ไขข้อสงสัย ทำไมนายกฯ 'ประยุทธ์' ไม่ฉีดวัคซีน 'ซิโนแวค' แต่จะฉีดของ 'แอสตร้าเซนเนก้า'
ไขข้อสงสัย ทำไมนายกฯ 'ประยุทธ์' ไม่ฉีดวัคซีน 'ซิโนแวค' แต่จะฉีดของ 'แอสตร้าเซนเนก้า'
วันนี้ (23 ก.พ.) นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานอนุกรรมการบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด-19 ให้สัมภาษณ์ถึงแผนการกระจายวัคซีนโควิด-19 ที่จะเข้ามาถึงไทย 2 ยี่ห้อว่า ในส่วนของวัคซีน #ซิโนแวค เป็นตามแผนที่ศบค.พิจารณาแล้ว คือ 2 ล้านโดสจะให้ใน 18 จังหวัด ส่วนจะมีการฉีดเข็มแรกเมื่อไร ก็จะต้องเป็นเร็วที่สุดหลังจากที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยืนยันผลการตรวจสอบวัคซีนแล้วว่ามีความปลอดภัย ซึ่งอาจจะเป็นช่วง 28 ก.พ. - 1 มี.ค. 2564 ส่วนสถานที่จัดฉีดเข็มแรกนั้น หากจะมีการจัดเพื่อแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของประเทศไทยนั้น ก็มีการเตรียมการไว้ที่สถาบันบำราศนราดูร
“ส่วนวัคซีนของ #แอสตร้าเซนเนก้า ที่เป็นการผลิตในต่างประเทศซึ่งเข้ามาราว 1 แสนโดสนั้น มีแผนกระจายโดยเสริมให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปในพื้นที่สีแดงและสีส้ม 9 จังหวัด ซึ่งวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่า ให้ฉีดได้ในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยจะให้ฉีดในประชาชน 50,000 คน เพราะจะให้แต่ละคนได้รับ 2 เข็มโดยให้ตามเวลาที่ห่างกันในแต่ละเข็ม”นพ.โสภณกล่าว
นายกฯจะเป็นผู้ฉีดวัคซีนเข็มแรกหรือไม่?
นพ.โสภณ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการฯต้องการให้ผู้นำประเทศได้รับวัคซีนก่อนเพื่อสร้างความมั่นใจ อีกทั้งนายกฯเข้าข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ คือ #อายุมากกว่า60ปีขึ้นไป อยู่ในพื้นที่เสี่ยง และทำงานด่านหน้าในการลงพื้นที่ต่าง ๆ อีกทั้งยังแสดงความเชื่อมั่นว่า วัคซีนที่สั่งเข้ามาให้ประชาชนนั้นมีความปลอดภัยกับประชาชน ที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
นายกฯ และรองนายกฯอนุทิน ควรจะฉีดวัคซีนเข็มแรกคนละยี่ห้อหรือไม่เพื่อสร้างความเชื่อมั่น?
นพ.โสภณ ตอบว่า คณะอนุกรรมการฯอยากเชิญเช่นนั้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับวัคซีนทั้ง 2 ยี่ห้อที่ประเทศไทยนำเข้ามา ผู้บริหารระดับสูงของประเทศมั่นใจและกล้าฉีด แต่ก็เป็นไปตามความสมัครใจ
นพ.โสภณ เสริมว่า นายกฯประยุทธ์สามารถฉีดของแอสตร้าเซนเนก้าได้ เนื่องจากอายุมากกว่า 60 ปี และรองนายกฯอนุทิน สามารถฉีดของซิโนแวคได้ เพราะอายุไม่ถึง 60 ปี
ประชาชนต้องการฉีดต้องทำอย่างไร?
นพ.โสภณ กล่าวว่า ขอทำความเข้าใจว่าการสั่งนำเข้า 2 ยี่ห้อ (ซิโนแวคและแอสตร้าฯ) เข้ามาก่อน เพราะมีสถานการณ์ระบาดเกิดขึ้นในจ.สมุทรสาคร ภาคตะวันออก กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพราะฉะนั้น ในการกระจายล็อตที่นำเข้านี้จะเป็นการพิจารณาตามพื้นที่เสี่ยงของสถานการณ์โรค โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคุมโรค ลดการป่วยเสียชีวิต ระบบสาธารณสุขเดินต่อไป และเศรษฐกิจเดินหน้าได้ด้วย และพิจารณากลุ่มเสี่ยงที่จำเป็นก่อน
“การจัดสรรในระยะแรกยังไม่เพียงพอทั้งหมด ในการจัดสรรการให้วัคซีนของจังหวัดเป้าหมาย จะดูจาก 1.ผู้ป่วยโรคเรื้อรังซึ่งมีรายชื่ออยู่ในบัญชีสถานพยาบาลอยู่แล้ว 2.คณะกรรมการแพทย์ดูข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ว่าใครเสี่ยงมาก ก็จะพิจารณาให้ก่อน และ 3.ประชาชนเข้ามาดูจากลิสต์รายชื่อตามข้เอบ่งชี้นี้หรือได้รับการติดต่อจากรพ. โดยหากสมัครใจที่จะรับวัคซีน ก็สามารถจองเวลาได้ผ่านไลน์ #หมอพร้อม หรือรพ.โทรไปประสานตามรายชื่อคนไข้ หรืออสม.ไปแจ้ง เนื่องจากไม่อยากให้เป็นระบบเข้าคิวใครมาก่อนได้ก่อน แต่ให้เป็นไปตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ รวมถึงการพิจารณาว่า ใครจะได้รับวัคซีนยี่ห้อไหนด้วยก็จะให้เป็นไปตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์” นพ.โสภณกล่าว
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
|