เหรียญคริปโทที่คุณถือ มีอะไรเจ๋งบ้างนะ?

เหรียญคริปโทที่คุณถือ มีอะไรเจ๋งบ้างนะ?

คริปโทเคอร์เรนซีช่างมีมากมายหลายสกุลเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็น Bitcoin, Ethereum, Dogecoin, Cardano และสกุลอื่น ๆ เต็มไปหมด

สงสัยกันหรือไม่ ว่าแต่ละเหรียญมีจุดเด่น การใช้งาน หรือวัตถุประสงค์ ที่คล้ายและแตกต่างกันอย่างไร ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าเหรียญที่คุณถือมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง โดยแบ่งเป็นกลุ่มดังนี้

 

1. สายเก็บมูลค่า (Store of Value)

เหรียญในกลุ่มนี้ ได้แก่ Bitcoin (BTC), Litecoin (LTC), Bitcoin Cash (BCH)

จุดเด่นของเหรียญในกลุ่มนี้คือจำนวนเหรียญที่มีจำกัด โดยเฉพาะ Bitcoin ที่มีจำนวนจำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญและเนื่องจากเครือข่ายบล็อกเชนของ Bitcoin ได้รับการยอมรับว่ามีความปลอดภัยมากที่สุดเครือข่ายหนึ่ง ทั้งด้านโครงสร้างและจำนวนนักขุดที่อยู่ในเครือข่าย

Bitcoin จึงได้รับการยอมรับเป็น Digital Gold ที่นักลงทุนเลือกถือระยะยาวเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและถ้าหาก Bitcoin คือ Digital Gold ทาง Litecoin ก็เปรียบเสมือน Digital Silver ที่มีความคล่องตัวในการทำธุรกรรมสูงกว่านั่นเอง

 

2. สายสัญญาอัจฉริยะ (Smart contract)

เหรียญในกลุ่มนี้ ได้แก่ Ethereum (ETH), Cardano (ADA), Bitkub Coin (KUB), Binance Coin (BNB), Polkadot (DOT), Kusama (KSM)

จุดเด่นของเหรียญกลุ่มนี้คือการเป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่มีฟังก์ชัน Smart contract ทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (Dapp)

รวมถึง DeFi ที่เป็นบริการด้านการเงินที่อยู่บนเครือข่ายบล็อกเชน ไม่ว่าจะเป็น Uniswap (UNI), Maker (MKR), หรือ AAVE ทำให้ผู้ที่สนใจสามารถใช้บริการการเงินที่อยู่ที่บนเครือข่ายเหล่านี้ได้อย่างอิสระ

นอกจากนี้ เหรียญเหล่านี้ก็ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น Cardano ที่เพิ่งอัพเดทฟังก์ชัน Smart contract หรือ Ethereum ที่เพิ่งมีการอัปเดทในชื่อ London Hard Fork ไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และกำลังจะมี Ethereum 2.0 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปีหน้าอีกด้วย

 

3. สายมีม (Meme)

เหรียญในกลุ่มนี้ ได้แก่ Dogecoin (DOGE)

Dogecoin ค่อนข้างแตกต่างกับคริปโทสกุลอื่น เนื่องจากมันถูกสร้างขึ้นสนุก ๆ โดยผู้สร้างต้องการทำให้เห็นว่าคริปโทเคอร์เรนซีเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย

ในตอนแรก Dogecoin ถูกใช้แทนการให้ทิปบนโซเชียล แต่ต่อมา บุคคลระดับโลกอย่าง Elon Musk CEO ของ Tesla และ SpaceX เกิดสนใจเทคโนโลยีเบื้องหลัง Dogecoin ขึ้นมา และมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้เจ้า Dogecoin กลายเป็นสกุลเงินหลักของโลกให้ได้

แถมยังมีโปรเจกต์ที่จะใช้ Dogecoin เพื่อซื้อขายวัตถุดิบและทรัพยากรสำหรับการสร้างจรวดขึ้นไปบนอวกาศ เรียกได้ว่าเป็นโปรเจกต์ Dogecoin To the Moon ของจริง

 

4. สาย DeFi

เหรียญในกลุ่มนี้ได้แก่ Uniswap (UNI), Maker (MKR), AAVE, Axie Infinity (AXS) และอีกมากมาย

DeFi หรือ Decentralized Finance เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในนวัตกรรมการเงินที่กำลังมาแรงในปัจจุบันเลยทีเดียว

โดย DeFi ได้เข้ามาปลดล็อกทำให้เราสามารถใช้บริการการเงินผ่านอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง ซึ่งก็มีบริการต่าง ๆ เช่น การกู้ยืม การทำประกัน หรือการแลกเปลี่ยน เป็นต้น

DeFi สามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติผ่าน Smart contract ของเครือข่ายบล็อกเชนที่รองรับ ขณะที่เหรียญที่ยกตัวอย่างมานี้ ก็คือเหรียญที่ใช้เพื่อเข้าถึงบริการของ DeFi นั่นเอง

 

5. สาย Stablecoin

เหรียญในกลุ่มนี้ได้แก่ USDT, USDC, DAI

เคยไหม อยากใช้คริปโทเพื่อซื้อขายสินค้าแต่กังวลเรื่องความผันผวนของมูลค่า?

Stablecoin สามารถช่วยคุณได้ โดย Stablecoin ก็คือคริปโทเคอร์เรนซีที่ผูกมูลค่าเข้ากับสกุลเงิน Fiat ที่เราคุ้นเคยกันดี โดยเฉพาะดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ในอัตรา 1:1

ทำให้เหรียญ Stablecoin มีมูลค่าคงที่ตามชื่อของมัน เช่น 1 USDT จะเท่ากับ 1 ดอลลาร์เสมอ ฉะนั้นใครที่กังวลกับความผันผวนของมูลค่าเหรียญก็สามารถใช้ Stablecoin เพื่อแลกเปลี่ยนสินค้า หรือถือเหรียญเหล่านี้เพื่อรักษามูลค่า (Store of Value) ก็ได้เช่นกัน

 

6. สาย Data Oracle

เหรียญในกลุ่มนี้ได้แก่ Chainlink (LINK), Band Protocol (BAND)

หากไม่มี Data Oracle ผู้ที่ทำหน้าที่คอยป้อนข้อมูลจากโลกแห่งความจริงเข้าสู่บล็อกเชน เหล่า Dapp หรือ DeFi ก็คงไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

โดยข้อมูลที่ Data Oracle คอยป้อนให้กับบล็อกเชน มีตั้งแต่ ราคาเหรียญ ราคาสินทรัพย์ ไปจนถึงข้อมูลทั่วไปอย่าง สภาพอากาศ หรือผลการแข่งขัน เรียกได้ว่า Data Oracle มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการนำบล็อกเชนมาใช้กับระบบเศรษฐกิจในปัจจุบัน

หมดกันไปแล้วสำหรับเหรียญทั้ง 6 สายที่น่าสนใจ และอย่าลืมว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนกับคริปโทเคอร์เรนซียังเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ในอนาคตอันใกล้ อาจมีเหรียญประเภทใหม่ หรือมีคุณสมบัติเจ๋ง ๆ ออกมาให้นักลงทุนเป็นเจ้าของอีก นับว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง เพราะเรากำลังอยู่ในยุคที่มีนวัตกรรมทางการเงินให้ออกมาให้เห็นกันอยู่เป็นประจำ

อ้างอิง Coinmarketcap, Coingecko, SoFi

 

ที่มา : Bitkub.com
https://www.blockdit.com/posts/613f00da02550d0c58649fa4

 

Visitors: 1,405,370