6 โรคร้ายถามหา ถ้าดื่มน้ำน้อย

6 โรคร้ายถามหา ถ้า “ดื่มน้ำน้อย”
 
 
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่แทบไม่ได้ลุกออกมาจากเก้าอี้ แก้วน้ำรินน้ำเอาไว้เต็มแก้วแต่อยู่ไปได้ทั้งวัน หรือวุ่นเสียจนไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆ วิ่งเข้าออกห้องประชุม ได้ดื่มน้ำเฉพาะช่วงที่ทานข้าวกลางวันเท่านั้น ขอบอกไว้เลยว่าร่างกายของคุณกำลัง “ขาดน้ำ” โดยที่คุณไม่รู้ตัว และมันส่งผลร้ายถึงสุขภาพอย่างร้ายแรงโดยที่คุณก็ไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน
 
6 โรคร้ายถามหา ถ้า “ดื่มน้ำน้อย”
1. สมองเสื่อม
ใครจะไปเชื่อว่าแค่ดื่มน้ำน้อย ก็เสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อมได้ เพราะเมื่อร่างกายของเราขาดน้ำ ปริมาณของน้ำในร่างกายไม่เพียงพอในการเป็นส่วนหนึ่งของเลือดที่สูบฉีดไปทั่วร่างกาย เมื่อเลือดมีความข้นหนืดมากขึ้น ทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงที่สมองได้เพียงพอ จึงเป็นสาเหตุของอาการสมองเสื่อมได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นหากคุณรู้สึกไม่สดชื่น เนือยๆ คิดอะไรช้า ไม่กระฉับกระเฉง อึนๆ มึนๆ นั่นอาจเป็นผลมาจากแค่การ “ดื่มน้ำน้อยเกินไป” ก็ได้นะ
2. ริดสีดวงทวาร
แน่นอนที่สุดว่าหากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ ส่งผลไปถึงการย่อยในกระเพาะอาหารที่ทำได้ยากลำบากมากขึ้น และลำไส้ที่แห้ง อาจทำให้เราไม่สามารถขับอุจจาระออกมาได้ เพราะอุจจาระอาจแห้งเกินไป เมื่อของเสียสะสมอยู่ในลำไส้ ลำไส้ก็จะดูดซึมของเสียนั้นกลับเข้าร่างกายไปอีก ยิ่งทำให้เลือดมีของเสีย และข้นหนืดกว่าเดิม อุจจาระก็แข็งแห้งกว่าเดิม จนเกิดเป็นอาการท้องผูก และท้ายที่สุดลงเอยด้วยโรคริดสีดวงทวารนั่นเอง
3. ปวดข้อ
เชื่อหรือไม่ว่ากระดูกอ่อนในหลายๆ ส่วนของร่างกาย รวมไปถึงหมอนรองกระดูก ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญ และเกิดอาการผิดปกติได้ง่าย มีส่วนประกอบเป็นน้ำมากถึง 80% ดังนั้นหากข้อต่อหรือหมอนรองกระดูกแห้ง ไม่ชุ่มชื้นเพียงพอ อาจทำให้ข้อต่อต่างๆ ดูดซับแรงกระแทกได้ไม่ดีพอ จนเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย หรืออาจอักเสบได้ง่ายเมื่อต้องออกแรงเดิน ยก เหวี่ยง หรือแม้แต่ตอนออกกำลังกาย และยกน้ำหนัก
4. ทางเดินปัสสาวะอักเสบ / กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
หากคุณมีอาการปวดปัสสาวะ แต่ไม่มีปัสสาวะไหลออกมา หรือไหลออกเพียงหยดสองหยด คุณอาจกำลังเป็นโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อันเนื่องมาจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ การติดเชื้อ และการกลั้นปัสสาวะนานๆ
5. อ้วน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าหากคุณดื่มน้ำน้อย เป็นสาเหตุที่อาจนำไปสู่โรคอ้วนได้ เพราะหากคุณดื่มน้ำอย่างเพียงพอในตอนเช้า ระหว่างมื้อกลางวัน และตอนเย็น หรืออาจดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนทานอาหาร คุณจะพบว่าคุณอิ่มง่ายอิ่มเร็วกว่าการทานอาหารโดยไม่ดื่มน้ำเลย ยิ่งถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่กินจุอยู่แล้ว แล้วยิ่งไม่ดื่มน้ำอีก ด้วยความหิวหรือความอยากอาหาร คุณอาจทานเพลินจนน้ำหนักขึ้นได้ง่ายๆ
6. ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
ประจำเดือนของคุณผู้หญิงเป็นตัวบ่งบอกถึงสุขภาพได้ดีอีกอย่างหนึ่ง หากคุณพบว่าคุณมีประจำเดือนที่ไม่สม่ำเสมอ ขาดๆ หายๆ มีน้ำเกินไป มีสีเข้มเกินไป มาเป็นลิ่มเลือด หรือแม้กระทั่งปวดท้องประจำเดือนมาก สาเหตุสำคัญที่คุณอาจละเลยอาจมาจากการดื่มน้ำน้อยก็เป็นได้ เพราะเมื่อน้ำในร่างกายมีปริมาณไม่เพียงพอ ร่างกายจึงไม่สามารถนำน้ำไปสร้างเป็นประจำเดือนได้นั่นเอง
 
3 สัญญาณของคนดื่มน้ำน้อย
หากไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นคนดื่มน้ำน้อยหรือไม่ ให้สังเกตได้จาก
1. ปัสสาวะไม่ถึง 4-7 ครั้งต่อวัน
2. ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มแทบทุกครั้ง
3. ปัสสาวะมีกลิ่นฉุนจัด
แค่ดื่มน้ำน้อยก็ส่งผลเสียถึงร่างกายได้มากมายขนาดนี้ นี่ยังไม่รวมถึงผลเสียด้านผิวพรรณที่หย่อนคล้อย หมองคล้ำ ผิวแห้ง ตาแห้ง และดูแก่กว่าวัยอีกนะ สาวๆ ได้ยินแล้วคงกรี๊ดเลยสิ
เพราะฉะนั้นหากใครมีอาการตามสัญญาณของคนดื่มน้ำน้อยดังกล่าว ควรดื่มน้ำเพิ่มขึ้นให้ได้ราวๆ 1,500-2,000 มิลลิลิตรต่อวัน หรือ 6-8 แก้วต่อวัน หรือถ้ากลัวลืมก็เอาขวดลิตรมาตั้งไว้บนโต๊ะ 1 ขวด แล้วเตือนตัวเองว่าต้องดื่มให้หมด ทำงานจิบไป เข้าห้องประชุมก็ถือแก้วน้ำเข้าไปด้วย รับรองว่าหากทำได้ร่างกายของคุณจะไม่ขาดน้ำอีกต่อไป
หมายเหตุ – หากคุณดื่มน้ำไม่ถึง 6-8 แก้ว แต่ไม่มีอาการที่แสดงให้เห็นถึงสัญญาณของคนดื่มน้ำน้อย อาจเป็นเพราะคุณดื่มเครื่องดื่ม หรือทานอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากพออยู่แล้ว จึงอาจไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำให้ได้ 6-8 แก้วต่อวันค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม “น้ำเปล่า” ก็ยังสำคัญต่อร่างกาย อย่าลืมดื่มน้ำเปล่าบ้างนะคะ
 
 
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :สสส.,ku.ac.th
ภาพ :iStock
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่แทบไม่ได้ลุกออกมาจากเก้าอี้ แก้วน้ำรินน้ำเอาไว้เต็มแก้วแต่อยู่ไปได้ทั้งวัน หรือวุ่นเสียจนไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆ วิ่งเข้าออกห้องประชุม ได้ดื่มน้ำเฉพาะช่วงที่ทานข้าวกลางวันเท่านั้น ขอบอกไว้เลยว่าร่างกายของคุณกำลัง “ขาดน้ำ” โดยที่คุณไม่รู้ตัว และมันส่งผลร้ายถึงสุขภาพอย่างร้ายแรงโดยที่คุณก็ไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน
6 โรคร้ายถามหา ถ้า “ดื่มน้ำน้อย”
1. สมองเสื่อม
ใครจะไปเชื่อว่าแค่ดื่มน้ำน้อย ก็เสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อมได้ เพราะเมื่อร่างกายของเราขาดน้ำ ปริมาณของน้ำในร่างกายไม่เพียงพอในการเป็นส่วนหนึ่งของเลือดที่สูบฉีดไปทั่วร่างกาย เมื่อเลือดมีความข้นหนืดมากขึ้น ทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงที่สมองได้เพียงพอ จึงเป็นสาเหตุของอาการสมองเสื่อมได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นหากคุณรู้สึกไม่สดชื่น เนือยๆ คิดอะไรช้า ไม่กระฉับกระเฉง อึนๆ มึนๆ นั่นอาจเป็นผลมาจากแค่การ “ดื่มน้ำน้อยเกินไป” ก็ได้นะ
2. ริดสีดวงทวาร
แน่นอนที่สุดว่าหากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ ส่งผลไปถึงการย่อยในกระเพาะอาหารที่ทำได้ยากลำบากมากขึ้น และลำไส้ที่แห้ง อาจทำให้เราไม่สามารถขับอุจจาระออกมาได้ เพราะอุจจาระอาจแห้งเกินไป เมื่อของเสียสะสมอยู่ในลำไส้ ลำไส้ก็จะดูดซึมของเสียนั้นกลับเข้าร่างกายไปอีก ยิ่งทำให้เลือดมีของเสีย และข้นหนืดกว่าเดิม อุจจาระก็แข็งแห้งกว่าเดิม จนเกิดเป็นอาการท้องผูก และท้ายที่สุดลงเอยด้วยโรคริดสีดวงทวารนั่นเอง
3. ปวดข้อ
เชื่อหรือไม่ว่ากระดูกอ่อนในหลายๆ ส่วนของร่างกาย รวมไปถึงหมอนรองกระดูก ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญ และเกิดอาการผิดปกติได้ง่าย มีส่วนประกอบเป็นน้ำมากถึง 80% ดังนั้นหากข้อต่อหรือหมอนรองกระดูกแห้ง ไม่ชุ่มชื้นเพียงพอ อาจทำให้ข้อต่อต่างๆ ดูดซับแรงกระแทกได้ไม่ดีพอ จนเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย หรืออาจอักเสบได้ง่ายเมื่อต้องออกแรงเดิน ยก เหวี่ยง หรือแม้แต่ตอนออกกำลังกาย และยกน้ำหนัก
4. ทางเดินปัสสาวะอักเสบ / กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
