ฤดูร้อนปี 2023 ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์โลก สภาพอากาศล่มสลาย เริ่มขึ้นแล้ว

ฤดูร้อนปี 2023 ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์โลก สภาพอากาศล่มสลาย เริ่มขึ้นแล้ว

ฤดูร้อนปี 2023 ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์โลก สภาพอากาศล่มสลาย เริ่มขึ้นแล้ว

UN ประกาศ "สภาพอากาศโลกล่มสลาย" เริ่มขึ้นแล้ว หลังข้อมูลการศึกษาเผย หน้าร้อนปี 2023 ทุบสถิติ เป็นฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์โลก แก้ไขยากแล้ว

ดูเหมือนว่า ปี 2023 จะเป็นปีที่ร้อนสุดเท่าที่มนุษย์เคยพบเจอมา เพราะล่าสุด สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของสหประชาชาติ ประกาศว่า “ฤดูร้อนของปี 2023 เป็นช่วงที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา” เนื่องจากสภาพภูมิอากาศและปรากฏการณ์เอลนีโญที่เพิ่งอุบัติขึ้นมา ส่งผลให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงขึ้นและทำให้เกิดสภาพอากาศเลวร้ายไปทั่วโลก

 

Cr. REUTERS

Cr. REUTERS

 

โดยในช่วง 3 เดือน คือ มิถุนายน กรกฎาคม และสิงหาคม เป็นช่วงฤดูร้อนของประเทศในซีกโลกเหนือ อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกสูงถึง 16.77 องซาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยระหว่างปี 1991 ถึงปี 2020 ที่เคยอยู่ที่ 0.66 องศาเซลเซียส ตามข้อมูลจาก European Union Climate Change Service

 

ความดันเฉลี่ยของระดับน้ำทะเลปานกลาง ช่วงปี 1991-2020

ความดันเฉลี่ยของระดับน้ำทะเลปานกลาง ช่วงปี 1991-2020ซึ่งถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในแง่ของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งข้อมูลจาก Copernicus Climate Service (C3S) ของสหภาพยุโรป เผยว่า เดือนสิงหาคมมีอุณหภูมิอุ่นกว่าค่าเฉลี่ยก่อนยุคอุตสาหกรรมประมาณ 1.5 องศาเซลเซียส ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า เป้าหมายเดิมของมนุษย์ในการควบคุมอุณหภูมิโลกให้ต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียสนั้น “พังไม่เป็นท่า”

เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนจากเปลวไฟและมวลน้ำท่วม ผลพวงของคลื่นความร้อน ที่ลามยาวตั้งแต่อเมริกาเหนือ จรดอเมริกาใต้ ไปจนถึงยุโรป อินเดีย ญี่ปุ่น และจีน จนทำลายชีวิตทั้งคนและสัตว์ไปจำนวนมากโดยที่ผู้คนรอบตัวไม่ทันตั้งตัว โดยได้รับผลพวงมาจากภาวะโลกร้อน

 

António Manuel de Oliveira Guterres เลขาธิการสหประชาชาติ Cr.REUTERS

António Manuel de Oliveira Guterres เลขาธิการสหประชาชาติ Cr.REUTERS

“โลกของเราเพิ่งผ่านฤดูแห่งความเดือดปุดๆ ตอนนี้เราก็เผชิญกับฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา สภาพภูมิอากาศเริ่มพังทลายลงแล้ว นักวิทยาศาสตร์เตือนมานานแล้วว่าการเสพติดเชื้อเพลิงฟอสซิลของเราจะส่งผลให้สภาพภูมิอากาศของเราระเบิดอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่เราจะรับมือได้ โดยจะเห็นได้จากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วที่กำลังเกิดขึ้นทุกมุมโลก” นาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าว

 

มหาสมุทรมีอากาศร้อนเป็นพิเศษในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ข้อมูล C3S แสดงให้เห็นว่า ทุก ๆ วันในเดือนสิงหาคม อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลเฉลี่ยทั่วโลกสูงกว่าสถิติก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคม 2016 ซึ่งเป็นปีเอลนีโญเช่นกัน อุณหภูมิของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 25.19 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม และขอบเขตน้ำแข็งในทะเลแอนตาร์กติกก็ต่ำมากเช่นกันในช่วงเวลาของปี

 

Cr. REUTERS

Cr. REUTERS

เมื่อเดือนสิงหาคม สำนักข่าว The Guardian ได้สัมภาษณ์นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศชั้นนำของโลก 45 คน ซึ่งกล่าวว่า อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นในปี 2566 สอดคล้องกับการคาดการณ์ที่พวกเขาศึกษามานานหลายสิบปี โดยพวกเขามีความเห็นตรงกันว่า ผลกระทบรุนแรงกว่าที่คาดไว้

ผลการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากคลื่นความร้อนของยุโรปในปี 2022 มากกว่า 61,000 ราย ซึ่งรวมถึงผู้เสียชีวิตในสหราชอาณาจักรมากกว่า 3,000 ราย

สุดท้ายนี้  ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า การค้นพบนี้เป็นการค้นพบที่ “สิ้นหวัง” และมองว่าโลกอยู่ห่างจากการรักษาอุณหภูมิให้ต่ำกว่าเป้าหมายคือ 1.5 องศาเซลเซียสมาก    

ที่มาข้อมูล

The Guardian

Reuters

CBS News

 

ที่มา : https://www.springnews.co.th/keep-the-world/climate-change/842986

 

 

Visitors: 1,405,421