คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติเห็นชอบให้ลดวันกักตัวโควิด-19 เหลือ 10 วัน
คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติเห็นชอบให้ลดวันกักตัวโควิด-19 เหลือ 10 วัน
หลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างนโยบายการกักกันโรคระดับชาติ (National Quarantine Policy) เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ในการกักตัวรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 จากเดิมที่ต้องพึ่งแต่ประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. และเพื่อรองรับการเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนในระยะยาว ครอบคลุมตั้งแต่ระบบการกักกันโรค และสถานที่กักกันผู้สัมผัสโรค เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน พัฒนากลไกการบริหารจัดการระบบการกักกันโรคและสถานที่กักกันโรคให้เป็นเอกภาพ ทั้งในระดับชาติและระดับจังหวัด รวมทั้งเร่งพัฒนาระบบการบริหารจัดการข้อมูลแบบบูรณาการ เพื่อสนับสนุนการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสามารถเอาผิดได้กรณีไม่ปฏิบัติตามคำสั่งในการกักตัว เช่นโทษปรับ นอกจากนั้น ที่ประชุมยังเห็นชอบเรื่องการลดระยะเวลากักตัว 14 วันเหลือ 10 วัน โดยกรมควบคุมโรคจะมีการออกมาตรการและกฎเกณฑ์เพื่อให้รัดกุมและสร้างความสบายใจให้กับทุกฝ่าย โดยหลังจากครบ 10 วันแล้ว ช่วงเวลาที่เหลือเดิม 4 วัน จะต้องมีระบบติดตามตัวอย่างไร หรืออาจขอให้เคร่งครัดมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เลี่ยงการเดินทางไปที่แออัดหรือชุมชน รวมไปถึงการสวมหน้ากากอนามัย
ทั้งนี้ ตามนโยบาย ที่ออกมา สำหรับการลดวันกักตัวเหลือเพียง 10 วันนั้น จะบังคับใช้สำหรับประเทศ 10 ประเทศที่มีความปลอดภัย และ ส่วนประเทศที่เหลือยังคงมีมติให้คงจำนวนวันไว้เหมือนเดิม คือ 14 วัน
โดยประเทศที่คาดว่าจะมีการอนุมัติให้ลดวันกักตัวลงเหลือ 10 วันนั้น ขอยกประเทศตัวอย่างดังนี้ ประเทศ จีน, เวียดนาม, ใต้หวัน, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ เป็นต้น ทั้งนี้ ถือว่าประเทศพวกนี้อยู่ในประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ เท่า ๆ กับประเทศไทย
จากสถิติที่เขาได้ทำความทดลองจากผู้ที่เข้ามายังประเทศไทย พบว่า ผู้ที่ติดเชื้อ Covid-19 นั้น จะติดและตรวจพบได้ ภายใน 10 วันเท่านั้น ส่วนหลังจากนั้น มีการพบว่า ชาวต่างชาติรายนั้น ๆ ได้มีการสร้าง antibody แล้ว ก็แสดงว่ามีการติดเหมือนกัน แต่เขาเรียกว่าซากเชื้อ หรือก็คือมีความเสี่ยงที่ต่ำมาก ที่จะแพร่เชื้อ
สำหรับ ร่างนโยบายการกักกันโรคระดับชาติ (National Quarantine Policy) รองรับการเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนในระยะยาว ประกอบด้วย 3 หลักการ คือ 1. จัดให้มีระบบการกักกันโรคและสถานที่กักกันผู้สัมผัสโรคหรือพาหะ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน เหมาะสมกับบริบทของการปฏิบัติงานและกลุ่มเป้าหมาย และเพียงพอทุกพื้นที่ 2. พัฒนากลไกการบริหารจัดการระบบการกักกันโรคและสถานที่กักกันโรคให้เป็นเอกภาพทั้งในระดับชาติและระดับจังหวัด ที่สามารถทำงานเชื่อมโยงกันได้ โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร 3. เร่งพัฒนาระบบการบริหารจัดการข้อมูลแบบบูรณาการ เพื่อสนับสนุนการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดระบบการจัดการในสถานที่กักกันโรค 10 ข้อ ทั้งด้านการจัดการสถานที่พัก พื้นที่ส่วนกลางและสถานที่เฉพาะ, มีผู้รับผิดชอบทุกขั้นตอนครบตามจำนวนวันที่กำหนด, การคัดกรองการเจ็บป่วยหรือสงสัยว่าติดเชื้อโควิด-19, การจัดการสิ่งแวดล้อม, การบริการพื้นฐานเพื่อการดำรงชีวิต, การรวบรวม จัดเก็บข้อมูล, ระบบรายงานเหตุการณ์, การพัฒนาทักษะผู้ปฏิบัติงาน, การตรวจประเมินสถานที่กักกันโรค และมีวิธีการตรวจสอบย้อนหลังเมื่อพบเหตุการณ์ผิดปกติ รวมทั้งมีการกำกับติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงาน ทั้งในระดับชาติและพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ
|