับประทาน ความเป็นนักกำหนดอาหา ต้องดูว่า วัตถุดิบรวมกันแล้วดีมากเลย และน่ากินหรือไม่ด้วย” คุณแววตา กล่าว

เทคนิคนั้นก็คือ การซอยหรือสับ หอมใหญ่และหอมแดงให้เป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนผสมลงกับไข่ก่อนการเจียว ส่วนต้นหอมปกติก็ใช้วิธีการซอยอยู่แล้ว การซอยหรือสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ ยังทำให้น้ำมันหอมระเหยในหอมใหญ่และหอมแดงกลบกลิ่นคาวของไข่ไก่บางส่วน ทำให้ไข่เจียวหอมน่ากินมากยิ่งขึ้น

 

‘ไข่เจียว’ 3 หอม เติมกลไก quercetin บำรุงปอด กับรหัสลับ 6:6:1

หอมใหญ่ มีสารพฤกษเคมีของผักสีขาว

การทำ ไข่เจียว 3 หอม ทำให้ไข่เจียวจานเดียวได้ผัก 3 สี  คือสีขาวของหอมใหญ่  สีม่วงของหอมแดง และสีเขียวของ ต้นหอม

  • ผักสีขาว มีสารพฤกษเคมีช่วยลดการอักเสบ ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด หอมใหญ่ยังเป็นผักที่มีวิตามินซีสูงแต่ไม่มีรสเปรี้ยว
  • ผักสีม่วง ทำลายสารก่อมะเร็ง กระตุ้นการทำงานของเซลล์ ชะลอความแก่ บำรุงเส้นผม
  • ผักสีเขียว มีสารคลอโรฟิลล์ต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิว ลดริ้วรอย ไฟเบอร์สูง ไม่อ้วน ช่วยระบบขับถ่าย

 

‘ไข่เจียว’ 3 หอม เติมกลไก quercetin บำรุงปอด กับรหัสลับ 6:6:1

หอมแดง (พันธุ์ไทย) มี "เควอซิติน" สูง

“หอมทั้งสามชนิดมีน้ำตาลมากกว่าผักอื่นๆ  แต่ไม่ใช่น้ำตาลที่ทำให้เราอ้วน เป็นน้ำตาลธรรมชาติ ทั้งหอมใหญ่และหอมแดงเป็นพืชที่มีความหวาน ค่าเฉลี่ยรวมกัน 1 ขีด มีน้ำตาลประมาณ 5 กรัม และหอมแดงมีความหวานมากกว่าหอมใหญ่” คุณแววตากล่าวและว่า ถ้าจะซื้อ ‘หอมแดง’ แนะนำให้เลือก หอมแดงไทย ที่หัวมีขนาดเล็กกว่าหอมแดงแขกและหอมแดงพม่าที่หัวมีขนาดใหญ่ เพราะหอมแดงไทยสีม่วงคล้ำ มี ธาตุเหล็ก มากกว่า

นอกจากหวานอร่อย ที่สำคัญ หอมแดง มีสารพฤกษเคมีชื่อ เควอซิติน (quercetin) ขึ้นท็อปเทนอันดับหนึ่ง ตามมาด้วย หอมใหญ่ เป็นอันดับสอง 
 

เควอซิติน คือสารต่อต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งจากธรรมชาติ พบเฉพาะพืชผักผลไม้เท่านั้น ไม่มีในเนื้อสัตว์ มีคุณสมบัติเด่นก็คือ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่สามารถบำรุงปอดได้ดี และสามารถทำให้ร่างกายของเราผลักเชื้อโรคที่เข้ามาให้ออกไป ป้องการอาการอักเสบและต้านไวรัสได้ แหล่งของเควอซิตินอยู่หอมทุกตระกูล แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือ หอมแดงพันธุ์ไทย

เอกสารนำเสนอโดย ผศ.ดร.เอกราช บำรุงพืชน์ ภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุคุณสมบัติของสารพฤกษเคมี เควอซิติน ไว้ว่าสามารถลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด เพิ่มการสลายไขมันในร่างกาย ลดความดันโลหิต ลดภาวะการอักเสบ

ขณะที่จดหมายข่าวกลุ่มวิจัยและพัฒนาการแพทย์ทางเลือกแบบบูรณาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยแพร่ผลงานเขียนของ รศ.จินตนาภรณ์ วัฒนธร ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ระบุเกี่ยวกับ เควอซิติน ว่า สามารถป้องกันโรคสมองเสื่อม พาร์กินสัน มีฤทธิ์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทําให้แผลหายเร็ว(unpublished data) ปกป้องผิวหนังจากแสงอุลตร้าไวโอเล็ต ลดการทําลายเซลล์ที่ทําหน้าที่สร้างอินซูลินในตับอ่อนของหนูที่ถูกเหนี่ยวนําภาวะเบาหวาน ลดอัตราการเกิดต้อกระจกในภาวะเบาหวาน ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่าเควอซิตินมีฤทธิ์ลดความบกพร่องการทํางานของเส้นประสาทที่พบในภาวะเบาหวาน (diabetic neuropathy) ตลอดจนบรรเทาอาการปวดทางระบบประสาท (Neuropathic pain)

