เมืองสีเขียวแห่งแรกในแอฟริกา ที่ รวันดา
เมืองสีเขียวแห่งแรกในแอฟริกา ที่ "รวันดา" เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ประเทศในแอฟริกา หันมาให้ความสำคัญกับการโครงการดีๆด้านสิ่งแวดล้อม เช่นโครงการนี้จากประเทศรวันดา เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา ประเทศรวันดาได้วางแผนจะสร้างเมืองแห่งอนาคตขึ้นมาโดยโครงการณ์นี้เรียกว่า โครงการ "กรีนซิตี้" หรือโครงการเมืองสีเขียว ที่ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมแบบรอบด้านตัวโครงการนี้จะตั้งอยู่บนพื้นที่ 620 เฮกตาร์ ใน Kinyinya, Gasabo Dustrict, Kigalu City โดยคาดว่าจะต้อวใช้งบประมาณในการก่อสร้างราว 4,000 - 5,000พันล้านเหรียญ * พื้นที่ 1 เฮกตาร์ = 10,000 ตารางเมตร หรือเทียบเป็นแบบไทยๆ เท่ากับ 6 ไร่ 1 งาน ปัจจุบันมีการพัฒนาสองโครงการบนพื้นที่สองส่วน ได้แก่ เฟส 1 - Cactus Green Park, การพัฒนาที่อยู่อาศัยจำนวน 410 หลังบนพื้นที่ 13 เฮกตาร์และ เฟส 2 ซึ่งเป็นการพัฒนาที่อยู่อาศัยบนพื้นที่ 125 เฮคเตอร์ ขั้นตอนต่อไปจะรวมถึงอาคารพาณิชย์และสำนักงาน การศึกษา การออกแบบที่เกี่ยวข้องเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนธันวาคม และการพัฒนาโครงการจะเริ่มในเดือนมกราคม 2563 เมืองนี้มีเป้าหมายที่จะมีเทคโนโลยีที่สะอาดยานพาหนะไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้าและเลนรถจักรยานยนต์ เน้นการใช้พลังงานหมุนเวียน การบำบัดของเสียอย่างยั่งยืน โรงงานก๊าซชีวภาพและป่าในเมืองพร้อมด้วย ระบบที่ป้องกันการเสื่อมสภาพของสิ่งแวดล้อมและมลพิษทางอากาศ
โครงการดังกล่าวจะเป็นต้วชี้วัดในการแสดงศักยภาพของเมืองสีเขียวในรวันดาและเป็นต้นแบบจำลองในการพัฒนาเมืองรองทั่วประเทศ สำหรับการระดมทุน ทางรวันดาได้จัดตั้งกองทุนสีเขียว ซึ่งรับการสนับสนุนทางการเงินจากกองทุนเพื่อความร่วมมือเพื่อการพัฒนาของเยอรมนี
กองทุนสีเขียวของรวันดาได้ทำสัญญากับ Sweco บริษัท วิศวกรรมและสถาปัตยกรรมแห่งยุโรปเพื่อสนับสนุนในการดำเนินโครงการ โครงการเมืองแห่งอนาคตนี้ จะรวมอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และจะมีการออกแบบการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและใช้พลังงานทดแทน การรีไซเคิล และมีรูปแบบการใช้ชีวิตแบบครบวงจร โดยใช้วัสดุก่อสร้างในท้องถิ่น
Green City จะมีโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยานพาหนะจะใช้ไฟฟ้าทั้งหมด รวมถึงราคาของที่อยู่อาศัยจะมีราคาไม่สูงมากนัก
โครงการที่พักอาศัยนี้จะมีราว 30,000 หน่วย โดยสามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ราว 150,000 คน นอกจากจะช่วยสนับสนุนแนวคิดในเรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแล้ว ยังคาดว่าสามารถจะสร้างงานในประเทศขึ้นอย่างน้อย 16,000 ตำแหน่งเลยทีเดียว References |