เอเชียตั้งรับโควิดระบาดระลอกที่สาม คาดรุนแรงกว่าเดิม

เอเชียตั้งรับโควิดระบาดระลอกที่สาม คาดรุนแรงกว่าเดิม
 
- ไม่ใช่แค่ในยุโรป แต่ชาติในเอเชียเผชิญโควิดหนัก เกาหลี ญี่ปุ่น เข้าสู่การแพร่ระบาดระลอกที่สาม ฮ่องกงเจอคลัสเตอร์ใหม่ เข้าสู่การแพร่ระบาดระลอกที่สี่
 
- การแพร่ระบาดระลอกใหม่มีลักษณะแตกต่างจากสองครั้งก่อน พบผู้ป่วยอายุน้อยลง และมีผู้ป่วยไม่แสดงอาการเพิ่มขึ้น ยากต่อการควบคุมการแพร่ระบาด
 
- อินเดียคาดยอดผู้ป่วยพุ่งหลังเทศกาลดิวาลี ประชาชนเมินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไม่ให้ความร่วมมือสวมใส่หน้ากากอนามัย มลพิษในฤดูหนาวทำสถานการณ์เลวร้ายลง
 
 
ใกล้ปีใหม่เข้าไปทุกทีแต่การฉลองปีนี้อาจแตกต่างจากปีก่อนๆ เมื่อหลายประเทศยังคงเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกระลอก โดยในญี่ปุ่นยอดพุ่งทะลุ 2,000 ราย ส่วนเกาหลีใต้ยังต้องกุมขมับเพราะเชื้อหวนกลับมาระบาดในกรุงโซล ไม่เว้นแม้แต่ฮ่องกงที่การแพร่ระบาดครั้งนี้ถือเป็นการแพร่ระบาดระลอกที่สี่ ดับฝันเปิด 'ทราเวิล บับเบิ้ล' กับสิงคโปร์ ส่วนจีนพบการแพร่ระบาดทางตอนเหนือของประเทศเท่านั้น ยังไม่พบสนามบินเซี่ยงไฮ้ ต้องตรวจเข้มยกใหญ่หลังพบเจ้าหน้าที่ป่วยโควิด-19 ส่วนอินเดียเจอทั้งปัญหามลพิษทั้งโควิด ต้องสู้ทั้งสองปัญหาพร้อมๆ กัน
 
การระบาดระลอกที่สามนี้มีความแตกต่างจากการแพร่ระบาดจากครั้งก่อนๆ ทั้งอายุของผู้ป่วยที่น้อยลง และมีการแพร่ระบาดที่กระจายขยายวงกว้างมากขึ้น รวมไปถึงมีผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการแฝงตัวอยู่ตามมุมเมือง ทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดระลอกนี้เป็นไปอย่างซับซ้อน
 
:: ญี่ปุ่นเข้าสู่การระบาดระลอกสาม วัคซีนอาจมาไม่ทันกู้สถานการณ์
ที่ประเทศญี่ปุ่น นายโทชิโอะ นาคางาวะ ประธานสมาคมแพทย์แห่งประเทศญี่ปุ่นเตือนว่าประเทศญี่ปุ่นกำลังประสบกับการแพร่ระบาดระลอกที่สาม ซึ่งมีความแตกต่างจากการระบาดสองระลอกแรก เนื่องจากพบกลุ่มผู้ป่วยที่มีความหลากหลาย และเกิดการระบาดที่ขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น
 
ในการระบาดระลอกที่สอง ญี่ปุ่นพบผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนใหญ่บริเวณย่านสถานบันเทิง แต่การแพร่ระบาดครั้งล่าสุดนี้พบผู้ติดเชื้อกระจายไปในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นแพร่ระบาดแบบกลุ่มก้อนในสถาบันทางการแพทย์ สถานที่ทำงาน รวมไปถึงชุมชนของชาวต่างชาติ ท่ามกลางความกังวลว่าญี่ปุ่นอาจขาดแคลนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในไม่ช้า และวิธีการที่เคยใช้เพื่อหาต้นตอของการแพร่ระบาดในครั้งก่อน อาจใช้ไม่ได้ผลกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ที่ขยายวงกว้างมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้บุคลากรทางการแพทย์เรียกร้องให้ทางการญี่ปุ่นหาวิธีการระงับการแพร่ระบาดอย่างเร่งด่วน
 