 

‘ไข่เจียว’ 3 หอม เติมกลไก quercetin บำรุงปอด กับรหัสลับ 6:6:1

คนไทยกินไข่ได้วันละ 1 ฟอง

สำหรับบางคนมีภาวะ คลอเลสเตอรอลสูง อาจจะกังวลกับการกินไข่เจียว  คุณแววตาในฐานะนักกำหนดอาหารวิชาชีพกล่าวด้วยว่า “ขอประกาศเลยนะคะ คนไทยทุกคนสามารถกินไข่ได้วันละ 1 ฟอง ทั้งไข่ขาวไข่แดง”

แต่ถ้าต้องการเพิ่มปริมาณ ผักตระกูลหอม ให้มากขึ้นในไข่เจียว สามารถทำได้โดยซื้อ ไข่ขาวพาสเจอร์ไรส์ ผสมกับไข่ไก่ 1 ฟอง และเพิ่ม ‘หอม’ จาก 50 กรัม เป็น 100 กรัม เท่านี้ปริมาณไข่ก็กลบผักมิดเป็นไข่เจียว ไม่ใช่การผัดไข่ ทั้งอิ่ม ได้ใยอาหาร และโปรตีนเพิ่มจากไข่ขาวที่เติมลงไป ขณะที่ไข่แดงยังคงไว้ที่ 1 ฟองเหมือนเดิม

อีกวิธีหนึ่งคือ ผัดหอมใหญ่และหอมแดงในกระทะก่อนด้วยไฟปานกลาง เมื่อหัวหอมสลบบ้างแล้ว  ตักใส่ชามที่ตีไข่รอไว้ แล้วเทไข่ลงในกระทะเจียวต่อไป ไข่จะกลบหัวหอมเป็นไข่เจียวอย่างที่ต้องการ 

 

‘ไข่เจียว’ 3 หอม เติมกลไก quercetin บำรุงปอด กับรหัสลับ 6:6:1 เจียวไข่ตามรหัส 6:6:1 เพื่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม คุณแววตาฝากข้อแม้การทำไข่เจียวเพื่อให้ได้สุขภาพที่ดีไว้นิดหนึ่งด้วยว่า ต้องกลับไปที่กฎสุขภาพที่ สสส. และ กระทรวงสาธารณสุข กับรณรงค์ตัวเลข รหัส 6:6:1 กินแล้วไม่ก่อโรค ใน ‘โครงการลดหวานมันเค็ม’ คือการกินให้ได้ตามสูตร “หกหกหนึ่ง” นั่นก็คือ 

น้ำมัน ไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา 

น้ำตาล ไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา 

น้ำปลา มื้อละไม่เกิน 1 ช้อนชา 

“สูตรนี้ล่ะค่ะนำมาดัดแปลงเป็นเมนูไข่เจียว ถ้าเรากินกันสองคน น้ำปลาไม่เกิน 1 ช้อนชา ไข่เจียวสำหรับ 2 คน ใช้ไข่สองฟอง เพราะจะได้ไข่แดงคนละฟอง ต้องการให้อิ่มมากขึ้น เสริมโปรตีนให้ฟิต เติมไข่ขาวลงไป ใส่น้ำปลา 2 ช้อนชา เติมผักให้มากขึ้น เป็นเมนูเพิ่มโปรตีนเพิ่มผัก” 

คุณแววตายังกล่าวด้วยว่า ไข่เจียวที่ใช้น้ำมันน้อย สามารถรับประทานแทนอาหารมื้อหลักได้ รวมทั้งคนมีหน้าท้อง หรือรู้สึกว่าตัวเองอ้วน ไข่เจียวที่ไม่เค็มมากและเพิ่มปริมาณโปรตีนจากไข่ขาว ใช้รับประทานแทนมื้อเย็นได้ ไม่ต้องใส่ข้าว อย่างไรก็ตาม ‘ข้าว’ ก็ยังแนะนำให้รับประทานอยู่ แต่บางมื้อที่ไม่ต้องการกินแป้ง ก็มากินเป็นไข่เจียวเปล่าๆ แต่ต้องไม่เค็มมากเกินไป

 

 

 ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/961382

 

Visitors: 1,409,228