ด่วน !! ในที่สุดวัคซีนโควิดของ Moderna ก็พบผู้แพ้รุนแรงแบบช็อคเป็นรายแรก เช่นเดียวกับวัคซีนของ Pfizer

ด่วน !! ในที่สุดวัคซีนโควิดของ Moderna ก็พบผู้แพ้รุนแรงแบบช็อคเป็นรายแรก เช่นเดียวกับวัคซีนของ Pfizer
 
 
วันนี้(26ธค2563) มีรายงานข่าวว่า พบการแพ้รุนแรงแบบช็อค(Serious Allergic Reaction อาจใช้คำว่า Anaphylaxis ก็ได้) ของผู้รับวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท Moderna เป็นรายแรก
 
หลังจากที่พบผู้รับวัคซีนของบริษัท Pfizer มีอาการแพ้รุนแรงแบบช็อคแล้ว 6 รายในจำนวนผู้รับวัคซีนในสหรัฐอเมริกาจำนวน 1.1 ล้านคน
 
และพบผู้แพ้รุนแรงแบบช็อคอีก 2 รายในประเทศอังกฤษ
 
สำหรับการแพ้แบบรุนแรงรายแรกของวัคซีน Moderna พบในคุณหมอที่โรงพยาบาลบอสตัน
 
Dr.H.Sadrzadeh เป็นหมอ(Fellow) ที่รักษาโรคมะเร็งในผู้สูงอายุ และมีประวัติแพ้อาหารทะเลแบบรุนแรง (Shellfish allergy)อยู่ก่อนแล้ว
 
เขาจึงระมัดระวังตัว โดยตอนที่จะมาฉีดวัคซีนในโรงพยาบาลของตนเอง ได้นำยาฉีดแก้แพ้ฉุกเฉินชนิดติดตัว(EpiPen)มาด้วย
 
 
คุณหมอกล่าวว่า ทันทีที่ได้รับการฉีดวัคซีนเพียงไม่กี่นาที ก็เริ่มรู้สึกหัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น ซึ่งวัดภายหลังได้เป็นสองเท่าของค่าปกติคือ 150 ครั้งต่อนาที
 
มีลิ้นบวมและชา เหงื่อออกตัวเย็น หายใจลำบาก
มีอาการมึนศีรษะ คล้ายจะเป็นลม
 
หมอเองได้นำยาฉีดฉุกเฉินออกมาฉีดให้ตัวเองทันที และแจ้งให้เจ้าหน้าที่นำตัวส่งแผนกฉุกเฉิน
 
โดยได้รับการรักษาเพิ่มเติมด้วยยาสเตียรอยด์ และยาแก้แพ้ชื่อ Benadryl หลังจากผ่านไป 4 ชั่วโมงอาการดีขึ้น สามารถออกจากห้องฉุกเฉินได้
 
 
วัคซีนของบริษัท Moderna ใช้เทคโนโลยีเดียวกับบริษัทไฟเซอร์ คือ mRNA จึงทำให้เกิดข้อสังเกตว่า
 
เทคโนโลยีแบบ mRNA ของทั้งสองบริษัท ทำไมจึงมีผู้แพ้แบบรุนแรงทั้งคู่ เกิดจากส่วนไหนของวัคซีน
 
เพราะวัคซีนชนิดนี้มี mRNA ที่บอบบางมาก จึงจำเป็นต้องมีองค์ประกอบมากมายในวัคซีนที่จะเข้าไปปกป้องไม่ให้ mRNA ถูกทำลายไป
 
แต่ในส่วนประกอบต่างๆนั้น ก็ยังไม่มีตัวไหนที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นสารก่อภูมิแพ้
 
เพียงแต่มีคนสงสัยในตัว PEG (Polyethylene glycol)
 
อัตราการแพ้อย่างรุนแรงสำหรับยาหรือวัคซีนทั่วไปที่พอจะยอมรับได้คือหนึ่งต่อล้าน
 
แต่วัคซีนของ Pfizer ขณะนี้มีอัตราการแพ้ 8 ต่อล้าน เรียบร้อยแล้ว
 
ส่วนของ Moderna ฉีดยังไม่มากนัก เพราะเพิ่งเริ่มฉีดตามหลังวัคซีนของบริษัท Pfizer จึงจะต้องติดตามตัวเลขต่อไป
 
ตัวแทนของบริษัท Moderna และผู้รับผิดชอบของUSFDA ยังไม่ออกความเห็นในเรื่องดังกล่าว
 
เป็นเรื่องที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด สำหรับเรื่องผลข้างเคียงของวัคซีน
 
เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ มีทั้งความกว้างขวาง(ติดเชื้อ 80ล้านคน)
และความรุนแรง(เสียชีวิตเกือบ 2 ล้านคน)
 
วัคซีนที่วิจัยและพัฒนาสำเร็จเสร็จสิ้นในหนึ่งปี ต้องนับว่าเป็นเวลาที่รวดเร็วมาก สำหรับการผลิตวัคซีนในอดีตใช้เวลา 5-10 ปี
 
แต่การเร่งผลิตวัคซีนดังกล่าว แม้จะมีความระมัดระวังและพยายามอยู่บนพื้นฐานของวิชาการอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม
 
การฉีดวัคซีนในขณะนี้ก็ยังอยู่ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน(EUA) ซึ่งจะต้องมีการเก็บข้อมูลทั้งเรื่องความปลอดภัยคือการแพ้ที่รุนแรงดังกล่าว
 
และประสิทธิภาพในการป้องกันโรค ว่าจะป้องกันได้จริงเหมือนในระหว่างทดลองเฟสสามหรือไม่
 
และระดับภูมิต้านทานจะอยู่ไปนานเพียงใด จำเป็นจะต้องมีการฉีดกระตุ้นอีกครั้งเมื่อใด
 
เป็นเรื่องที่ไวรัสโคโรนาก่อโรคโควิด-19 สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับมนุษยชาติมากจริงๆ ต้องถือว่ารุนแรงมากในรอบ 100 ปีเลยทีเดียว
 
 
ที่มา : ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย
Visitors: 1,407,425