หากคุณมีอาการปวดปัสสาวะ แต่ไม่มีปัสสาวะไหลออกมา หรือไหลออกเพียงหยดสองหยด คุณอาจกำลังเป็นโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อันเนื่องมาจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ การติดเชื้อ และการกลั้นปัสสาวะนานๆ
5. อ้วน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าหากคุณดื่มน้ำน้อย เป็นสาเหตุที่อาจนำไปสู่โรคอ้วนได้ เพราะหากคุณดื่มน้ำอย่างเพียงพอในตอนเช้า ระหว่างมื้อกลางวัน และตอนเย็น หรืออาจดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนทานอาหาร คุณจะพบว่าคุณอิ่มง่ายอิ่มเร็วกว่าการทานอาหารโดยไม่ดื่มน้ำเลย ยิ่งถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่กินจุอยู่แล้ว แล้วยิ่งไม่ดื่มน้ำอีก ด้วยความหิวหรือความอยากอาหาร คุณอาจทานเพลินจนน้ำหนักขึ้นได้ง่ายๆ
6. ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
ประจำเดือนของคุณผู้หญิงเป็นตัวบ่งบอกถึงสุขภาพได้ดีอีกอย่างหนึ่ง หากคุณพบว่าคุณมีประจำเดือนที่ไม่สม่ำเสมอ ขาดๆ หายๆ มีน้ำเกินไป มีสีเข้มเกินไป มาเป็นลิ่มเลือด หรือแม้กระทั่งปวดท้องประจำเดือนมาก สาเหตุสำคัญที่คุณอาจละเลยอาจมาจากการดื่มน้ำน้อยก็เป็นได้ เพราะเมื่อน้ำในร่างกายมีปริมาณไม่เพียงพอ ร่างกายจึงไม่สามารถนำน้ำไปสร้างเป็นประจำเดือนได้นั่นเอง
3 สัญญาณของคนดื่มน้ำน้อย
หากไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นคนดื่มน้ำน้อยหรือไม่ ให้สังเกตได้จาก
1. ปัสสาวะไม่ถึง 4-7 ครั้งต่อวัน
2. ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มแทบทุกครั้ง
3. ปัสสาวะมีกลิ่นฉุนจัด
แค่ดื่มน้ำน้อยก็ส่งผลเสียถึงร่างกายได้มากมายขนาดนี้ นี่ยังไม่รวมถึงผลเสียด้านผิวพรรณที่หย่อนคล้อย หมองคล้ำ ผิวแห้ง ตาแห้ง และดูแก่กว่าวัยอีกนะ สาวๆ ได้ยินแล้วคงกรี๊ดเลยสิ
เพราะฉะนั้นหากใครมีอาการตามสัญญาณของคนดื่มน้ำน้อยดังกล่าว ควรดื่มน้ำเพิ่มขึ้นให้ได้ราวๆ 1,500-2,000 มิลลิลิตรต่อวัน หรือ 6-8 แก้วต่อวัน หรือถ้ากลัวลืมก็เอาขวดลิตรมาตั้งไว้บนโต๊ะ 1 ขวด แล้วเตือนตัวเองว่าต้องดื่มให้หมด ทำงานจิบไป เข้าห้องประชุมก็ถือแก้วน้ำเข้าไปด้วย รับรองว่าหากทำได้ร่างกายของคุณจะไม่ขาดน้ำอีกต่อไป
หมายเหตุ – หากคุณดื่มน้ำไม่ถึง 6-8 แก้ว แต่ไม่มีอาการที่แสดงให้เห็นถึงสัญญาณของคนดื่มน้ำน้อย อาจเป็นเพราะคุณดื่มเครื่องดื่ม หรือทานอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากพออยู่แล้ว จึงอาจไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำให้ได้ 6-8 แก้วต่อวันค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม “น้ำเปล่า” ก็ยังสำคัญต่อร่างกาย อย่าลืมดื่มน้ำเปล่าบ้างนะคะ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่แทบไม่ได้ลุกออกมาจากเก้าอี้ แก้วน้ำรินน้ำเอาไว้เต็มแก้วแต่อยู่ไปได้ทั้งวัน หรือวุ่นเสียจนไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆ วิ่งเข้าออกห้องประชุม ได้ดื่มน้ำเฉพาะช่วงที่ทานข้าวกลางวันเท่านั้น ขอบอกไว้เลยว่าร่างกายของคุณกำลัง “ขาดน้ำ” โดยที่คุณไม่รู้ตัว และมันส่งผลร้ายถึงสุขภาพอย่างร้ายแรงโดยที่คุณก็ไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน
6 โรคร้ายถามหา ถ้า “ดื่มน้ำน้อย”
1. สมองเสื่อม
ใครจะไปเชื่อว่าแค่ดื่มน้ำน้อย ก็เสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อมได้ เพราะเมื่อร่างกายของเราขาดน้ำ ปริมาณของน้ำในร่างกายไม่เพียงพอในการเป็นส่วนหนึ่งของเลือดที่สูบฉีดไปทั่วร่างกาย เมื่อเลือดมีความข้นหนืดมากขึ้น ทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงที่สมองได้เพียงพอ จึงเป็นสาเหตุของอาการสมองเสื่อมได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นหากคุณรู้สึกไม่สดชื่น เนือยๆ คิดอะไรช้า ไม่กระฉับกระเฉง อึนๆ มึนๆ นั่นอาจเป็นผลมาจากแค่การ “ดื่มน้ำน้อยเกินไป” ก็ได้นะ
2. ริดสีดวงทวาร
