ค่าผลตรวจสุขภาพ บ่งบอกความเสี่ยงโรค (Check Up Report)
ค่าผลตรวจสุขภาพ บ่งบอกความเสี่ยงโรค (Check Up Report)![]() การตรวจสุขภาพ ช่วยค้นหาโรคบางอย่าง นำไปสู่การรักษาและป้องกันโรคได้ โดยตรวจตามโปรแกรมที่เลือกตรวจตามความต้องการ ค่าผลตรวจสุขภาพ จะบ่งบอกความเสี่ยงโรคหรือแนวโน้มความผิดปกติของร่างกายตั้งแต่ระยะเริ่มต้น นอกจากการตรวจสุขภาพแล้วการสังเกตอาการผิดปกติของร่างกายตัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อที่จะได้รีบพบแพทย์ หาสาเหตุของโรค และหาวิธีการรักษาต่อไป สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวและได้รับการรักษากับแพทย์ประจำอยู่แล้ว ผลการตรวจต่าง ๆ อาจมีการแปลผลที่ต่างออกไปจึงควรแจ้งข้อมูลแก่แพทย์ที่รักษาประจำเพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม ค่าผลตรวจสุขภาพที่ควรรู้อ้างอิงจากโปรแกรมการตรวจสุขภาพแบบพื้นฐานของ SiPH โดย นพ.นภดล อัสสพงษ์สุนทร อายุรแพทย์ประจำคลินิกตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ 1. ค่าความดันโลหิตค่าปกติ ในคนทั่วไปที่ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ควรเกิน 140/90 mmHg สำหรับการคัดกรองความดันโลหิตสูง ควรมีเครื่องวัดความดันโลหิตประจำที่บ้าน เพื่อคอยเช็กค่าความดันเป็นประจำ เพราะค่าความดันโลหิตมีปัจจัยกระทบได้ง่าย เช่น ความเหนื่อยล้า ความตื่นเต้น และความเครียด หรือการพักผ่อนน้อย ดังนั้นถ้ามีเครื่องวัดความดันประจำที่บ้านควรที่จะวัดเป็นประจำ เช่น หลังตื่นนอน และก่อนเข้านอน ถ้าวัดแล้วได้ค่าสูงเกิน 140/90 mmHg หลาย ๆ ครั้ง อาจจะมีความเสี่ยงความดันโลหิตสูง (เช็กเครื่องวัดความดันที่บ้าน โดยวัดเทียบกับเครื่องที่โรงพยาบาล ถ้าเครื่องที่บ้านวัดค่าได้ใกล้เคียงกับที่โรงพยาบาลถือว่าเชื่อถือได้) หากมีค่าความดันโลหิตสูง ถือว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก โรคหัวใจ โรคไต ควรต้องปรึกษาแพทย์ 2. ค่าน้ำตาลในเลือด (Fasting plasma glucose หรือ Fasting blood sugar)ค่าปกติ ของระดับน้ำตาลในเลือดก่อนอาหาร ควรเท่ากับ 70-99 mg/dl โดยทั่วไปทางการแพทย์ใช้การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดก่อนอาหาร (Fasting plasma glucose หรือ Fasting blood sugar) โดยต้องงดน้ำ งดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ก่อนตรวจเลือด (อาจจะจิบน้ำได้เล็กน้อย) เพื่อประเมินความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวาน ดังนั้นถ้าในภาวะปกติที่ไม่ได้มีการรักษาเบาหวานอยู่ ระดับน้ำตาลในเลือดก่อนอาหารต่ำกว่า 99 mg/dl แสดงว่าไม่ใช่โรคเบาหวาน แต่ถ้าระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่าหรือเท่ากับ 126 mg/dl ก็ถือว่าเป็นเบาหวานระยะเริ่มต้น หากระดับน้ำตาลในเลือดก่อนอาหารได้ 100-125 mg/dl ถือว่าผิดปกติ และมีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวาน ควรต้องมีการตรวจติดตามต่อไป และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดเบาหวานในอนาคต 3. ค่าไขมันในเลือด (Cholesterol, Triglyceride, HDL, LDL)ควรงดอาหารและน้ำประมาณ 12 ชั่วโมงก่อนทำการเจาะเลือด อาจจิบเฉพาะน้ำเปล่าได้เล็กน้อย โดยค่าไขมันในเลือดที่ตรวจมีดังต่อไปนี้
4. ค่าการทำงานของตับ (ALT/SGPT, AST/SGOT)การตรวจเลือดชนิดนี้ ช่วยบอกถึงการทำงานของตับได้ และไม่จำเป็นต้องงดอาหารก่อนการเจาะเลือด
5. ค่าการทำงานของไต (Creatinine, eGFR)เป็นการวัดค่าของเสียที่เกิดขึ้นในร่างกาย ซึ่งสามารถอนุมานถึงความสามารถในการทำงานของไตที่กรองของเสียในเลือดออกจากร่างกายทางปัสสาวะ ถ้าค่าที่ได้สูงเกินเกณฑ์ปกติ (ในผู้หญิง ค่า Cr ไม่ควรเกิน 1.02, ในผู้ชาย ค่า Cr ไม่ควรเกิน 1.18) ให้สงสัยว่ามีการทำงานของไตที่ผิดปกติ 6. การตรวจปัสสาวะเป็นการตรวจเพื่อคัดกรองในระบบทางเดินปัสสาวะว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เช่น มีการอักเสบติดเชื้อ มีนิ่วหรือความผิดปกติบางอย่าง เช่น ที่ไต กระเพาะปัสสาวะ หรือต่อมลูกหมาก 7. ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete blood count: CBC)เป็นการตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด คือ เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด ค่านี้จะช่วยบอกได้ว่าระบบเลือดมีความผิดปกติหรือไม่
ที่มา : https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/check-up-report
|