ไทยยังคงติดท็อป 3 ฟิชชิง-กลโกง-ละเมิดข้อมูล เร่งป้องกันข้อมูลส่วนตัวรั่ว

ไทยยังคงติดท็อป 3 ฟิชชิง-กลโกง-ละเมิดข้อมูล เร่งป้องกันข้อมูลส่วนตัวรั่ว

ผู้เชี่ยวชาญ แคสเปอร์สกี้ เตือนภัยไซเบอร์ ยังคงเสี่ยงสูง โดยภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เจอการหลอกให้ลงทุน ฉ้อโกงคริปโต และการพนัน พร้อมเตือนระวังภัยจากการรับสมัครงานด้วย

นายวิทาลี คัมลัก หัวหน้าศูนย์วิจัยของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทีมวิจัยและวิเคราะห์ระดับโลก (Global Research and Analysis Team หรือ GReAT) แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า ด้วยความพยายามในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลส่งผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลของเอเชียแปซิฟิก ยังคงเป็นไปได้ดีต่อเนื่องอีก 5 ปีข้างหน้า รวมทั้งการนำเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การชำระเงินดิจิทัล, Super Apps, IoT, เมืองอัจฉริยะ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้งานมากขึ้น

การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ จึงเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยรับแรงกระแทกที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

แคสเปอร์สกี้ พบว่า การจารกรรมทางไซเบอร์ยังเป็นเป้าหมายหลักของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ในเอเชีย คาดว่าประเทศที่จะเจอปัญหาภัยไซเบอร์นี้ ได้แก่

  1. เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย)
  2. สิงคโปร์
  3. เกาหลีใต้ 

การหลอกลวงให้รัก ยังเป็นภัยไซเบอร์อันดับหนึ่ง

จากข้อมูลของสหประชาชาติ พบว่า มีเหยื่อหลายแสนคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังคงเจอปัญหาภัยไซเบอร์บนโลกออนไลน์กันอยู่มาก แบ่งเป็น

  1. การหลอกลวงการลงทุนแบบโรแมนติก
  2. การฉ้อโกงคริปโต
  3. การฟอกเงิน
  4. การพนันที่ผิดกฎหมาย
  5. การรับสมัครเพื่อปฏิบัติการที่มีความผิดทางอาญา

ทั้งนี้ การโฆษณาเพื่อรับสมัครวิชาชีพ เช่น โปรแกรมเมอร์ นักการตลาด หรือผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคล เป็นการขโมยข้อมูลและประวัติต่างๆ อย่างเต็มรูปแบบ และเหยื่อมักจะรู้ไม่เท่าทัน กว่าจะทราบก็อาจจะเจอกลโกงซ้ำซ้อน เช่น ตำรวจสวมรอยว่าทำความผิด ให้โอนเงิน กลายเป็นต้องเสียรู้มิจฉาชีพหลายทาง

 

ภัยไซเบอร์ยังระบาดหนัก

ภัยไซเบอร์ยังระบาดหนัก

อย่างไรก็ตาม การโจมตีแบบหลอกลวงออนไลน์และฟิชชิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากความไม่รู้ด้านเทคนิคและกฎหมาย ตั้งแต่ผู้ปฏิบัติงานไปจนถึงผู้ตกเป็นเหยื่อ

 

สิงคโปร์-เกาหลีใต้ เจอภัยไซเบอร์ไม่หยุดหย่อน

แม้สิงคโปร์และเกาหลีใต้ เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่มีความแข็งแรงในเรื่องการใช้งานออนไลน์แล้ว แต่เรื่องของการรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดข้อมูล ยังคงมีปัญหาอยู่บ้าง

3 เคสสำคัญที่เจอการโจมตีอย่างหนักในสิงคโปร์ คือ

  • DBS และ Citibank สองธนาคารยักษ์ใหญ่ในสิงคโปร์ ต้องหยุดให้บริการทางการเงิน เพราะศูนย์ข้อมูลหยุดทำงาน ทำให้ธุรกรรมล้มเหลว 2.5 ล้านรายการ 
  • เว็บไซต์ของโรงพยาบาลและคลินิกหลายแห่ง เจอการโจมตีแบบ DDos ทำให้ข้อมูลให้เครือข่ายหยุดชะงักใช้บริการไม่ได้ และประชาชนเข้าใช้บริการออนไลน์ไม่ได้
  • เว็บไซต์เก่าแก่ของสิงคโปร์หลายแห่ง ทั้งเว็บไซต์วัดเก่าแก่ เว็บข้อมูลการเกษียณอายุ หน่วยงานการท่องเที่ยวและธุรกิจอื่นๆ ถูกเปลี่ยนแปลงหน้าเว็บไซต์

เหตุการณ์สำคัญที่เจอการโจมตีอย่างหนักในเกาหลีใต้ คือ

  • การเลือกตั้งครั้งใหญ่ในเกาหลีใต้ ถูกโจมตีจากแฮกเกอร์ฝ่ายตรงข้าม เพื่อขัดขวางกระบวนการทางการเมืองและมีการปล่อยข่าวลวงต่างๆ
  • แฮกเกอร์แทรกซึมเข้าไปในเว็บไซต์สำคัญของหน่วยงานภาครัฐจำนวนมาก ทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีเจอช่องโหว่จากซอฟต์แวร์ต่างๆ ส่งผลให้อุตสาหกรรมต่างๆ ได้รับความเสียหาย

สำหรับวิธีป้องกันภัยไซเบอร์ทุกรูปแบบที่ดีนั้น คือ อัปเดตซอฟต์แวร์ให้ใหม่อยู่เสมอ จากช่องทางที่ถูกต้อง ไม่ใช่คลิกลิงก์จากการแจ้งเตือนที่สุ่มเสี่ยง มีระบบการป้องกันที่รัดกุม รวมทั้งไม่หลงเชื่อคำลวงจากบุคคลต้องสงสัย หรือเข้าไปกดลิงก์ที่ดูไม่น่าเชื่อถือ

 

ที่มา : https://www.springnews.co.th/digital-tech/847368

 

Visitors: 1,382,955