WMO เตือนปี 2025 จ่อเผชิญสภาพอากาศร้อนจัดทุบสถิติต่อเนื่อง

WMO เตือนปี 2025 จ่อเผชิญสภาพอากาศร้อนจัดทุบสถิติต่อเนื่อง

 

องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) เตือนว่าจะสภาพอากาศที่ร้อนจัดเป็นประวัติการณ์ในปี 2024 มีแนวโน้มจะดำเนินต่อไปในปี 2025 ซึ่งจะยิ่งเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นและนำไปสู่ผลพวงแห่งหายนะ หากไม่มีการดำเนินการอย่างรวดเร็ว

รายงานขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) หน่วยงานด้านสภาพอากาศขององค์การสหประชาชาติ ระบุว่า ปี 2024 ที่ได้รับการจารึกว่าปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์นั้น ส่งท้ายทศวรรษที่ร้อนจัดอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนซึ่งเป็นผลมาจากกิจกรรมของมนุษย์ ในขณะที่ระดับของก๊าซเรือนกระจกที่กักเก็บความร้อนไว้ในชั้นบรรยากาศยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

WMO เตือนปี 2025 จ่อเผชิญสภาพอากาศร้อนจัดทุบสถิติต่อเนื่อง Credit AFP

WMO เตือนปี 2025 จ่อเผชิญสภาพอากาศร้อนจัดทุบสถิติต่อเนื่อง Credit AFP

 

 

หน่วยงานสภาพอากาศของสหประชาชาติเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการร่วมมือระหว่างประเทศที่มากขึ้นเพื่อจัดการกับความเสี่ยงจากความร้อนจัด โดย “เซเลสต์ ซาอูโล” (Celeste Saulo) เลขาธิการองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกที่เริ่มดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนมกราคม ปี 2024 เปิดเผยว่า

ในช่วงปีแรกของการรับหน้าที่ ได้ออกประกาศเตือนภัยระดับสีแดง (Red Alerts) เกี่ยวกับสภวาะของสภาพอากาศซ้ำแล้วซ้ำเล่า เนื่องจากอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นแม้เพียงเศษเสี้ยวขององศาเซลเซียสจากภาวะโลกร้อนนั้นมีความสำคัญ เพราะสามารถส่งผลทำให้สภาพอากาศรุนแรงขึ้น ยังไม่รวมถึง ผลกระทบและความเสี่ยงด้านภูมิอากาศต่าง ๆ 

 

รายงานเรื่อง State of the Climate 2024 ขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก แสดงให้เห็นว่า อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกในระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน อบอุ่นกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม 1.54 องศาเซลเซียส และสูงกว่าระดับที่กำหนดไว้ในความตกลงปารีสปี 2015 ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

 

WMO เตือนปี 2025 จ่อเผชิญสภาพอากาศร้อนจัดทุบสถิติต่อเนื่อง Credit Reuters

WMO เตือนปี 2025 จ่อเผชิญสภาพอากาศร้อนจัดทุบสถิติต่อเนื่อง Credit Reuters

 

รายงานเรื่อง Emission Gap ของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติในปี 2024 ก็เตือนว่า อุณหภูมิโลกน่าจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 3.1 องศาเซลเซียสภายในสิ้นศตวรรษนี้ หากไม่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ

เลขาธิการ WMO ระบุด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศปรากฎให้เห็นต่อหน้าต่อตามนุษย์ทุกเมื่อเชื่อวัน ในรูปแบบของเหตุภัยพิบัติที่เกิดบ่อยครั้งขึ้นและผลกระทบจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว

ปีนี้ ทุกคนได้เห็นเหตุการณ์ฝนตกหนักและน้ำท่วมรุนแรงสุดทุบสถิติเท่าที่เคยมีการบันทึกไว้ รวมถึง การสูญเสียชีวิตของผู้คนในหลายประเทศ ซึ่งสร้างความเศกเศร้าเสียใจให้กับชุมชนในทุกทวีปทั่วโลก

 

 

รายงานชิ้นใหม่ของ World Weather Attribution (WWA) และ Climate Central ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นปัจจัยที่เพิ่มความรุนแรงให้กับภัยพิบัติทางธรรมชาติถึง 26 เหตุการณ์จากทั้งหมด 29 เหตุการณ์

ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3,700 คนและมีผู้พลัดถิ่นหลายล้านคน พร้อมระบุด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศยังทำให้วันที่มีความร้อนระดับเป็นอันตรายเพิ่มขึ้น 41 วันในปี 2024 ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์และระบบนิเวศด้วย

เพื่อเป็นการตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของเลขาธิการองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก เกี่ยวกับอากาศร้อนจัด กลุ่มผู้เชี่ยวชาญจาก 15 องค์กรระหว่างประเทศ ตัวแทนจาก 12 ประเทศ

ตลอดจน นักวิชาการชั้นนำและพันธมิตรองค์กรไม่แสวงผลกำไร ได้พบหารือกันที่สำนักงานใหญ่ขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลกในนครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อจัดการกับภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้น

ถือเป็นหนึ่งในโครงการริเริ่มขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลกที่มุ่งปกป้องสุขภาพอนามัยของประชาชนผ่านการปรับปรุงบริการด้านข้อมูลสภาพอากาศและการเตือนภัยล่วงหน้า

 

ที่มา: voanews

https://www.springnews.co.th/keep-the-world/climate-change/855058







Visitors: 1,419,194