เสพติดการนอนจนกระทบสุขภาพจิต เพราะตื่นมาแล้วรู้สึกไม่สดชื่น อยากนอนต่อ จนสุดท้ายก็นอนอยู่บนเตียงไปแล้วจนหมดวันไม่ได้ทำอะไร บางคนมองว่าเป็นเพราะนิสัยความขี้เกียจ แต่ความจริงแล้วอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณอาจะเข้าข่ายเป็น “โรคเตียงดูด” เข้าแล้ว

 

อาการของโรคเตียงดูด

• ลุกจากเตียงยาก แม้จะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ แต่ก็ยังรู้สึกอยากนอนต่อ
• รู้สึกเหนื่อยล้า แม้จะไม่ได้ทำอะไรมากนัก
• ขาดความกระตือรือร้น ไม่มีความอยากทำกิจกรรมต่างๆ
• อารมณ์แปรปรวน อาจรู้สึกหงุดหงิด เฉื่อยชา หรือเศร้า
• ปัญหาในการนอนหลับ เช่น นอนไม่หลับ หลับไม่สนิท หรือตื่นกลางดึก

สาเหตุของ 'โรคเตียงดูด'

• ภาวะซึมเศร้าหมองและสิ้นหวังอาจทำให้ไม่อยากทำอะไร
• ความกังวลเกี่ยวกับอนาคตหรือปัญหาต่างๆ อาจทำให้รู้สึกอ่อนล้า
• ภาวะนอนไม่หลับอย่างต่อเนื่องจะส่งผลต่ออารมณ์และพลังงาน
• โรคทางกาย โรคบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์ทำงานผิดปกติ หรือภาวะโลหิตจาง อาจทำให้รู้สึกอ่อนล้า
• การใช้ยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการง่วงซึม
• การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล ในช่วงฤดูหนาว บางคนอาจรู้สึกอยากนอนมากขึ้น
• การใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การนอนหลับไม่เป็นเวลา หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ

วิธีรักษา โรคเตียงดูด

การรักษาโรคเตียงดูดจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง แพทย์อาจแนะนำให้

• ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน เช่น กำหนดเวลานอนและตื่นนอนให้เป็นเวลา
• รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและจิตใจสดใส
• รับการบำบัด หากสาเหตุเกิดจากภาวะซึมเศร้าหรือความวิตกกังวล
• รับประทานยา หากแพทย์วินิจฉัยว่าจำเป็น

คำแนะนำเพิ่มเติม:

นากจากนี้คุณยังสามารถสร้างบรรยากาศในการนอนที่ผ่อนคลายโดยห้องนอนควรมีความมืด เงียบ และเย็นสบาย

และหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ก่อนนอนเพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจอจะรบกวนการหลับ

ดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในปริมาณที่พอเหมาะเนื่องจากคาเฟอีนจะกระตุ้นให้ตื่นตัว

ควรหลีกเลี่ยงการงีบหลับในตอนกลางวัน การงีบหลับนานเกินไปอาจทำให้หลับยากในตอนกลางคืน