แน่นอนที่สุดว่าหากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ ส่งผลไปถึงการย่อยในกระเพาะอาหารที่ทำได้ยากลำบากมากขึ้น และลำไส้ที่แห้ง อาจทำให้เราไม่สามารถขับอุจจาระออกมาได้ เพราะอุจจาระอาจแห้งเกินไป เมื่อของเสียสะสมอยู่ในลำไส้ ลำไส้ก็จะดูดซึมของเสียนั้นกลับเข้าร่างกายไปอีก ยิ่งทำให้เลือดมีของเสีย และข้นหนืดกว่าเดิม อุจจาระก็แข็งแห้งกว่าเดิม จนเกิดเป็นอาการท้องผูก และท้ายที่สุดลงเอยด้วยโรคริดสีดวงทวารนั่นเอง
3. ปวดข้อ
เชื่อหรือไม่ว่ากระดูกอ่อนในหลายๆ ส่วนของร่างกาย รวมไปถึงหมอนรองกระดูก ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญ และเกิดอาการผิดปกติได้ง่าย มีส่วนประกอบเป็นน้ำมากถึง 80% ดังนั้นหากข้อต่อหรือหมอนรองกระดูกแห้ง ไม่ชุ่มชื้นเพียงพอ อาจทำให้ข้อต่อต่างๆ ดูดซับแรงกระแทกได้ไม่ดีพอ จนเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย หรืออาจอักเสบได้ง่ายเมื่อต้องออกแรงเดิน ยก เหวี่ยง หรือแม้แต่ตอนออกกำลังกาย และยกน้ำหนัก
4. ทางเดินปัสสาวะอักเสบ / กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
หากคุณมีอาการปวดปัสสาวะ แต่ไม่มีปัสสาวะไหลออกมา หรือไหลออกเพียงหยดสองหยด คุณอาจกำลังเป็นโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อันเนื่องมาจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ การติดเชื้อ และการกลั้นปัสสาวะนานๆ
5. อ้วน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าหากคุณดื่มน้ำน้อย เป็นสาเหตุที่อาจนำไปสู่โรคอ้วนได้ เพราะหากคุณดื่มน้ำอย่างเพียงพอในตอนเช้า ระหว่างมื้อกลางวัน และตอนเย็น หรืออาจดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนทานอาหาร คุณจะพบว่าคุณอิ่มง่ายอิ่มเร็วกว่าการทานอาหารโดยไม่ดื่มน้ำเลย ยิ่งถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่กินจุอยู่แล้ว แล้วยิ่งไม่ดื่มน้ำอีก ด้วยความหิวหรือความอยากอาหาร คุณอาจทานเพลินจนน้ำหนักขึ้นได้ง่ายๆ
6. ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
ประจำเดือนของคุณผู้หญิงเป็นตัวบ่งบอกถึงสุขภาพได้ดีอีกอย่างหนึ่ง หากคุณพบว่าคุณมีประจำเดือนที่ไม่สม่ำเสมอ ขาดๆ หายๆ มีน้ำเกินไป มีสีเข้มเกินไป มาเป็นลิ่มเลือด หรือแม้กระทั่งปวดท้องประจำเดือนมาก สาเหตุสำคัญที่คุณอาจละเลยอาจมาจากการดื่มน้ำน้อยก็เป็นได้ เพราะเมื่อน้ำในร่างกายมีปริมาณไม่เพียงพอ ร่างกายจึงไม่สามารถนำน้ำไปสร้างเป็นประจำเดือนได้นั่นเอง
3 สัญญาณของคนดื่มน้ำน้อย
หากไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นคนดื่มน้ำน้อยหรือไม่ ให้สังเกตได้จาก
1. ปัสสาวะไม่ถึง 4-7 ครั้งต่อวัน
2. ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มแทบทุกครั้ง
3. ปัสสาวะมีกลิ่นฉุนจัด
แค่ดื่มน้ำน้อยก็ส่งผลเสียถึงร่างกายได้มากมายขนาดนี้ นี่ยังไม่รวมถึงผลเสียด้านผิวพรรณที่หย่อนคล้อย หมองคล้ำ ผิวแห้ง ตาแห้ง และดูแก่กว่าวัยอีกนะ สาวๆ ได้ยินแล้วคงกรี๊ดเลยสิ
เพราะฉะนั้นหากใครมีอาการตามสัญญาณของคนดื่มน้ำน้อยดังกล่าว ควรดื่มน้ำเพิ่มขึ้นให้ได้ราวๆ 1,500-2,000 มิลลิลิตรต่อวัน หรือ 6-8 แก้วต่อวัน หรือถ้ากลัวลืมก็เอาขวดลิตรมาตั้งไว้บนโต๊ะ 1 ขวด แล้วเตือนตัวเองว่าต้องดื่มให้หมด ทำงานจิบไป เข้าห้องประชุมก็ถือแก้วน้ำเข้าไปด้วย รับรองว่าหากทำได้ร่างกายของคุณจะไม่ขาดน้ำอีกต่อไป
