ตื่นปุ๊บ หยิบมือถือปั๊บ จนเครียดกังวลตั้งแต่วิแรกที่ลืมตา อยากเลิกนิสัยนี้ควรทำอย่างไร เพื่อทั้งวันที่ดี

ตื่นปุ๊บ หยิบมือถือปั๊บ จนเครียดกังวลตั้งแต่วิแรกที่ลืมตา อยากเลิกนิสัยนี้ควรทำอย่างไร เพื่อทั้งวันที่ดี
 
.
เคยไหม? ตื่นขึ้นมาปุ๊บก็คว้าโทรศัพท์มือถือปั๊บเป็นอย่างแรก ไม่ว่าจะตื่นมาปิดนาฬิกาปลุก หรือเข้าเฟสบุ๊ค เช็กไลน์ และไถไอจี
.
จากงานวิจัยจาก IDC Research พบว่า คนจำนวนกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ที่เล่นมือถือเป็นเวลาราว 15 นาที หลังจากตื่นนอนทุกเช้า ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทำกันบ่อยๆ จนเกิดความเคยชินแบบนี้ อาจนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่กว่าที่คิด
.
โดยมีด้วยกัน 3 เหตุผลใหญ่ๆ ว่า ‘ทำไมไม่ควรจับโทรศัพท์มือถือในช่วงตื่นนอน’ ดังนี้
.
1. เพิ่มความวิตกกังวล และความเครียด
.
เวลาที่เราตื่นนอนขึ้นมาแล้วหยิบมือถือทันทีนั้น เราจะถูกถาโถมด้วยข้อมูลใหม่ๆ มากมาย ทั้งข้อความ อีเมล และสิ่งที่ต้องทำเยอะแยะเต็มไปหมด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนกระตุ้นทำให้เราเกิดความกังวล และความเครียด
.
ทั้งนี้งานวิจัยของมหาวิทยาลัย Gothenburg ประเทศสวีเดน ที่ศึกษาการใช้มือถือของผู้คนในช่วงอายุ 20-30 ปี เป็นระยะเวลา 1 ปี พบว่า คนที่ยิ่งใช้มือถือมากเท่าไหร่ ยิ่งส่งผลให้มีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้ามากขึ้น โดยเกิดขึ้นกับทั้งเพศชาย และหญิงเทียบเท่ากัน
.
2. เวลา และความสนใจถูกพรากไปโดยไม่รู้ตัว
.
การที่เข้าโซเชียลมีเดีย เช็กข้อความ หรืออีเมล ทันทีหลังจากตื่นนั้น อาจทำให้ความคิดของเรามัวแต่จดจ่อกับสิ่งอื่นๆ จนไม่ได้ทำอะไรเพื่อตัวเอง หรือทำอะไรที่สนใจอยากทำจริงๆ
.
อีกทั้งนอกจากจะพรากความสนใจไปแล้ว บางครั้งยังพรากเวลาจากเราไปด้วย เนื่องจากจะแค่หยิบมาเล่นแป๊บเดียว เพื่อตอบนู่น ตอบนี่ แต่ก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะการเล่นมือถือทำให้เวลามันช่างผ่านไปรวดเร็วเสียเกิน ซึ่งอาจทำให้เราทำสิ่งอื่นไม่ทันเลยต้องรีบๆ เร่งๆ จึงสร้างทั้งความเหนื่อย และความเครียด
.
3. สมองวุ่นวายไปทั้งวัน
.
หากเริ่มต้นด้วยการรับข้อมูลที่มากเกินไป ตั้งแต่ตอนที่ยังตื่นยังไม่เต็มตา วันนั้นทั้งวันของเราอาจวุ่นวายไปตลอดทั้งวัน เนื่องจากตอนนั้นสมองของเรายังไม่ได้ทำงานอย่างเต็มที่ จึงส่งผลทำให้สมองเราทำงานไม่ได้สิทธิภาพเท่าที่ควร โดยเฉพาะประสิทธิภาพในการจัดลำดับความสำคัญสิ่งต่างๆ ที่ต้องทำจะลดลง
.
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว หลายคนอาจจะอยากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองดู วันนี้เราจึงขอแนะนำวิธีที่อาจจะช่วยไม่ให้จับมือถือเป็นอย่างแรก
.
- ตื่นเช้ามาให้ลองหากิจกรรมอย่างอื่นทำ
.
แน่นอนว่า หากไม่อยากหยิบมือถือขึ้นมาเช็กเป็นอย่างแรกล่ะก็ เราต้องฝึกให้สมองคุ้นชินกับการทำกิจกรรมอย่างอื่นที่ช่วยฝึกให้สมองถูกกระตุ้นไม่มากเกินไป หรือทำสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าการเล่นมือถือแทน เช่น ตื่นเช้ามาอาจจะออกกำลังกาย หรือไปอาบน้ำ กระทั่งทำอาหารเช้า เพื่อปลุกสมอง และร่างกายให้ตื่นตัวอย่างเต็มที่
.
- เลิกใช้โทรศัพท์มือถือในการตั้งนาฬิกาปลุก
.
สำหรับคนที่ตั้งนาฬิกาปลุกในมือถือ ตื่นมาต้องหยิบมือถือมาปิดเสียงปลุกก่อนเป็นอย่างแรก เมื่อเราเห็นหน้าจอมีอะไรแจ้งเตือนเราก็ต้องกดเข้าไปดู ซึ่งอาจทำให้เรานอนเล่นมือถือต่อยาวๆ ได้
.
ดังนั้นอาจจะลองเปิด Airplane Mode (โหมดเครื่องบิน) ก่อนนอนดู เพราะเมื่อตื่นมา แจ้งเตือนทั้งหลายจะยังไม่สามารถมารบกวนให้ค้างคาใจ หรือถ้าให้ดีลองหันมาใช้นาฬิกาปลุกแบบดั้งเดิมแทนจะดีกว่า
.
- วางโทรศัพท์ห่างไกลจากที่นอน
.
ควรเอามือถือไว้ให้ห่างไกลจากที่นอน จะได้ไม่ติดมือถือมากเกินไป เพราะคลื่นของมือถือที่ส่งออกมาจะช่วยลดการรบกวนได้ รวมไปถึงควรอาจจะเปลี่ยนตำแหน่งการชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือให้ห่างออกจากเตียง เพื่อร่างกายจะได้พักผ่อนเต็มที่
.
ถ้าไม่อยากให้ทั้งวันเต็มไปด้วยความเร่งรีบ วิตกกังวล และความเครียด อาจจะเลิกหยิบโทรศัพท์มือถือหลังจากตื่นนอนทันที หรือถ้าคนไหนที่มีวิธีไหนที่คุณทำแล้วได้ผลดี ตื่นมาแล้วชีวิตสดใส ผ่อนคลาย และที่สำคัญสมองทำงานมีประสิทธิภาพ สามารถมาแชร์กันได้นะ
.
อ้างอิง: 3 Reasons Why You Shouldn’t Check Your Phone Within 1 Hour Of Waking Up. https://bit.ly/3Gz4XJK
forbes. Why You Should Stop Checking Your Phone In The Morning (And What To Do Instead) .https://bit.ly/3pLze1M
.
 
 
Visitors: 1,410,134