จีนส่งวัคซีนรุกตลาดครึ่งโลก แม้มีข้อกังขาในประสิทธิภาพ

จีนส่งวัคซีนรุกตลาดครึ่งโลก แม้มีข้อกังขาในประสิทธิภาพ
 
 
ปัจจุบันประเทศส่วนใหญ่ของโลกเริ่มต้นฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชากรไปจำนวนหนึ่งแล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่าวัคซีนจากบริษัทสัญชาติจีนมีบทบาท
สำคัญอย่างมาก ในการกระจายวัคซีนให้เข้าถึงในหลายพื้นที่
 
 
ทางการจีนเผยว่ากำลังส่งออกวัคซีนไปสู่ 27 ประเทศ และบริจาคให้กับ 53 ประเทศ เท่ากับว่าจะมีอย่างน้อย 80 ประเทศในโลกที่นำวัคซีนจากจีนมาใช้ แต่เมื่อทาง
ผู้สื่อข่าวของ AP ติดต่อขอรายชื่อประเทศที่จีนกล่าวอ้าง กลับได้รับคำปฏิเสธกลับมา
 
 
สมมุติว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นจริง เมื่อเปรียบเทียบจำนวนประเทศที่จีนตัดสินใจ ‘บริจาค’ ให้แบบฟรีๆ กับประเทศที่จีน ‘ขาย’ ให้ จะเห็นว่าประเทศที่ได้บริจาคนั้นสูงกว่า
ประเทศที่ต้องเสียเงินซื้อเป็นเท่าตัว
 
 
ในสถานการณ์ปัจจุบันที่วัคซีนกำลังเป็นสินค้าที่มีอุปสงค์ (Demand) สูงมาก ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า เหตุใดจีนถึงนำสินค้าเหล่านี้มาแจกฟรีให้กับหลายๆ ประเทศ
 
 
กอบกู้ภาพลักษณ์
 
 
มีการตั้งข้อสังเกตว่า จีนอาจกำลังพยายามที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ด้านลบ ที่ถูกมองว่าเป็นตัวการในการทำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายไปทั่วโลก จึงไม่แปลกที่การบริจาค
วัคซีนให้ประเทศต่างๆ อาจเป็นการหวังผลในเชิงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
 
 
ที่ผ่านมา จีนพยายามประวิงเวลาไม่ยอมให้นานาชาติเข้าไปตรวจสอบต้นตอของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวนี้อยู่เสมอ กว่าที่จะปล่อยให้นักวิทยาศาสตร์จากองค์การ
อนามัยโลกเข้าไป ก็ล่วงเลยมาจนกระทั่งปลายเดือนมกราคม 2564
 
 
หวัง หุยเย่า ประธาน Centre for China and Globalization ออกมาปฏิเสธความเชื่อมโยงที่ว่าจีนกำลังกู้ภาพลักษณ์ผ่านวัคซีน โดยให้เหตุผลว่า จีนเพียงต้องการ
ช่วยเหลือประเทศอื่น เพราะจีนเองรับมือกับโควิด-19 ได้ดีอยู่แล้ว
 
 
ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนก็ออกมาบอกในลักษณะเดียวกันว่า การบริจาควัคซีนไม่ได้เกี่ยวกับภารกิจทางการทูตแต่อย่างใด เป็นการช่วยเพื่อหวังให้
เกิดผลดีต่อโลกเท่านั้น
 
 
ทางประเทศผู้รับบริจาคเอง อย่างเช่นฟิลิปปินส์ ประธานาธิบดี โรดริโก ดูแตร์เต ก็ยืนยันว่าจีนไม่ได้ขออะไรเป็นการตอบแทน หลังจากที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคจากจีนเป็น
จำนวน 600,000 โดส โดยเอ่ยเพียงว่าตัวเขาจะเดินทางไปขอบคุณประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ด้วยตนเอง หลังจากสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลายลง
 
