septicemia
ติดเชื้อในกระแสเลือด คืออะไร? (ฉบับอัศวิน) เอาแบบเคลียร์ๆ ทีเดียวจบ เคยเห็นคนโพสต์นู่นนี่แล้วมีคนไปทักว่าเดี๋ยวติดเชื้อในกระแสเลือดนะ วันนี้เลยอยากจะมาอธิบายว่า'ติดเชื้อในกระแสเลือด' หรือ sepsis จริงๆแล้วคืออะไร? เรามองว่าเชื้อโรคคือข้าศึก และภูมิคุ้มกันคือทหาร ร่างกายเราคือป้อมปราการ (คิดถึงแบบยุคกลาง) เชื้อโรคจะโจมตีเราทางไหนก็ได้ จะเอาบันไดปีนกำแพง ใช้หอคอยประชิดกำแพง หรือจะมาทางช่องลับใต้ปราสาท เปรียบกับ เราเป็นปอดบวมจากเชื้อที่ลอยมาทางอาการ ติดเชื้อในระบบปัสสาวะจากเชื้อที่ย้อนมาจากอวัยวะเพศ ติดเชื้อที่ผิวหนังจากการสัมผัส นี่เป็นแค่ขั้นแรกของการยึดปราสาท!! ถ้าปราสาทของเราอ่อนแอ เช่น เป็นโรคเอดส์ เบาหวาน โรคตับแข็ง กินยากดภูมิ อายุมาก เชื้อก็อาจเกิดขึ้นมาในปราสาทเองเลย คิดถึงชาวบ้านกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าแล้วไล่กินคนอื่นๆ ร่างกายเรามีเชื้ออยู่เต็มไปหมดมากกว่าจำนวนเซลล์ทั้งหมดของตัวเรามากมายนัก ซึ่งเจ้าพวกนี้ไม่ก่อโรคอะไร นอกจากตอนที่เราอ่อนแอ พวกมันจะกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่า!! ถ้าข้าศึกมีมากและทหารของเราอ่อนแอ ข้าศึกจะบุกยึดสถานที่ยุทธศาสตร์ นั่นก็คือ "ถนน" ถ้าข้าศึกบุกถึงถนนได้ล่ะก็ พวกมันนั้นสามารถไปที่ไหนก็ได้ในปราสาท!! "ถนน"เปรียบเหมือนกระแสเลือด ข้าศึกบนถนนก็คือเชื้อในกระแสเลือดนั่นเอง เชื้อนั้สจะมีทั้งอาหารและสามารถไปที่ไหนก็ได้ในร่างกาย ไม่ว่าศัตรูของเราจะไปที่ไหนในปราสาท จะต้องเจอทหารของเราเสมอ เชื้อโรคนั้นต้องสู้กับภูมิคุ้มกันของเราตลอดเวลา เวลาทหารกับข้าศึกสู้กันจะเกิดผลข้างเคียงต่อผู้คน ถ้ามีข้าศึกมากและการตอบสนองจากทหารภูมิคุ้มกันนั้นจะมากตาม ผลข้างเคียงจากภูมิคุ้มกันก็จะสูง ทำให้ไข้สูง และหลอดเลือดขยายตัวทั่วร่างกาย คิดถึงถนนที่เต็มไปด้วยการรบราข้าฟัน จนพ่อค้าไม่สามารถส่งของไปยังสถานที่สำคัญๆในปราสาทได้ นั่นหมายถึงเลือดนั้นไม่สามารถพาออกซิเจนไปที่อวัยวะสำคัญอย่างตับ ไต หัวใจ ปอด สมองได้ ตับที่เปรียบเหมือนโรงฝึกทหาร ไตที่เปรียบเหมือนระบบระบายน้ำถ้าพังไปน้ำเน่าก็จะท่วมเมือง หัวใจที่เปรียบเหมือนปั๊มน้ำถ้าพังทุกอย่างจะหยุดหมด สมองที่เปรียบเหมือนพระราชาที่บริหารอาณาจักร ปอดที่เปรียบเหมือนการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราจากภายนอกอาณาจักร และไขกระดูกจะหมดแรงคล้ายกับประชาชนบริสุทธิ์ล้มตาย ถนนที่ติดขัดไม่สามารถสัญจร รวมทั้งคนเดินเท้าที่ล้มตาย นั่นหมายถึงเลือดที่น้อยลง ความดันโลหิตจะต่ำมาก ซึ่งคำศัพท์อีกคำหนึ่งที่เฉพาะทางการแพทย์ที่มีคนเอาไปใช้ในหลายความหมายมาก นั่นคือคำว่า Shock หรือ Septic Shock สุดท้ายปราสาทจะพังทลายลง ผู้ป่วยนั้นมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าโยนเหรียญหัวก้อยเสียอีก เชื้อโรคนั้นส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย และส่วนน้อยจะเกิดจากเชื้อรา พยาธิหรือไวรัส ซึ่งส่วนมากหมอจะพูดถึงแบคทีเรียเป็นหลัก เชื้อราจะพูดถึงบ้าง ไวรัสแทบไม่พูดถึงเพราะมียาที่ใช้น้อยมาก ส่วนพยาธินี่เฉพาะกลุ่มมากๆ เพราะฉะนั้นการฉะกับศัตรูนั้น ทำได้ตรงๆโดยการใช้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (ยาปฏิชีวนะ Antibiotics) และสำคัญมากไม่แพ้กันคือการกำจัดต้นตอของข้าศึก อย่างเช่น ถ้าพวกนั้นใช้หอคอยประชิดเมือง เราก็เผามันซะ!! เปรียบได้กับ ถ้าพบว่าเชื้อมาทางแผลเน่าที่ขา ก็เข้าห้องผ่าตัดตัดมันทิ้งไป ลิ้นหัวใจมีก้อนเชื้อเกาะอยู่ ก็ผ่าหัวใจไปเอาก้อนเชื้อนั้นออก หรือ ข้อเข่าเป็นหนองก็ผ่ามันเข้าไปล้างหนองทิ้ง อีกทั้งยังต้องช่วยเหลือทหาร ประชาชน และสิ่งก่อสร้างหลักๆให้คงอยู่ เพราะ "ปราสาทที่ไร้ผู้คนก็คือ ปราสาทที่ตายแล้ว" BookDojo ได้กล่าวไว้ การช่วยเหลือทำได้โดย การใช้เครื่องช่วยหายใจรักษาปอดและเพิ่มออกซิเจนไปอวัยวะต่างๆ เติมน้ำเกลือให้แก่หลอดเลือด เติมเลือดให้แก่หลอดเลือด ใช้ยากระตุ้นหัวใจและเพิ่มการบีบรัดตัวของหลอดเลือด ทั้งหมดทำเพื่อรักษาอวัยวะสำคัญๆ ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างการกรองสารไม่พึงประสงค์จากภูมิคุ้มกันของเราออกไป หรือการวินิจฉัยหาเชื้อโรคด้วยเทคโนโลยีทางพันธุศาสตร์ สิ่งสำคัญคือรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ทำให้ทหารของเราเข้มแข็ง เพราะการติดเชื้อในกระแสเลือดไม่ได้เป็นกันง่ายๆ แต่ถ้าสงสัยผิดปกติ เช่นไข้สูง กินไม่ได้ ซึม หอบ หรืออะไรที่ดูผิดปกติ ให้รีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุดก็จะมีโอกาสหายได้มากกว่านะครับ "For Glory!! of our body!!"
ที่มา : Bookdojo |