นอกจากนี้ จำนวนผู้ป่วยโควิดในการระบาดระลอกที่สามยังเป็นช่วงอายุราว 20 ปี ที่ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในกรุงโตเกียวแตกต่างจากการแพร่ระบาดก่อนหน้านี้ที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ
 
ขณะที่ดัชนีหุ้นของญี่ปุ่นร่วงหลังจากที่มีข่าวพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจก่อนที่วัคซีนจะประสบผลสำเร็จ ขณะที่หลายฝ่ายจับตาว่าการแพร่ระบาดในครั้งนี้จะทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นยกเลิกแคมเปญรณรงค์เที่ยวในประเทศหรือไม่
 
ล่าสุดรัฐบาลญี่ปุ่นได้เปิดการประชุมฉุกเฉินซึ่งระบุว่าจะบังคับใช้ข้อบังคับที่แตกต่างกันไปในแต่ละจังหวัดของญี่ปุ่นเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น หลังจากที่มีแนวโน้มว่าการแพร่ระบาดระลอกที่สามในญี่ปุ่นยังคงไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ ล่าสุดโควิด-19 ได้คร่าชีวิตผู้คนในญี่ปุ่นแล้วกว่า 1,900 ศพ และมีผู้ติดเชื้อกว่า 132,000 ราย
 
:: เกาหลีใต้หวั่น โควิดระลอกสามรุนแรงที่สุด
หลังจากที่พบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีต้นตอมาจากโบสถ์ไปก่อนหน้านี้ ถัดมาเป็นการแพร่ระบาดในย่านสถานบันเทิงชื่อดัง อิแทวอน แต่โควิด-19 ก็ยังหวนกลับมาแพร่ระบาดในเกาหลีใต้อีกครั้ง พร้อมกับคำเตือนจากเจ้าหน้าที่ระดับสูง ที่ระบุว่าการระบาดระลอกที่สามในครั้งนี้ อาจเป็นการแพร่ระบาดที่รุนแรงที่สุดหากไม่มีการควบคุมได้อย่างทันท่วงที และจะมีความรุนแรงกว่าการแพร่ระบาดในช่วงกุมภาพันธ์ ถึงมีนาคม ที่ผ่านมา
 
คาดว่าหลังจากนี้ในเดือนธันวาคม เกาหลีใต้อาจต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดที่มีจำนวนผู้ป่วยใหม่มากถึง 600 คนต่อวัน
 
ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นกรุงโซล ประกาศใช้มาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดไปจนถึงสิ้นปี หนึ่งในนั้นคือมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมระดับ 2 จากทั้งหมด 5 ระดับ ซึ่งภายใต้มาตรการดังกล่าว จะทำให้สถานที่เสี่ยง 10 แห่ง ได้แก่ สถานที่ปิดอย่างศาสนสถาน สถานพยาบาล สถานที่ออกกำลังกายในร่ม ร้านอาหาร และคาเฟ่ นอกจากนี้ยังลดความถี่ของระบบขนส่งสาธารณะลง 20 เปอร์เซ็นต์หลังเวลา 22.00 น. เพื่อจำกัดการเดินทางของประชาชน
 
ขณะที่ทางการเกาหลีใต้อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อวัคซีน ให้เพียงพอต่อประชาชนอย่างน้อย 30 ล้านคน หรือราว 60 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรในประเทศ
 
