หมึกบลูริง กับอันตรายจากพิษร้ายแรง เสี่ยงเสียชีวิต
"หมึกบลูริง" กับอันตรายจากพิษร้ายแรง เสี่ยงเสียชีวิต
จากข่าวที่มีคนพบเห็นหมึกบลูริงเสียบไม้เตรียมย่างขายในตลาด พร้อมเตือนว่าหมึกบลูริงอันตราย ไม่ควรรับประทาน Sanook Health มีข้อมูลมาฝากว่า หมึกบลูริง อันตรายมากแค่ไหน
อ่านเพิ่มเติม SANOOK.COM
สายอาหารทะเลต้องระวัง! หมึกบลูริง พิษอันตรายมากแม้ย่างสุกก็ไม่สลาย ยังไม่มียาแก้
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เตือนประชาชนที่ซื้อปลาหมึกเสียบไม้ปิ้ง ให้ระวังเจอ ”หมึกบลูริง” ระบุมีพิษอันตรายมาก แม้ปรุงสุกก็ไม่สลาย ปัจจุบันยังไม่มียาแก้พิษใดๆ ต่อต้านได้
อันตรายจากหมึกบลูริง
หมึกสายวงน้ำเงิน หรือ หมึกบลูริง เป็นหมึกในสกุล Hapalochlaena อันดับหมึกยักษ์ จัดเป็นหมึกขนาดเล็กจำพวกหนึ่ง มีจุดเด่น คือสีสันตามลำตัวที่เป็นจุดวงกลมคล้ายแหวนสีน้ำเงินหรือสีม่วงซึ่งสามารถเรืองแสงได้เมื่อถูกคุกคาม ตัดพื้นลำตัวสีขาวหรือเขียว
หมึกบลูริง เป็นหมึกที่มีพิษทั้งจากการกัด หรือต่อยเหยื่อ เพื่อฉีดพิษเข้าสู่ร่างของเหยื่อ และหากมีสัตว์หรือคนไปสัมผัสกับหมึกบลูริง ก็อาจได้รับสารพิษจากตัวหมึกเองได้
หมึกบลูริง มีต่อมพิษที่สามารถกัดและปล่อยพิษได้ รวมถึงอวัยวะส่วนต่างๆของตัวมันเองก็มีพิษที่แฝงอยู่ด้วย ทำให้ใครเผลอกินไปก็สามารถติดพิษได้เช่นกัน
พิษของหมึกสายวงน้ำเงินเกิดจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในต่อมน้ำลายของมัน (เป็นแบคทีเรียสกุล Bacillus และ Pseudomonas) พิษเตโตรโดท็อกซินและแบคทีเรียยังพบได้ในไข่ของหมึก
สันนิษฐานว่าเป็นกระบวนการส่งถ่ายความสามารถในการสร้างพิษจากแม่หมึกไปยังลูก โดยพบได้ตั้งแต่แรกเกิดเลยด้วยซ้ำ
ในน่านน้ำของประเทศไทยนั้นมีหมึกสายวงน้ำเงินอย่างน้อย 1 สปีชีส์ (จากทั้งหมด 3-4 สปีชีส์) คือ Hapalochlaena maculosa สามารถพบได้ทั้งทางฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย
ต่อมพิษของหมึกชนิดนี้จะอยู่ที่ปาก (ต่อมน้ำลาย salivary gland) ไม่ได้กระจายทั่วไปตามลําตัว ผู้ที่ได้รับพิษนั้นจึงมักเกิดจากการถูกมันกัด ไม่ใช่จากการสัมผัสโดนตัว โดยพิษของหมึกชนิดนี้จะไม่สลายเมื่อถูกความร้อน หากนําไปปรุงอาหารจนสุก แล้วรับประทานเข้าไป ก็เสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้เช่นกัน จึงไม่ควรซื้อมาปรุงเป็นอาหารรับประทานเด็ดขาด
นอกจากนี้ พิษของหมึกบลูริงยังทนต่อความร้อนสูงถึง 200 องศา ดังนั้นการปิ้งย่างธรรมดาๆ จึงไม่สามารถลดพิษของหมึกบลูริงได้
พิษของหมึกบลูริง รุนแรงแค่ไหน?
หมึกบลูริง นับเป็นหนึ่งในสัตว์น้ำที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก แรงกว่างูทะเลหลายเท่า และยังแรงกว่าพิษงูเห่าถึง 20 เท่า สารพิษของหมึกสายวงน้ำเงินนั้น เรียกว่า เตโตรโดท็อกซิน (tetrodotoxin) เป็นพิษชนิดเดียวกับที่พบในปลาปักเป้า และอาจทำให้ผู้ที่ได้รับพิษมีอาการ ดังนี้
- หายใจไม่ออก
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- กระบังลมเป็นอัมพาตในทันที ทำให้ไม่สามารถนำอากาศเข้าสู่ปอดได้
- อาจเสียชีวิตภายใน 2-3 นาที
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อถูกพิษหมึกบลูริง
การปฐมพยาบาล ต้องหาวิธีนำอากาศเข้าสู่ปอด เช่น เป่าปาก จากนั้นต้องรีบนำส่งแพทย์โดยด่วน เพื่อใช้เครื่องช่วยหายใจ ถ้าช่วยชีวิตเป็นผล ผู้ป่วยจะฟื้นเป็นปกติภายใน 24 ชั่วโมง เว้นแต่ว่าจะขาดอากาศนานเกินไปจนสมองตาย
วิธีรักษาผู้ป่วยที่ได้รับพิษจากหมึกบลูริง
พิษของหมึกบลูริง ไม่มียารักษาโดยตรง คนที่ได้รับพิษจะต้องใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ ICU จนกว่าพิษจะสลายไปเอง ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันดีอาจรอดปลอดภัย แต่หากใครภูมิคุ้มกันไม่ดีมาก ร่างกายสู้ไม่ไหว ก็อาจเกิดภาวะระบบการหายใจล้มเหลวจนเสียชีวิตลงได้ในที่สุด
ดังนั้น การป้องกันที่ดีที่สุด คือการหลีกเลี่ยงการสัมผัส รับประทานหมึกบลูริงโดยสิ้นเชิง และควรหลีกเลี่ยงร้านค้าที่ไม่ทราบที่มาที่ไป หรือชนิดของอาหารที่ขายจะดีที่สุด
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :เฟซบุ๊กเพจ หมอเวร,เฟซบุ๊กเพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์,Wikipedia
ภาพ :iStock
|