หมายเหตุ – หากคุณดื่มน้ำไม่ถึง 6-8 แก้ว แต่ไม่มีอาการที่แสดงให้เห็นถึงสัญญาณของคนดื่มน้ำน้อย อาจเป็นเพราะคุณดื่มเครื่องดื่ม หรือทานอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากพออยู่แล้ว จึงอาจไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำให้ได้ 6-8 แก้วต่อวันค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม “น้ำเปล่า” ก็ยังสำคัญต่อร่างกาย อย่าลืมดื่มน้ำเปล่าบ้างนะคะ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่แทบไม่ได้ลุกออกมาจากเก้าอี้ แก้วน้ำรินน้ำเอาไว้เต็มแก้วแต่อยู่ไปได้ทั้งวัน หรือวุ่นเสียจนไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆ วิ่งเข้าออกห้องประชุม ได้ดื่มน้ำเฉพาะช่วงที่ทานข้าวกลางวันเท่านั้น ขอบอกไว้เลยว่าร่างกายของคุณกำลัง “ขาดน้ำ” โดยที่คุณไม่รู้ตัว และมันส่งผลร้ายถึงสุขภาพอย่างร้ายแรงโดยที่คุณก็ไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน
6 โรคร้ายถามหา ถ้า “ดื่มน้ำน้อย”
1. สมองเสื่อม
ใครจะไปเชื่อว่าแค่ดื่มน้ำน้อย ก็เสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อมได้ เพราะเมื่อร่างกายของเราขาดน้ำ ปริมาณของน้ำในร่างกายไม่เพียงพอในการเป็นส่วนหนึ่งของเลือดที่สูบฉีดไปทั่วร่างกาย เมื่อเลือดมีความข้นหนืดมากขึ้น ทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงที่สมองได้เพียงพอ จึงเป็นสาเหตุของอาการสมองเสื่อมได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นหากคุณรู้สึกไม่สดชื่น เนือยๆ คิดอะไรช้า ไม่กระฉับกระเฉง อึนๆ มึนๆ นั่นอาจเป็นผลมาจากแค่การ “ดื่มน้ำน้อยเกินไป” ก็ได้นะ
2. ริดสีดวงทวาร
แน่นอนที่สุดว่าหากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ ส่งผลไปถึงการย่อยในกระเพาะอาหารที่ทำได้ยากลำบากมากขึ้น และลำไส้ที่แห้ง อาจทำให้เราไม่สามารถขับอุจจาระออกมาได้ เพราะอุจจาระอาจแห้งเกินไป เมื่อของเสียสะสมอยู่ในลำไส้ ลำไส้ก็จะดูดซึมของเสียนั้นกลับเข้าร่างกายไปอีก ยิ่งทำให้เลือดมีของเสีย และข้นหนืดกว่าเดิม อุจจาระก็แข็งแห้งกว่าเดิม จนเกิดเป็นอาการท้องผูก และท้ายที่สุดลงเอยด้วยโรคริดสีดวงทวารนั่นเอง
3. ปวดข้อ
เชื่อหรือไม่ว่ากระดูกอ่อนในหลายๆ ส่วนของร่างกาย รวมไปถึงหมอนรองกระดูก ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญ และเกิดอาการผิดปกติได้ง่าย มีส่วนประกอบเป็นน้ำมากถึง 80% ดังนั้นหากข้อต่อหรือหมอนรองกระดูกแห้ง ไม่ชุ่มชื้นเพียงพอ อาจทำให้ข้อต่อต่างๆ ดูดซับแรงกระแทกได้ไม่ดีพอ จนเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย หรืออาจอักเสบได้ง่ายเมื่อต้องออกแรงเดิน ยก เหวี่ยง หรือแม้แต่ตอนออกกำลังกาย และยกน้ำหนัก
4. ทางเดินปัสสาวะอักเสบ / กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
หากคุณมีอาการปวดปัสสาวะ แต่ไม่มีปัสสาวะไหลออกมา หรือไหลออกเพียงหยดสองหยด คุณอาจกำลังเป็นโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อันเนื่องมาจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ การติดเชื้อ และการกลั้นปัสสาวะนานๆ
5. อ้วน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าหากคุณดื่มน้ำน้อย เป็นสาเหตุที่อาจนำไปสู่โรคอ้วนได้ เพราะหากคุณดื่มน้ำอย่างเพียงพอในตอนเช้า ระหว่างมื้อกลางวัน และตอนเย็น หรืออาจดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนทานอาหาร คุณจะพบว่าคุณอิ่มง่ายอิ่มเร็วกว่าการทานอาหารโดยไม่ดื่มน้ำเลย ยิ่งถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่กินจุอยู่แล้ว แล้วยิ่งไม่ดื่มน้ำอีก ด้วยความหิวหรือความอยากอาหาร คุณอาจทานเพลินจนน้ำหนักขึ้นได้ง่ายๆ
6. ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
ประจำเดือนของคุณผู้หญิงเป็นตัวบ่งบอกถึงสุขภาพได้ดีอีกอย่างหนึ่ง หากคุณพบว่าคุณมีประจำเดือนที่ไม่สม่ำเสมอ ขาดๆ หายๆ มีน้ำเกินไป มีสีเข้มเกินไป มาเป็นลิ่มเลือด หรือแม้กระทั่งปวดท้องประจำเดือนมาก สาเหตุสำคัญที่คุณอาจละเลยอาจมาจากการดื่มน้ำน้อยก็เป็นได้ เพราะเมื่อน้ำในร่างกายมีปริมาณไม่เพียงพอ ร่างกายจึงไม่สามารถนำน้ำไปสร้างเป็นประจำเดือนได้นั่นเอง
3 สัญญาณของคนดื่มน้ำน้อย
หากไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นคนดื่มน้ำน้อยหรือไม่ ให้สังเกตได้จาก