:: ฮ่องกงโควิดระบาดระลอกที่สี่ ดับฝัน ‘ทราเวล บับเบิ้ล’
อีกหนึ่งฮับเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียอย่าง ฮ่องกง ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกที่สี่ซึ่งถือเป็นการแพร่ระบาดขั้นรุนแรง ท่ามกลางการประกาศเตือนจากทางการที่คาดว่าหลังจากนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในฮ่องกงจะเลวร้ายลงโดยเฉพาะในย่านชุมชน
 
การแพร่ระบาดระลอกใหม่นี้มีความแตกต่างจากการแพร่ระบาดก่อนหน้าเนื่องจากมีจำนวนผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการระบาดแพร่กระจายไปตามจุดต่างๆ อย่างเงียบๆ ทำให้ยากต่อการควบคุม
 
โดยผู้ป่วยกลุ่มใหญ่มีความเชื่อมโยงกับการแพร่ระบาดที่สถาบันสอนเต้น ที่มีผู้ป่วยกว่า 80 รายมีประวัติเชื่อมโยงกับการแพร่ระบาดกลุ่มดังกล่าว นอกจากนี้จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยังดับฝันในการเริ่มมาตรการเปิดพรมแดนหรือ ทราเวิล บับเบิ้ล ระหว่างฮ่องกงและสิงคโปร์ ซึ่งเป็นมาตรการมุ่งเน้นกระตุ้นการท่องเที่ยวของสองฝ่าย แต่ขณะนี้ต้องถูกระงับไว้ก่อนชั่วคราว
 
:: จีนพบโควิดระบาดเทียนจิน สนามบินเซี่ยงไฮ้ตรวจโรควุ่น
หลังจากที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดไปได้ก่อนหน้านี้ ล่าสุดจีนพบผู้ป่วยโควิด-19 โผล่ในเมืองเทียนจิน ทางตอนเหนือของจีนทำให้ทางการเดินหน้าตรวจโรคประชาชนในพื้นที่กว่า 3 ล้านราย
 
ขณะที่สนามบินพู่ตง ในนครเซี่ยงไฮ้ เข้าสู่นาทีระทึกเมื่อพบเจ้าหน้าที่คาร์โกของสนามบินจำนวน 7 ราย ป่วยเป็นโรคโควิด-19 ทำให้ทางการสั่งตรวจโรคเจ้าหน้าที่คาร์โกของสนามบินทั้งหมดภายในคืนดังกล่าว ซึ่งสามารถเก็บตัวอย่างได้ 17,719 ตัวอย่าง ในจำนวนนี้ 11,544 ตัวอย่างมีผลเป็นลบ
 
โดยถึงแม้ว่าจะมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการบังคับเจ้าหน้าที่จำนวนมากตรวจโรคอย่างเร่งด่วน แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าทางการจีนเอาจริงเอาจังและเข้มงวดในการระงับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
 
:: ยอดโควิดแดนภารตะพุ่ง หลังปชช.ไม่ยอมใส่หน้ากากอนามัย
อินเดีย ประเทศที่มีจำนวนผู้ป่วยโควิดกว่า 9,100,000 คน มากเป็นอันดับที่สองของโลกรองจากสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกที่สาม หลังจากมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากการเฉลิมฉลองเทศกาลดิวาลี โดยพบว่าประชาชนได้ออกไปจับจ่ายใช้สอยโดยไม่ให้ความร่วมมือในการสวมใส่หน้ากากอนามัย และปรากฏภาพประชาชนรวมตัวใกล้ชิดกันเป็นกลุ่มใหญ่โดยไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยเช่นกันทำให้มีความเสี่ยงพบผู้ติดเชื่อพุ่งสูงหลังจากนี้
 
นอกจากนี้อินเดียยังต้องเผชิญกับปัญหามลพิษในฤดูหนาวที่ซ้ำเติมทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดเลวร้ายลง จนถึงขั้นมีเตียงรักษาผู้ป่วยไม่เพียงพอ ส่วนนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ยังไม่ประกาศล็อกดาวน์เนื่องจากกังวลผลกระทบด้านเศรษฐกิจ.
 
ผู้เขียน: ปานฝัน
Visitors: 1,218,300