ด่วน !! USFDA สรุปการวิเคราะห์ว่า วัคซีนโควิดของบริษัท Moderna มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง พร้อมอนุมัติให้ฉีดได้แล้ว

ด่วน !! USFDA สรุปการวิเคราะห์ว่า วัคซีนโควิดของบริษัท Moderna มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง พร้อมอนุมัติให้ฉีดได้แล้ว
 
วันนี้ USFDA ได้เปิดเผยเอกสารการพิจารณาวิเคราะห์วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัท Moderna ว่ามีความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียงที่ร้ายแรง และมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคสูงด้วยเช่นกัน
 
รายงานดังกล่าวได้กล่าวสรุปว่า วัคซีนมีความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง (Anaphylactic reaction)ในอาสาสมัครจำนวน 30,000 คน
 
ส่วนอาการที่พบได้ ก็เป็นอาการข้างเคียงเล็กน้อยประกอบด้วย ไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ และมีอาการอ่อนเพลีย ซึ่งพบได้ในการฉีดวัคซีนทั่วไป
 
ส่วนในเรื่องประสิทธิภาพนั้น มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้ 94% โดยแยกเป็นสองกลุ่มอายุ
 
ในกลุ่มอายุ 18 ถึง 64 ปี มีประสิทธิภาพป้องกัน 95.6%
ในกลุ่มอายุมากกว่า 65 ปีมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค 86.4%
 
ทำให้ค่าเฉลี่ยในการป้องกันโรคอยู่ที่ประมาณ 94%
 
จากรายละเอียดการวิเคราะห์ดังกล่าว ซึ่งเป็นไปในลักษณะเดียวกับวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ จึงทำให้คาดว่า การประชุมของคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติวัคซีนเพื่อใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน(EUA จะอนุมัติให้ในทำนองเดียวกับของวัคซีนบริษัทไฟเซอร์
 
ซึ่งการประชุมจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ (17 ธค 2563)
 
วัคซีนของทั้งสองบริษัทเป็นเทคโนโลยีเดียวกันคือใช้ mRNA และฉีดสองเข็มเหมือนกัน แต่ของบริษัทไฟเซอร์ฉีดห่างกัน 21 วัน ของ Moderna ห่างกัน 28 วัน
 
ของไฟเซอร์ต้องเก็บที่ -75 องศาเซลเซียส ในขณะที่ของ Moderna เก็บที่เพียง -20 องศาเซลเซียส
 
การผลิตของไฟเซอร์ต้องใช้แหล่งผลิตทั้งในสหรัฐอเมริกา เบลเยียมและเยอรมัน ส่วนของ
Moderna นั้นทั้งหมดจะผลิตในสหรัฐอเมริกาเอง
 
ศักยภาพในการผลิตในช่วงเดือนธันวาคมนี้ไฟเซอร์จะผลิตได้ 50 ล้านเข็ม ในขณะที่ Moderna จะผลิตได้ 20 ล้านเข็ม
 
ถ้าในวันพฤหัสนี้วัคซีนของบริษัท Moderna ได้รับการอนุมัติ ก็จะเป็นวัคซีนตัวที่สองที่ทางการสหรัฐฯอนุมัติให้ฉีดได้
 
คาดว่าตัวที่สามที่จะตามมา น่าจะเป็นของบริษัท AstraZeneca ของอังกฤษ
 
วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัท(ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2553) จะเป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกของ Moderna ที่ได้รับการอนุมัติจดทะเบียนจาก USFDA
 
ข่าวดีเรื่องวัคซีนดังกล่าว ที่ทยอยออกมาเป็นระยะ ทำให้หุ้นของบริษัทขึ้นมาแล้วกว่า 700% นับจากต้นปี
 
นอกจากวัคซีนของสหรัฐฯสองตัวดังกล่าว และวัคซีนของอังกฤษอีกหนึ่งตัวแล้ว ยังมีวัคซีนที่อยู่ในความก้าวหน้าและเป็นความหวังอีกหลายตัวเช่น วัคซีนของรัสเซีย และของจีน
 
Reference
 
 
ที่มา : ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย
Visitors: 1,380,180