1. ปัสสาวะไม่ถึง 4-7 ครั้งต่อวัน
2. ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มแทบทุกครั้ง
3. ปัสสาวะมีกลิ่นฉุนจัด
แค่ดื่มน้ำน้อยก็ส่งผลเสียถึงร่างกายได้มากมายขนาดนี้ นี่ยังไม่รวมถึงผลเสียด้านผิวพรรณที่หย่อนคล้อย หมองคล้ำ ผิวแห้ง ตาแห้ง และดูแก่กว่าวัยอีกนะ สาวๆ ได้ยินแล้วคงกรี๊ดเลยสิ
เพราะฉะนั้นหากใครมีอาการตามสัญญาณของคนดื่มน้ำน้อยดังกล่าว ควรดื่มน้ำเพิ่มขึ้นให้ได้ราวๆ 1,500-2,000 มิลลิลิตรต่อวัน หรือ 6-8 แก้วต่อวัน หรือถ้ากลัวลืมก็เอาขวดลิตรมาตั้งไว้บนโต๊ะ 1 ขวด แล้วเตือนตัวเองว่าต้องดื่มให้หมด ทำงานจิบไป เข้าห้องประชุมก็ถือแก้วน้ำเข้าไปด้วย รับรองว่าหากทำได้ร่างกายของคุณจะไม่ขาดน้ำอีกต่อไป
หมายเหตุ – หากคุณดื่มน้ำไม่ถึง 6-8 แก้ว แต่ไม่มีอาการที่แสดงให้เห็นถึงสัญญาณของคนดื่มน้ำน้อย อาจเป็นเพราะคุณดื่มเครื่องดื่ม หรือทานอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากพออยู่แล้ว จึงอาจไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำให้ได้ 6-8 แก้วต่อวันค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม “น้ำเปล่า” ก็ยังสำคัญต่อร่างกาย อย่าลืมดื่มน้ำเปล่าบ้างนะคะ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่แทบไม่ได้ลุกออกมาจากเก้าอี้ แก้วน้ำรินน้ำเอาไว้เต็มแก้วแต่อยู่ไปได้ทั้งวัน หรือวุ่นเสียจนไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆ วิ่งเข้าออกห้องประชุม ได้ดื่มน้ำเฉพาะช่วงที่ทานข้าวกลางวันเท่านั้น ขอบอกไว้เลยว่าร่างกายของคุณกำลัง “ขาดน้ำ” โดยที่คุณไม่รู้ตัว และมันส่งผลร้ายถึงสุขภาพอย่างร้ายแรงโดยที่คุณก็ไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน
6 โรคร้ายถามหา ถ้า “ดื่มน้ำน้อย”
1. สมองเสื่อม
ใครจะไปเชื่อว่าแค่ดื่มน้ำน้อย ก็เสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อมได้ เพราะเมื่อร่างกายของเราขาดน้ำ ปริมาณของน้ำในร่างกายไม่เพียงพอในการเป็นส่วนหนึ่งของเลือดที่สูบฉีดไปทั่วร่างกาย เมื่อเลือดมีความข้นหนืดมากขึ้น ทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงที่สมองได้เพียงพอ จึงเป็นสาเหตุของอาการสมองเสื่อมได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นหากคุณรู้สึกไม่สดชื่น เนือยๆ คิดอะไรช้า ไม่กระฉับกระเฉง อึนๆ มึนๆ นั่นอาจเป็นผลมาจากแค่การ “ดื่มน้ำน้อยเกินไป” ก็ได้นะ
2. ริดสีดวงทวาร
แน่นอนที่สุดว่าหากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ ส่งผลไปถึงการย่อยในกระเพาะอาหารที่ทำได้ยากลำบากมากขึ้น และลำไส้ที่แห้ง อาจทำให้เราไม่สามารถขับอุจจาระออกมาได้ เพราะอุจจาระอาจแห้งเกินไป เมื่อของเสียสะสมอยู่ในลำไส้ ลำไส้ก็จะดูดซึมของเสียนั้นกลับเข้าร่างกายไปอีก ยิ่งทำให้เลือดมีของเสีย และข้นหนืดกว่าเดิม อุจจาระก็แข็งแห้งกว่าเดิม จนเกิดเป็นอาการท้องผูก และท้ายที่สุดลงเอยด้วยโรคริดสีดวงทวารนั่นเอง
3. ปวดข้อ
เชื่อหรือไม่ว่ากระดูกอ่อนในหลายๆ ส่วนของร่างกาย รวมไปถึงหมอนรองกระดูก ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญ และเกิดอาการผิดปกติได้ง่าย มีส่วนประกอบเป็นน้ำมากถึง 80% ดังนั้นหากข้อต่อหรือหมอนรองกระดูกแห้ง ไม่ชุ่มชื้นเพียงพอ อาจทำให้ข้อต่อต่างๆ ดูดซับแรงกระแทกได้ไม่ดีพอ จนเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย หรืออาจอักเสบได้ง่ายเมื่อต้องออกแรงเดิน ยก เหวี่ยง หรือแม้แต่ตอนออกกำลังกาย และยกน้ำหนัก
4. ทางเดินปัสสาวะอักเสบ / กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
หากคุณมีอาการปวดปัสสาวะ แต่ไม่มีปัสสาวะไหลออกมา หรือไหลออกเพียงหยดสองหยด คุณอาจกำลังเป็นโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อันเนื่องมาจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ การติดเชื้อ และการกลั้นปัสสาวะนานๆ