 
แต่สิ่งที่จีนได้รับจากการประกาศบริจาควัคซีนครั้งนี้ คือการสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นมิตรกับประเทศที่เป็นคู่ขัดแย้งในเรื่องทะเลจีนใต้ นับเป็นการประชาสัมพันธ์เชิงบวก
ทางการทูตชิ้นหนึ่ง
 
 
วัคซีนตะวันตกขาดตลาด
 
 
ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อต่อวันทั่วโลกเริ่มมีแนวโน้มลดลง นับตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่อีกส่วนหนึ่งก็ยังคงไม่สามารถควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสได้
 
 
ต้องยอมรับว่า ไม่ใช่ทุกประเทศที่จะได้วัคซีนของ ไฟเซอร์ (Pfizer) และ โมเดอร์นา (Moderna) มาครอบครอง เนื่องจากกำลังการผลิตมีจำกัด และประเทศร่ำรวยก็มักจะคว้าโอกาสในการเข้าถึงวัคซีนเหล่านั้นได้ก่อน
 
 
ด้วยเหตุนี้ วัคซีนของจีนจึงเห็นช่องทางในการเข้าไปตีตลาด โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง รวมถึงบางส่วนของยุโรปและแอฟริกา แม้ว่าจะไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่ต้องการก็ตาม
 
 
เช่นเดียวกันกีบผลสำรวจของ YouGov บริษัทสำรวจการตลาด พบว่า คนฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับวัคซีนจากซิโนแวค มีความเชื่อมั่นในวัคซีนตัวนี้
น้อยกว่า 20%
 
 
แต่เนื่องจากประเทศเหล่านี้ไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนที่คนให้ความเชื่อมั่นได้ จึงจำเป็นต้องคว้าสิ่งที่มีในตลาดมาใช้ก่อน โดยหวังว่าจะมีส่วนช่วยให้สถานการณ์การระบาด
คลี่คลายลงบ้าง แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี
 
 
อีกทั้งการที่วัคซีนของจีนเป็นแบบ ‘วัคซีนเชื้อตาย’ หรือ Inactivated ซึ่งเป็นเทคโนโลยีดั้งเดิมที่ใช้มานาน ทำให้บางส่วนมองว่า การใช้วัคซีนเหล่านี้ดูจะไม่ใช่เรื่องเสียหาย
เท่าใดนัก
 
 
การเลี่ยงเปิดข้อมูล
 
 
แม้วัคซีนของจีนจะได้รับอนุมัติให้ใช้งานในกรณีฉุกเฉินในหลายประเทศแล้ว แต่ก็ยังมีการตั้งคำถามถึงข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับวัคซีน ที่ทางจีนดูจะไม่ยอมเปิดเผยต่อสาธารณชนมากเท่ากับวัคซีนจากฝั่งตะวันตก
 
 
วัคซีน Sputnik V ของรัสเซียก็เคยเจอข้อกล่าวหาในลักษณะเดียวกันมาก่อน แต่หลังจากที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ The Lancet ก็ทำให้ความสงสัยคลาย
ลงไปได้เยอะ
 
 
แต่สำหรับวัคซีนของจีนเอง กลับยังไม่มีตัวใดในเฟส 3 ผ่านกระบวนการ Peer review ที่เป็นการพิจารณาความน่าเชื่อถือของข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ ในการตีพิมพ์ลงวารสารทางการแพทย์ใดๆ
 
 
อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบ ‘ประโยชน์’ กับ ‘ความเสี่ยง’ ที่จะได้รับแล้ว ส่วนหนึ่งยังคงประเมินว่าประชากรในประเทศจะได้รับผลดีสูงกว่าจากการฉีดวัคซีนจีนที่นำมา
ใช้ได้ในทันที แทนที่จะต้องรอวัคซีนจากตะวันตก ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้รับตอนไหน
 
 
 
 
#workpointTODAY
#สาระความรู้เพื่อวันนี้


Visitors: 1,380,184