เพราะช่วง “ตื่น” ของเราไม่เท่ากัน “Chronotype” จากสัตว์ทั้ง 4

เพราะช่วง “ตื่น” ของเราไม่เท่ากัน “Chronotype” จากสัตว์ทั้ง 4

เราอาจเคยได้ยินเรื่องนาฬิกาชีวิตกันมาบ้างแล้ว คนเราควรนอนตอนดึก ตื่นตอนเช้า ซึ่งคนที่ตื่นสายเลยโดนหาว่าขี้เกียจไปโดยปริยาย แต่รู้หรือไม่ว่า จริง ๆ แล้ว Chronotype ของแต่ละคนนั้นมีลักษณะแตกต่างกันไป ทำให้เรามีช่วงเวลาที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแตกต่างกันไป หรือแม้แต่ช่วงเวลานอนของเราก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งเราสามารถแบ่ง Chronotype ออกได้เป็น 4 ประเภท

1. หมี

คนประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ – 55 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ประเภทนี้ โดยลักษณะการนอนของคนกลุ่มนี้จะนอนและตื่นเป็นเวลา แต่บางทีเวลาตื่นก็จะรู้สึกเหมือนนอนไม่พออยู่ตลอดเวลา เป็นเพราะช่วงเวลาทำงานสูงสุดของคนกลุ่มนี้จะอยู่ที่ช่วง 11.00 น. – 18.00 น. ทำให้ตอนเช้าที่ตื่นมาบางครั้งจึงเหมือนหมีที่ขี้เซา กว่าจะตื่นเต็มตาก็เกือบเที่ยงไปแล้ว โดยเฉพาะช่วงบ่ายสอง หลังทานข้าวเที่ยง คนกลุ่มนี้จะเริ่มกลับมาเนือย ๆ อีกครั้ง แต่น่าประหลาดใจว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ชาวหมีจะรู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษ

หลังจากจบช่วงบ่ายถึงเย็นไปแล้ว กลุ่มหมีจะเริ่มง่วงจริง ๆ ราวสองถึงสามทุ่ม แต่พวกเขายังไม่นอนหรอก เพราะข้ออ้างของชาวหมีคือ การบอกคนอื่นว่านอนดึกเลยตื่นสาย เพราะฉะนั้น หากรู้ตัวว่าเป็นคนตื่นยาก ก็ให้รีบเข้านอนก่อนเที่ยงคืน เพราะคนกลุ่มนี้หากนอนไม่ครบ 8 ชั่วโมง ทั้งวันที่ตื่นมาจะกลายเป็นคุณหมีขี้บ่นไปแทน

เคล็ดลับเล็กน้อยสำหรับคนที่รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในจำพวกหมีคือ ตอนเช้าที่ตื่นมาให้วอร์มร่างกายก่อนสักเล็กน้อย ทานกาแฟในช่วงใกล้สิบเอ็ดโมง และบ่ายสองให้พกขนมที่มีโปรตีนสูง เช่น พวกถั่วไว้ใกล้ตัวเพื่อเพิ่มพลังทำงานไปจนถึงเย็นได้ เพียงเท่านี้คนกลุ่มนี้ก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้วล่ะ

2. สิงโต

คนกลุ่มนี้คือคนที่เด้งตื่นขึ้นมาเองได้โดยไม่ต้องอาศัยนาฬิกาปลุก เราสามารถสังเกตคนกลุ่มนี้ได้ง่าย ๆ จากไลน์ที่เด้งขึ้นมาหรืออีเมลที่ส่งมาก่อนชาวบ้านชาวช่องราวประมาณตีห้า หรือหกโมง นั่นแหละ คนประเภทสิงโตที่มีอยู่ราว 15 เปอร์เซ็นต์

เนื่องด้วยการตื่นเช้าก่อนที่ชาวบ้านจะตื่นนอน การออกกำลังกายตอนเช้าจึงเป็นเรื่องที่เหมาะเจาะกับคนกลุ่มนี้มากที่สุด หลังจากทานมื้อเช้าแล้ว เวลาเหมาะเจาะสำหรับกาแฟคือช่วงเวลาประมาณเก้าโมงเช้า ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงเวลาการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือช่วง 10.00 น. – 17.00 น. โดยหากต้องการระดมความคิดหรือทำงานที่ต้องใช้ความคิดมาก ๆ ช่วงเช้าจนถึงสายเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับสิงโตมาก และสติของสิงโตจะเริ่มหลุดประมาณช่วงบ่ายสาม หลังช่วงบ่ายสามเป็นต้นไปให้ทำงานง่าย ๆ ที่ไม่ต้องใช้พลังงานสมองเยอะจะดีที่สุด