5. อ้วน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าหากคุณดื่มน้ำน้อย เป็นสาเหตุที่อาจนำไปสู่โรคอ้วนได้ เพราะหากคุณดื่มน้ำอย่างเพียงพอในตอนเช้า ระหว่างมื้อกลางวัน และตอนเย็น หรืออาจดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนทานอาหาร คุณจะพบว่าคุณอิ่มง่ายอิ่มเร็วกว่าการทานอาหารโดยไม่ดื่มน้ำเลย ยิ่งถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่กินจุอยู่แล้ว แล้วยิ่งไม่ดื่มน้ำอีก ด้วยความหิวหรือความอยากอาหาร คุณอาจทานเพลินจนน้ำหนักขึ้นได้ง่ายๆ
6. ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
ประจำเดือนของคุณผู้หญิงเป็นตัวบ่งบอกถึงสุขภาพได้ดีอีกอย่างหนึ่ง หากคุณพบว่าคุณมีประจำเดือนที่ไม่สม่ำเสมอ ขาดๆ หายๆ มีน้ำเกินไป มีสีเข้มเกินไป มาเป็นลิ่มเลือด หรือแม้กระทั่งปวดท้องประจำเดือนมาก สาเหตุสำคัญที่คุณอาจละเลยอาจมาจากการดื่มน้ำน้อยก็เป็นได้ เพราะเมื่อน้ำในร่างกายมีปริมาณไม่เพียงพอ ร่างกายจึงไม่สามารถนำน้ำไปสร้างเป็นประจำเดือนได้นั่นเอง
3 สัญญาณของคนดื่มน้ำน้อย
หากไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นคนดื่มน้ำน้อยหรือไม่ ให้สังเกตได้จาก
1. ปัสสาวะไม่ถึง 4-7 ครั้งต่อวัน
2. ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มแทบทุกครั้ง
3. ปัสสาวะมีกลิ่นฉุนจัด
แค่ดื่มน้ำน้อยก็ส่งผลเสียถึงร่างกายได้มากมายขนาดนี้ นี่ยังไม่รวมถึงผลเสียด้านผิวพรรณที่หย่อนคล้อย หมองคล้ำ ผิวแห้ง ตาแห้ง และดูแก่กว่าวัยอีกนะ สาวๆ ได้ยินแล้วคงกรี๊ดเลยสิ
เพราะฉะนั้นหากใครมีอาการตามสัญญาณของคนดื่มน้ำน้อยดังกล่าว ควรดื่มน้ำเพิ่มขึ้นให้ได้ราวๆ 1,500-2,000 มิลลิลิตรต่อวัน หรือ 6-8 แก้วต่อวัน หรือถ้ากลัวลืมก็เอาขวดลิตรมาตั้งไว้บนโต๊ะ 1 ขวด แล้วเตือนตัวเองว่าต้องดื่มให้หมด ทำงานจิบไป เข้าห้องประชุมก็ถือแก้วน้ำเข้าไปด้วย รับรองว่าหากทำได้ร่างกายของคุณจะไม่ขาดน้ำอีกต่อไป
หมายเหตุ – หากคุณดื่มน้ำไม่ถึง 6-8 แก้ว แต่ไม่มีอาการที่แสดงให้เห็นถึงสัญญาณของคนดื่มน้ำน้อย อาจเป็นเพราะคุณดื่มเครื่องดื่ม หรือทานอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากพออยู่แล้ว จึงอาจไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำให้ได้ 6-8 แก้วต่อวันค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม “น้ำเปล่า” ก็ยังสำคัญต่อร่างกาย อย่าลืมดื่มน้ำเปล่าบ้างนะคะ
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :สสส.,ku.ac.th
 
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่แทบไม่ได้ลุกออกมาจากเก้าอี้ แก้วน้ำรินน้ำเอาไว้เต็มแก้วแต่อยู่ไปได้ทั้งวัน หรือวุ่นเสียจนไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆ วิ่งเข้าออกห้องประชุม ได้ดื่มน้ำเฉพาะช่วงที่ทานข้าวกลางวันเท่านั้น ขอบอกไว้เลยว่าร่างกายของคุณกำลัง “ขาดน้ำ” โดยที่คุณไม่รู้ตัว และมันส่งผลร้ายถึงสุขภาพอย่างร้ายแรงโดยที่คุณก็ไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน
6 โรคร้ายถามหา ถ้า “ดื่มน้ำน้อย”
1. สมองเสื่อม
ใครจะไปเชื่อว่าแค่ดื่มน้ำน้อย ก็เสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อมได้ เพราะเมื่อร่างกายของเราขาดน้ำ ปริมาณของน้ำในร่างกายไม่เพียงพอในการเป็นส่วนหนึ่งของเลือดที่สูบฉีดไปทั่วร่างกาย เมื่อเลือดมีความข้นหนืดมากขึ้น ทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงที่สมองได้เพียงพอ จึงเป็นสาเหตุของอาการสมองเสื่อมได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นหากคุณรู้สึกไม่สดชื่น เนือยๆ คิดอะไรช้า ไม่กระฉับกระเฉง อึนๆ มึนๆ นั่นอาจเป็นผลมาจากแค่การ “ดื่มน้ำน้อยเกินไป” ก็ได้นะ
2. ริดสีดวงทวาร
