ปิดโรงเรียน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19

ปิดโรงเรียน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19
 
 
โรงเรียนที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้ทยอยสั่งปิดเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ขณะนี้ประกอบด้วย โรงเรียนบ้างเวียงพาน โรงเรียนอนุบาลแม่สาย และโรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์
 
ซึ่งปิดตั้งแต่วันที่ 1-6 ธันวาคม 2563 โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ เป็นโรงเรียนที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีนักเรียนจากท่าขี้เหล็ก เมียนมาร์ เข้ามาเรียนเป็นจำนวนมาก
 
ผู้บริหารโรงเรียนจึงสั่งปิดโรงเรียน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โควิด-19 จากท่าขี้เหล็กมายังอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผ่านบรรดานักเรียนและผู้ปกครองที่ข้ามมาเรียนที่โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์
 
ที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็เริ่มมีการทยอยปิดโรงเรียน เช่น โรงเรียนวชิรวิทย์ และโรงเรียนพระหฤทัยเป็นต้น
มูลเหตุของการมีผู้ติดเชื้อไวรัสของจังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ เริ่มต้นเกิดจากโรงแรม 1G1 ท่าขี้เหล็ก
 
Cr.กรุงเทพธุรกิจ
 
ซึ่งเริ่มต้นพบตำรวจน้ำประจำท่าเรือบ้านโป่งริมน้ำโขงและคนงานก่อสร้างเป็นสองรายแรกที่ตรวจพบโควิดของท่าขี้เหล็ก
และติดตามด้วย 28 พฤศจิกายน 2563 มีผู้ติดเชื้อรวม 2 รายแรกเป็น 15 ราย
29 พฤศจิกายน 2563 ติดเชื้ออีก 8 ราย
30 พฤศจิกายน 2563 ติดเชื้ออีก 11 ราย
 
รวมเป็นผู้ติดเชื้อ 34 ราย ทำให้เกิดการแตกตื่นโกลาหลที่ฝั่งเมียนมาร์ ทั้งคนเมียนมาร์และคนไทยที่อยู่ที่ฝั่งท่าขี้เหล็ก
และได้มีหญิงไทยชาวเชียงใหม่วัย 29 ปี ซึ่งทำงานอยู่ที่โรงแรมต้นเหตุ ได้ลักลอบผ่านช่องทางธรรมชาติที่แม่สาย จังหวัดเชียงราย เข้ามาพร้อมกับเพื่อนอีกหนึ่งคน
 
และหญิงวัย 29 ปีนี้ ก็ได้เข้ามาที่เชียงใหม่ เดินห้างสรรพสินค้า ชมภาพยนตร์ และที่สำคัญไปเที่ยวบาร์ โฮสต์ ซึ่งทำให้เกิดความหวาดวิตกว่า จะเกิดการแพร่ระบาดชนิดเป็นกลุ่มก้อน (Superspreader) แบบที่เคยเกิดขึ้นที่ผับบาร์ทองหล่อมาแล้ว
 
ขณะเดียวกันเพื่อนของหญิงเชียงใหม่รายนี้ ซึ่งลักลอบกลับเข้ามาประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติด้วยกัน แต่แยกไปอยู่ที่เชียงราย ก็เริ่มมีอาการของโควิด-19 ด้วยเช่นกัน
 
คาดว่าถ้าสถานการณ์ โควิด-19 ที่ท่าขี้เหล็กยังควบคุมไม่ได้ ก็จะทำให้มีคนไทยที่แอบลักลอบไปทำงานที่ท่าขี้เหล็กจำนวนมาก หวาดกลัวว่าจะติดโควิด ก็จะหาทางกลับเมืองไทย เพราะเมืองไทยปลอดภัยกว่า
 
แต่ขณะเดียวกันตอนที่ออกไป ก็ออกไปโดยผิดกฎหมาย คนเหล่านี้ก็จะวิตกกังวลไม่กล้ากลับเข้าเมืองไทยตามช่องทางปกติ
 
จึงต้องหาทางกลับเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ ซึ่งมีจำนวนมากมาย ไม่สามารถจะควบคุมได้ 100% และคนเหล่านี้ก็จะไม่เข้าสู่การกักตัว จึงมีโอกาสที่จะแพร่เชื้อ ทำให้คนเชียงรายและเชียงใหม่เกิดปัญหาเดือดร้อนได้
 
ทางการเชียงรายจึงได้เร่งประกาศ ให้ประชาชนชาวไทยที่ทำงานอยู่ฝั่งท่าขี้เหล็ก ที่ประสงค์จะกลับเข้ามาประเทศไทยในช่วงนี้ ขอให้เข้ามาตามช่องทางปกติเพื่อทำการกักตัว 14 วัน
 
จะเป็นประโยชน์สูงสุดกว่าการลักลอบกลับเข้ามาแล้วสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติอย่างรุนแรง
 
เพราะนอกจากจะเป็นการแสดงจิตสำนึกความรับผิดชอบของคนไทยต่อประเทศไทยส่วนรวมแล้ว โทษของการที่คนไทยกลับเข้าสู่ประเทศตัวเองโดยไม่ถูกต้องตามกฏหมายก็ไม่ได้รุนแรงมากมายนัก และระหว่างกักตัวถ้าตรวจพบเชื้อก็จะได้รับการรักษาแต่เนิ่นเนิ่นเป็นอย่างดีอีกด้วย
 
 
Reference
กรุงเทพธุรกิจ
ผู้จัดการรายวัน
จังหวัดเชียงราย
ที่มา : ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย
Visitors: 1,403,330