นักวิจัยจีนเผยผลการศึกษา ผู้มีกรุ๊ปเลือด A มีโอกาสติดโควิด-19 และอาการหนักมากกว่ากรุ๊ปอื่น
นักวิจัยจีนเผยผลการศึกษา ผู้มีกรุ๊ปเลือด A มีโอกาสติดโควิด-19 และอาการหนักมากกว่ากรุ๊ปอื่น
ทีมนักวิจัยโรงพยาบาลจงหนาน ของมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น เปิดเผยผลศึกษาวิจัยเบื้องต้น พบว่าผู้ที่มีเลือดกรุ๊ป A มีโอกาสติดโควิด-19 มากกว่ากรุ๊ปเลือดอื่นๆ . โดยการศึกษาวิจัยดังกล่าว ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Medrxiv.org เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการเก็บตัวอย่างเลือดจากกลุ่มผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในเมืองอู่ฮั่นและเซินเจิ้น มากกว่า 2,000 คน และเปรียบเทียบกับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงปกติ พบว่าผู้ป่วยที่มีกรุ๊ปเลือด A มีอัตราการติดเชื้อที่สูงกว่า อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่อาการจะพัฒนารุนแรงมากกว่ากรุ๊ปเลือดอื่นๆ ด้วย . "ประชาชนที่มีเลือดกรุ๊ป A อาจจำเป็นต้องปกป้องตนเองให้มากขึ้นเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ ส่วนผู้ติดโควิด-19 ที่มีเลือดกรุ๊ป A อาจต้องเฝ้าระวังและรักษาอาการอย่างใกล้ชิดมากขึ้น" หวังซินหวน หัวหน้าทีมนักวิจัยกล่าว . นอกจากนี้ ทีมนักวิจัยยังพบว่าผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด O นั้นมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อน้อยกว่า ซึ่งจากจำนวนผู้ป่วย 206 คน ที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่น พบว่า 85 คน มีเลือดกรุ๊ป A ซึ่งมากกว่าเลือดกรุ๊ป O ที่มีจำนวน 52 คน . "มันอาจจะเป็นประโยชน์ที่จะกำหนดให้มีการระบุกรุ๊ปเลือด A B O ทั้งในผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเชื้อไวรัสชนิดอื่นๆ อีกทั้งยังช่วยกำหนดแนวทางการรับมือ และประเมินระดับความเสี่ยงในการติดเชื้อของประชาชน" หวัง กล่าว . อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาฉบับนี้ยังไม่ผ่านการพิจารณาตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ (Peer Reviewed) ซึ่งทางทีมนักวิจัยเตือนว่าอาจจะมีความเสี่ยง หากนำผลการศึกษาวิจัยนี้ไปใช้เป็นแนวทางเวชปฏิบัติ สำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 . ขณะที่ เกาอิ๋งไต้ นักวิจัยจากศูนย์ปฏิบัติการโลหิตวิทยาเชิงทดลอง ในเมืองเทียนจิน ที่ไม่ได้เข้าร่วมการศึกษาวิจัยดังกล่าว ระบุว่า ทีมวิจัยสามารถพัฒนาผลการศึกษาวิจัยให้ชัดเจนมากขึ้น ด้วยการขยายกลุ่มตัวอย่าง แม้ว่าจำนวน 2,000 คนจะดูไม่น้อย แต่ก็ถือว่ายังน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลก ที่ตอนนี้พุ่งสูงเกือบ 180,000 คนแล้ว . นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตถึงข้อจำกัดของการวิจัย ที่ไม่ได้ให้คำอธิบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับปรากฏการณ์ เช่น การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างโมเลกุลของไวรัสและเซลล์เม็ดเลือดแดงชนิดต่างๆ . ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเคยมีการศึกษาวิจัยกรุ๊ปเลือดที่แตกต่างกันในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสร้ายแรงชนิดต่างๆ ทั้งโนโรไวรัส ไวรัสตับอักเสบบี และไวรัสซาร์ส (SARS) . อย่างไรก็ตาม เกาชี้ว่าแม้ผลการศึกษาวิจัยนี้อาจจะมีประโยชน์ในทางการแพทย์ แต่สำหรับประชาชนทั่วไปนั้น ไม่จำเป็นต้องยึดถือเรื่องสถิติการติดเชื้อของกรุ๊ปเลือดจนเครียดเกินไป . "แม้ว่าคุณจะมีกรุ๊ปเลือด A ก็ไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะไม่ได้หมายความว่าคุณจะติดเชื้อโควิด-19 แน่นอน 100%" เกากล่าว . อ้างอิง: |