แน่นอนที่สุดว่าหากร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ ส่งผลไปถึงการย่อยในกระเพาะอาหารที่ทำได้ยากลำบากมากขึ้น และลำไส้ที่แห้ง อาจทำให้เราไม่สามารถขับอุจจาระออกมาได้ เพราะอุจจาระอาจแห้งเกินไป เมื่อของเสียสะสมอยู่ในลำไส้ ลำไส้ก็จะดูดซึมของเสียนั้นกลับเข้าร่างกายไปอีก ยิ่งทำให้เลือดมีของเสีย และข้นหนืดกว่าเดิม อุจจาระก็แข็งแห้งกว่าเดิม จนเกิดเป็นอาการท้องผูก และท้ายที่สุดลงเอยด้วยโรคริดสีดวงทวารนั่นเอง
3. ปวดข้อ
เชื่อหรือไม่ว่ากระดูกอ่อนในหลายๆ ส่วนของร่างกาย รวมไปถึงหมอนรองกระดูก ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญ และเกิดอาการผิดปกติได้ง่าย มีส่วนประกอบเป็นน้ำมากถึง 80% ดังนั้นหากข้อต่อหรือหมอนรองกระดูกแห้ง ไม่ชุ่มชื้นเพียงพอ อาจทำให้ข้อต่อต่างๆ ดูดซับแรงกระแทกได้ไม่ดีพอ จนเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย หรืออาจอักเสบได้ง่ายเมื่อต้องออกแรงเดิน ยก เหวี่ยง หรือแม้แต่ตอนออกกำลังกาย และยกน้ำหนัก
4. ทางเดินปัสสาวะอักเสบ / กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
หากคุณมีอาการปวดปัสสาวะ แต่ไม่มีปัสสาวะไหลออกมา หรือไหลออกเพียงหยดสองหยด คุณอาจกำลังเป็นโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อันเนื่องมาจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ การติดเชื้อ และการกลั้นปัสสาวะนานๆ
5. อ้วน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าหากคุณดื่มน้ำน้อย เป็นสาเหตุที่อาจนำไปสู่โรคอ้วนได้ เพราะหากคุณดื่มน้ำอย่างเพียงพอในตอนเช้า ระหว่างมื้อกลางวัน และตอนเย็น หรืออาจดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนทานอาหาร คุณจะพบว่าคุณอิ่มง่ายอิ่มเร็วกว่าการทานอาหารโดยไม่ดื่มน้ำเลย ยิ่งถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่กินจุอยู่แล้ว แล้วยิ่งไม่ดื่มน้ำอีก ด้วยความหิวหรือความอยากอาหาร คุณอาจทานเพลินจนน้ำหนักขึ้นได้ง่ายๆ
6. ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
ประจำเดือนของคุณผู้หญิงเป็นตัวบ่งบอกถึงสุขภาพได้ดีอีกอย่างหนึ่ง หากคุณพบว่าคุณมีประจำเดือนที่ไม่สม่ำเสมอ ขาดๆ หายๆ มีน้ำเกินไป มีสีเข้มเกินไป มาเป็นลิ่มเลือด หรือแม้กระทั่งปวดท้องประจำเดือนมาก สาเหตุสำคัญที่คุณอาจละเลยอาจมาจากการดื่มน้ำน้อยก็เป็นได้ เพราะเมื่อน้ำในร่างกายมีปริมาณไม่เพียงพอ ร่างกายจึงไม่สามารถนำน้ำไปสร้างเป็นประจำเดือนได้นั่นเอง
3 สัญญาณของคนดื่มน้ำน้อย
หากไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นคนดื่มน้ำน้อยหรือไม่ ให้สังเกตได้จาก
1. ปัสสาวะไม่ถึง 4-7 ครั้งต่อวัน
2. ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มแทบทุกครั้ง
3. ปัสสาวะมีกลิ่นฉุนจัด
แค่ดื่มน้ำน้อยก็ส่งผลเสียถึงร่างกายได้มากมายขนาดนี้ นี่ยังไม่รวมถึงผลเสียด้านผิวพรรณที่หย่อนคล้อย หมองคล้ำ ผิวแห้ง ตาแห้ง และดูแก่กว่าวัยอีกนะ สาวๆ ได้ยินแล้วคงกรี๊ดเลยสิ
เพราะฉะนั้นหากใครมีอาการตามสัญญาณของคนดื่มน้ำน้อยดังกล่าว ควรดื่มน้ำเพิ่มขึ้นให้ได้ราวๆ 1,500-2,000 มิลลิลิตรต่อวัน หรือ 6-8 แก้วต่อวัน หรือถ้ากลัวลืมก็เอาขวดลิตรมาตั้งไว้บนโต๊ะ 1 ขวด แล้วเตือนตัวเองว่าต้องดื่มให้หมด ทำงานจิบไป เข้าห้องประชุมก็ถือแก้วน้ำเข้าไปด้วย รับรองว่าหากทำได้ร่างกายของคุณจะไม่ขาดน้ำอีกต่อไป
หมายเหตุ – หากคุณดื่มน้ำไม่ถึง 6-8 แก้ว แต่ไม่มีอาการที่แสดงให้เห็นถึงสัญญาณของคนดื่มน้ำน้อย อาจเป็นเพราะคุณดื่มเครื่องดื่ม หรือทานอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากพออยู่แล้ว จึงอาจไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำให้ได้ 6-8 แก้วต่อวันค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม “น้ำเปล่า” ก็ยังสำคัญต่อร่างกาย อย่าลืมดื่มน้ำเปล่าบ้างนะคะ
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :สสส.,ku.ac.th
 
Visitors: 1,409,250