สงกรานต์เป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญที่สุดของปีของคนไทย เพราะว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นสิ่งดีๆ รดน้ำอวยพรให้กัน ทำความเคารพญาติผู้ใหญ่ และที่สำคัญคือเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวและเพื่อนฝูงได้มารวมตัวฉลองปีใหม่ไทยกัน 

วันนี้ Facebook จึงได้ปล่อยฟีเจอร์ใหม่เพื่อร่วมฉลองเทศกาลสงกรานต์แบบออนไลน์ไปด้วยกัน ผ่านกิจกรรม #SongkranTogether เพื่อให้คนไทยได้เชื่อมต่อถึงกันและส่งต่อความสุขให้กับคนที่พวกเขารักในช่วงวันหยุดนี้ 

แม้จะเป็นช่วงที่ทุกคนยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์โรคระบาด ฟีเจอร์ใหม่ต่างๆ จาก Facebook และ Instagram นั้นรวมไปถึง AR ฟิลเตอร์ กรอบรูปโปรไฟล์ และสติ๊กเกอร์ชุดใหม่ที่ออกแบบร่วมกับศิลปินที่มีผลงานระดับโลกอย่าง “ก้องกาน” หรือคุณกันตภณ เมธีกุล โดยมาพร้อมคาแรกเตอร์ที่มีความหลากหลาย ดูอบอุ่น แทรกความสนุกภายใต้สไตล์เทเลพอร์ต (Teleport) หรือหลุมดำอันโด่งดัง

ล่าสุด เปิดผลการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค โดยระบุว่า  “ความสะดวกสบาย” เป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดย 89% ของคนไทยยินดีจ่ายเพิ่ม เพื่อสินค้าและบริการเพื่อช่วยประหยัดเวลา

คนไทยมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ ผู้ใช้งาน 37 ล้านคนในไทยดู Facebook Watch ทุกๆ เดือน และ 88% สนใจฟีเจอร์ AR จากแบรนด์ต่างๆ 

แพร ดํารงค์มงคลกุล Country Director Facebook ประเทศไทย กล่าวว่า โควิด-19 สร้างวิถีปฏิบัติใหม่ให้กับผู้คน รวมถึงข้อจำกัดบางประการ ธุรกิจต่างๆ ต่างกำลังปรับตัวเพื่อยังคงรักษาการเข้าถึงและการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมาย 

เทรนด์ใหม่มาแรงขับเคลื่อนอนาคต 

ยุคที่ความคาดหวังของผู้คนที่มีต่อความสะดวกสบาย การมีส่วนร่วม ชุมชน และการเป็นผู้ประกอบการนั้นกำลังเปลี่ยนไป ผู้บริโภคที่เปิดรับสิ่งใหม่ๆ ได้รวดเร็วอย่างตลาดประเทศไทยนั้นก็ได้เผยให้เห็นถึงเทรนด์ในอนาคตทั้งในเรื่องส่วนตัว และเรื่องธุรกิจ 

Facebook พบว่าผู้คนนั้นกำลังมองหาหนทางใหม่ๆ ที่จะนำเวลาของพวกเขาคืนมา ไม่ว่าจะเป็น การค้นหาความสุขในการชอปปิงออนไลน์ การมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ และการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยให้พวกเขามีส่วนร่วมกับชุมชนทั้งในระดับโลกและระดับท้องถิ่น 

ความสะดวก การมีส่วนร่วม และการรวมตัวออนไลน์

ที่น่าสนใจ ความสะดวกสบายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ใช้งาน และกำลังจะกลายเป็นข้อบังคับที่แบรนด์จะต้องมีให้ 86% เชื่อว่า ในอนาคต สิ่งต่างๆ ในชีวิตของพวกเขาจะต้องการเวลาของพวกเขามากขึ้นไปอีก 

ดังนั้น ผู้คนจึงมองหาวิธีที่จะประหยัดเวลาและทำให้ชีวิตง่ายขึ้น เห็นได้จากการที่ 94% นำเรื่องของความสะดวกสบายมาเป็นปัจจัยควบคู่ไปกับเรื่องของราคาเวลาตัดสินใจซื้อของ 

แต่อย่างไรก็ตาม นอกเหนือไปจากความรวดเร็วและความสะดวกสบายแล้ว ผู้บริโภคหลายคนยังคงต้องการการมีปฏิสัมพันธ์เพื่อการเชื่อมต่อกับแบรนด์ สินค้า และผู้บริโภคคนอื่นๆ ในระดับที่ลึกยิ่งขึ้น โดย 86% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยกล่าวว่าโซเชียลมีเดียนั้น ทำให้พวกเขาสามารถโต้ตอบและมีความสัมพันธ์กับแบรนด์ต่างๆ ในระดับที่ดีขึ้น 

ขณะที่ เรื่องของชุมชนนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญเสมอมา และประเทศไทยก็เป็นผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในแง่ของการพัฒนาชุมชนออนไลน์และเชื่อมต่อกับผู้คนในกลุ่มที่มีความสนใจและความชอบคล้ายๆ กัน บน Facebook ชาวไทยเกือบทั้งหมด (91%) กล่าวว่าพวกเขาเป็นสมาชิกของชุมชนออนไลน์ และ 81% ก็ยินดีเปิดรับแบรนด์ที่พร้อมที่จะมอบสิ่งดีๆ ให้กับพวกเขา

“ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงทางการค้าแบบดิจิทัลอย่างแท้จริง ความคาดหวังของผู้บริโภคในวันนี้มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ไม่เพียงแต่ความคาดหวังต่อแบรนด์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความคาดหวังในชีวิตของพวกเขาเองด้วย ประเทศไทยนั้นก็เป็นหนึ่งในกระแสขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ ดังนั้นแบรนด์ต่างๆ จึงต้องปรับตัวรับกับความคาดหวังในแง่ของความสะดวกสบายจากผู้บริโภค และยังต้องมีแนวทางใหม่ๆ ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีให้กับผู้บริโภคยุคดิจิทัลอีกด้วย” แพร ดํารงค์มงคลกุล กล่าว

ที่มา : Bangkokbiznews