สหภาพยุโรปอาจกลับไปใช้มาตรการปิดกั้นนักท่องเที่ยวจากต่างชาติอย่างเข้มงวดอีกครั้ง
|
COVID-19 : สหภาพยุโรปอาจกลับไปใช้มาตรการปิดกั้นนักท่องเที่ยวจากต่างชาติอย่างเข้มงวดอีกครั้ง หลังจากการระบาดทวีความรุนแรงขึ้นในหลายประเทศ
 คณะกรรมาธิการแห่งสหภาพยุโรป ได้เปิดเผยให้เห็นแนวโน้มที่จะขยายข้อจำกัดและระยะเวลาของมาตรการปิดกั้นนักท่องเที่ยวจากต่างพรมแดนต่อไปอีกอย่างน้อยที่สุด 2 สัปดาห์ ซึ่งรวมถึงประเทศสหรัฐฯ อเมริกาด้วย
ปัจจุบันมี 13 ประเทศที่อยู่ในบัญชีขาว (White List) ซึ่ง EU อนุญาตให้มีการเดินทางไปมาระหว่างพรมแดนได้คือ
1. แคนาดา
2. จีน
3. ญี่ปุ่น
4. เกาหลีใต้
5. ไทย
6. ออสเตรเลีย
7. จอร์เจีย
8. โมร็อกโก
9. รวันดา
10. ตูนิเซีย
11. อุรุกวัย
12. แอลจีเรีย
13. นิวซีแลนด์
โดย Algeria และ Morocco อาจจะถูกลบออกจาก White list ของ EU หลังจากนักการทูตของสหภาพยุโรปทำการตัดสินใจในวันพุธนี้ และการตัดสินชี้ขาดครั้งนี้จะรวมถึงการเปิดเผยคำแนะนำที่ไม่มีข้อผูกมัดของรัฐบาลแห่งสหภาพยุโรป
ปัจจุบัน EU กำลังดำเนินการตรวจสอบข้อมูลของผลกระทบหลังจากที่พวกเขาได้ผ่อนคลายมาตรการปิดกั้นพรมแดนในต่างประเทศ
ซึ่งรายงานล่าสุดจาก Bloomberg ในวันที่ 17 กรกฏาคมที่ผ่านมาระบุว่าพวกเขาได้ลบประเทศเซอร์เบีย และมอนเตเนโกร ออกจากรายชื่อ White list เดิมที่มีอยู่ 15 ประเทศ หลังจากมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิดขึ้นใน 2 ประเทศนั้น
การระบาดที่ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลกได้ขัดขวางความพยายามของ EU ที่จะออกจากมาตรการ Lockdown ในระดับนานาประเทศ นอกจากนี้ยังได้ทำลายความหวังที่เศรษฐกิจจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้ในช่วงฤดูร้อนนี้
อนึ่ง มาตรการปิดกั้นพรมแดนนี้จะครอบคลุม 30 ประเทศสมาชิกในสหภาพยุโรปทั้งหมด ยกเว้นไอร์แลนด์ (Ireland), ไอซ์แลนด์ (Iceland), นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากประเทศดังกล่าวเป็นเขตปกครองตนเองที่ไม่มีการใช้ระบบ Passport
ล่าสุดมีรายงานจาก Bloomberg ออกมาใหม่ว่า Mrderna Inc. ได้รับเงินสนับสนุนรอบที่ 2 สำหรับการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกัน COVID-19 โดยได้เริ่มการทดลองขั้นสุดท้ายแล้ว ณ ปัจจุบันนี้
ขณะที่ Pfizer Inc และ BioNTech SE กล่าวในวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าพวกเขาได้เริ่มการศึกษาวัคซีนในตอนขั้นสุดท้ายแล้วเช่นเดียวกัน เพื่อรักษาความเป็นผู้นำของพวกเขาในด้านนี้เอาไว้ โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถรวบรวมและสรุปผลการทดลองได้ในเดือนตุลาคมปีนี้
นักวิจัยชาวอังกฤษกล่าวว่าประสิทธิภาพของวัคซีนอาจขึ้นอยู่กับปริมาณที่ต้องผลิตในแต่ละปี
References :
ขอบคุณที่มา : World Maker : https://www.blockdit.com/articles/5f202ba26e6de50ca2caf4af/#
|
