สรุปข้อมูลล่าสุดโดยละเอียด ของผู้เสียชีวิตรายที่ 59 จากโควิด19ในประเทศไทย

สรุปข้อมูลล่าสุดโดยละเอียด ของผู้เสียชีวิตรายที่ 59 จากโควิด19ในประเทศไทย
 
ในวันที่ 18 ก.ย. 69 ที่กระทรวงสาธารณสุข เวลาประมาณ 15:00 น. ทีมผู้ชี้แจงประกอบด้วย อธิบดีกรมการแพทย์ ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค และแพทย์ผู้รักษาจากโรงพยาบาลราชวิถี ได้ร่วมกันแถลงข่าวเรื่องการเสียชีวิตของผู้ป่วยรายที่ 59 ของประเทศไทย สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
 
1) ผู้เสียชีวิตเป็นชายไทยวัย 54ปี เป็นเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย ทำงานเป็นล่ามของสำนักงานแรงงานที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยทำงานช่วยคนไทยในตะวันออกกลางมานานกว่า 22 ปี ทั้งแรงงานในซาอุดิอาระเบียเอง คูเวต บาห์เรน และเลบานอน พื้นเพเป็นคนจังหวัดฉะเชิงเทรา
2) 21 กรกฎาคม 2563 เริ่มมีอาการป่วยและได้ตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาผลเป็นบวก
3) 26 กรกฎาคม 2563 ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล King Fahad Medical City
4) 31 กรกฎาคม 2563 คือ 5 วันถัดมา อาการทรุดหนักลง ต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียู
5) 5 สิงหาคม 2563 ผลการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนายังคงเป็นบวก
6) 10 สิงหาคม 2563 อาการทรุดหนักลงอีก แพทย์ต้องทำการปั๊มหัวใจและใส่ท่อช่วยหายใจ
7) ได้มีการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาอีกสองครั้ง ผลเป็นลบทั้งในวันที่ 25 และ 30 สิงหาคม 2563 แต่ยังคงมีอาการปอดอักเสบ
8) 1 กันยายน 2563 ได้มีการประสานงานระหว่างซาอุดิอาระเบียและประเทศไทย นำผู้ป่วยรายนี้ซึ่งยังคงมีอาการทางปอดแต่ไม่พบเชื้อแล้ว เดินทางมาโดยเครื่องบินพยาบาล(Air ambulance) มีทีมแพทย์พยาบาลจากอินโดนีเซียนำมาส่ง ที่สนามบินดอนเมืองโดยทีมแพทย์พยาบาลที่มากับผู้ป่วยไม่ได้แวะที่ประเทศไทย
9) 2กันยายน 2563 ทีมแพทย์กู้ชีพจากโรงพยาบาลราชวิถี ได้รับผู้ป่วยจากเครื่องบินพยาบาลตามมาตรฐานขั้นสูงของระบบการแพทย์สากล โดยมีการแยกและป้องกันผู้ป่วยกับทีมแพทย์พยาบาลและทีมกู้ชีพทั้งหมด
10) 3 กันยายน 2563 ผู้ป่วยมีอาการหนัก หายใจหอบ ปอดอักเสบ ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ และให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียทางเส้นเลือดดำ
11) ผลการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาที่โรงพยาบาลราชวิถี ผลเป็นลบ เช่นเดียวกับที่ตรวจที่ซาอุดีอาระเบียในสองครั้งล่าสุด แต่ผู้ป่วยยังคงมีอาการทางปอดหนักมาก มีการติดเชื้อแบคทีเรีย ได้รับการรักษาโดยการให้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด พบว่าเชื้อนั้นดื้อยา มีระดับน้ำตาลที่ไม่ค่อยดีและระดับความดันโลหิตที่ไม่ดี
12) ในสองวันที่ผ่านมา ทีมแพทย์ต้องใช้ยาเพื่อรักษาระดับความดันโลหิตไว้ถึงสามชนิด ยังคงมีอาการติดเชื้อรุนแรงและต่อเนื่อง ทำให้หายใจลำบาก
13) ในที่สุด ผู้ป่วยมีอาการไตวายจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่รุนแรงและต่อเนื่อง อวัยวะหลายชนิดล้มเหลว และเสียชีวิตในที่สุดตอนเที่ยงวันนี้(18กย2563)
14) จะได้มีการนำกรณีนี้ เข้าหารือในคณะกรรมการวิชาการ ตามพระราชบัญญัติควบคุมโรคติดต่อ 2558 เพื่อหาข้อสรุปอีกครั้งหนึ่ง
 
กล่าวโดยสรุป
ผู้ป่วยรายนี้มีการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19
ได้รับการรักษาที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย จนไม่พบเชื้อไวรัสแล้ว แต่ยังคงมีอาการปอดอักเสบรุนแรง ซึ่งเป็นผลมาจากติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19
 
หลังจากนั้นผู้ป่วยได้รับการส่งตัวมารักษาต่อที่เมืองไทยที่โรงพยาบาลราชวิถี และได้มีการตรวจยืนยันว่าไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกัน แต่ยังคงมีอาการหนักทางด้านปอด และมีการติดเชื้อแบคทีเรีย ได้รับการรักษาอย่างเต็มที่ แต่อาการทรุดลงเป็นลำดับและเสียชีวิตในที่สุด
 
ต้องนับว่าเป็นผู้ป่วยที่เสียชีวิตโดยมีต้นเหตุจากโควิด-19 เป็นรายที่ 59 ของประเทศไทย แม้จะเริ่มต้นมีอาการติดเชื้อที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย และในขณะที่ส่งตัวมารักษายังเมืองไทยจะตรวจไม่พบเชื้อไวรัสแล้วก็ตาม ตลอดจนระหว่างการรักษาในประเทศไทยจนเสียชีวิต ก็ตรวจไม่พบเชื้อไวรัสเช่นกัน
 
เป็นข้อสรุปที่สำคัญยิ่งประการหนึ่งว่า
โควิด-19 สามารถก่อความรุนแรงให้เกิดกับอวัยวะภายใน เช่น ปอด และถึงแม้เราจะกำจัดหรือฆ่าเชื้อไวรัสได้หมดแล้ว แต่ถ้าพยาธิสภาพที่ไวรัสฝากไว้กับอวัยวะ เช่น ปอด นั้นรุนแรงมาก ก็อาจจะทำให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตได้ โดยที่ตรวจไม่พบเชื้อไวรัสแล้วก็ตามครับ
 
 
Reference : การแถลงข่าวของกระทรวงสาธารณสุข
ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย
Visitors: 1,213,731