เพราะคนกลุ่มนี้ชอบการตื่นเช้าเป็นพิเศษ ดังนั้นเพื่อการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ จึงควรเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ หรือก่อนห้าทุ่มได้จะดีที่สุด

3. หมาป่า

คนกลุ่มนี้เรียกได้ว่าเป็นยอดคนถึก เพราะนอนดึก ตื่นเช้าได้โดยไม่มีปัญหาอะไร ยกเว้นแต่ว่าถ้าทำบ่อย ๆ เข้าจะมีปัญหาด้านสุขภาพตามมาเร็วที่สุดด้วยเหมือนกัน

แม้ว่าจะตื่นเช้าได้ แต่ช่วงเวลาการทำงานของมนุษย์หมาป่านั้นก็เป็นช่วงหลังบ่ายจนถึงค่ำมืดเป็นต้นไป ทำให้การทำงานกับคนกลุ่มนี้อาจจะแตกต่างกันคนอื่น ๆ คือ กว่าจะเริ่มวันได้ก็เลยช่วงเที่ยง และสิ้นสุดช่วง Top perform คือราวห้าทุ่ม ดังนั้นคนกลุ่มหมาป่าจึงต้องวางแผนชีวิตตัวเองให้ดีกว่าคนอื่น ๆ โดยช่วงบ่ายจนไปถึงค่ำ คือช่วงเวลาทำงานที่ต้องใช้สมอง และวางแผนการทำงานอย่างรอบคอบ ซึ่งก่อนเข้านอน คนกลุ่มนี้ต้องวางแผนเผื่อสำหรับการทำงานในวันถัดไปเลย โดยวางตารางเอาไว้อย่างแม่นยำ

แต่แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ข้ออ้างในการนอนดึกจนทำให้เสียสุขภาพ อย่างไรก็ตามมนุษย์หมาป่าก็ยังมีความเป็นมนุษย์ พวกเขาไม่ควรเข้านอนหลังตีสองอย่างเด็ดขาด และควรนอนให้ครบชั่วโมงนอน และตอนเช้าที่เป็นช่วงเวลายากลำบากของคนกลุ่มนี้ให้ตั้ง Snooze หลาย ๆ ครั้ง เพื่อไม่ให้วันรุ่งขึ้นไปทำงานสาย

4. โลมา

รู้หรือไม่ว่า โลมาเป็นสัตว์ที่นอนหลับไม่สนิท เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าคุณรู้สึกว่า การนอนหลับก็ไม่ใช่เรื่องยาก การตื่นก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่หลับให้สนิทนี่ยากที่สุด คุณอาจจะเป็นคนกลุ่มนี้ที่หลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดทั้งคืน

เพราะฉะนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงอาการเพลียเรื้อรังจากการนอนหลับไม่สนิท คนกลุ่มนี้ต้องทำให้ทั้งวันมีประสิทธิภาพ โดยการตื่นตอนเช้าแล้วไปออกกำลังกายเบา ๆ หรือไปเดินเล่นเพื่อให้ร่างกายมีการขยับก่อนเริ่มทำงานอย่างจริงจัง (แม้จะฟังดูยากเหลือเกิน แต่ต้องพยายามสักหน่อย) และช่วงสาย ๆ จนถึงบ่าย ๆ จะเป็นช่วงที่มี Top Perform มาก ซึ่งคนกลุ่มนี้ต้องพยายามหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟที่มากเกินไป เป็นไปได้ให้เป็นกาแฟแบบ DeCaf หรือลดคาเฟอีนลงมาหน่อยเพื่อที่ว่าตอนกลางคืนจะได้นอนหลับสนิทมากขึ้น

โดยการออกกำลังกายช่วงเย็นควรเป็นการออกกำลังกายที่ได้ยืดเส้น อย่าง โยคะ เป็นต้น ไม่ควรออกกำลังกายหนักที่จะทำให้กลางคืนยาวนานมากขึ้นไปอีก

การที่เรารู้จัก Chronotype ของตัวเองทำให้เรามีวิธีการในการปรับตัวในการทำงานมากขึ้น แต่ทั้ง 4 กลุ่มนี้ไม่ได้เป็นข้ออ้างในการนอนดึกตื่นสาย แต่เป็นเพียงวิธีการที่จะทำให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นต่างหาก

อ้างอิง:

 

ที่มา : https://www.brandthink.me/content/chronotype

 

 

Visitors: 1,222,192