รู้จักระบบ SAOT เทคโนโลยีจับล้ำหน้าที่ทำเอกวาดอร์ ชวดประตูแรก

รู้จักระบบ SAOT เทคโนโลยีจับล้ำหน้าที่ทำ "เอกวาดอร์" ชวดประตูแรก
 

หลายคนยังสงสัยกับจังหวะพลาดประตูแรกของเอกวาดอร์ ที่ถูกจับล้ำหน้าจากการใช้เทคโนโลยี SAOT มาช่วยตัดสิน ระบบนี้ทำงานอย่างไร และจังหวะดังกล่าวเกิดอะไรขึ้น มาไขคำตอบไปด้วยกัน

 

ควันหลงนัดเปิดสนามของ "ฟุตบอลโลก 2022" รอบสุดท้าย ซึ่งทีมเจ้าภาพ กาตาร์ พ่ายต่อ ทีมชาติเอกวาดอร์ 0-2 อย่างไรก็ตามเกมนี้เกิดจังหวะดราม่าขึ้นตั้งแต่นาทีที่ 3 เมื่อ เอนนอร์ วาเลนเซีย ดาวยิงตัวเก่งของทีมชาติเอกวาดอร์ โหม่งพาทีมขึ้นนำ 1-0 แต่ถูกยึดประตูคืนเนื่องจากตัดสินว่าเป็นการล้ำหน้า โดยใช้ระบบ SAOT มาช่วยตัดสิน

SAOT คืออะไร
ระบบ "จับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ" (Semi-automated offside technology-SAOT) เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) นำมาใช้อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในศึกฟุตบอลโลก 2022 เพื่อใช้ตรวจจับการล้ำหน้าของผู้เล่นขณะแข่งขันให้มีความแม่นยำมากขึ้น 

การทำงานของระบบดังกล่าว จะมีเซ็นเซอร์อยู่ที่ลูกบอลเพื่อระบุพิกัดตำแหน่ง ทำงานร่วมกับกล้องอีก 12 ตัวในสนาม รวมทั้งจับข้อมูลตำแหน่งผู้เล่นแต่ละคนออกมา 29 จุดของร่างกาย เพื่อดูว่ามีส่วนใดที่ล้ำหน้าหรือไม่ ซึ่งข้อมูลดังหล่าวถูกเก็บที่ระดับ 50 ครั้งต่อวินาที และคำนวณการล้ำหน้าอัตโนมัติ เพื่อแจ้งเตือนไปยังผู้ตัดสินในสนาม

ข้อมูลดังกล่าวยังถูกนำมาสร้างเป็นวิดีโอ 3D เพื่ออธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแบบทันที และนำภาพวิดีโอนี้ออกอากาศระหว่างการถ่ายทอดสดให้ผู้ชมรับรู้ด้วย

 

เทคโนโลยี SAOT
เทคโนโลยี SAOT

 

อธิบายจังหวะปัญหา
จากจังหวะในนาทีที่ 3 ไมเคิล เอสตราดา ของ เอกวาดอร์ ถูกจับล้ำหน้า เนื่องมาจากแม้จะมีผู้เล่นที่อยู่ต่ำกว่า เอสตราดา ยืนอยู่ แต่เมื่อผู้รักษาประตูออกจากเส้นกรอบ 6 หลามาปัดบอล ทำให้จังหวะนี้กลายเป็นลูกล้ำหน้าเพราะต้องมีผู้เล่นฝ่ายรับอยู่ไม่น้อยกว่า 2 คน (ปกติคือ ผู้รักษาประตู+กองหลัง แต่จังหวะนี้ผู้รักษาประตูไม่อยู่จึงต้องมีกองหลัง 2 คนถึงจะไม่ล้ำหน้า)

ซึ่งจังหวะนี้ ไมเคิล เอสตราดา ถูกเทคโนโลยี SAOT จับภาพได้ว่า ขาขวาของเจ้าตัวเกินมาแค่ครึ่งขาเท่านั้น และทำให้ถูกจับล้ำหน้าและพลาดประตูแรกไปอย่างน่าเสียดาย 

 

 

 

ที่มา : https://www.nationtv.tv/sport/378893447

 

Visitors: 1,405,368