ไหว้เจ้า ตรุษจีน 2565 ต้องไหว้ช่วงเวลาไหน จัดของไหว้อย่างไร

ไหว้เจ้า "ตรุษจีน 2565" ต้องไหว้ช่วงเวลาไหน จัดของไหว้อย่างไร

 

แม้ปีนี้ข้าวของจะราคาแพงขึ้นมาก โดยเฉพาะ "ของไหว้" ในเทศกาล "ตรุษจีน 2565" อย่างหมู ไก่ กุ้ง แต่ลูกหลานเชื้อสายจีนยังคงปฏิบัติตามธรรมเนียมประเพณีตั้งโต๊ะไหว้บรรพบุรุษ ไหว้เจ้าที่ และไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยตามคติความเชื่อ

สำหรับลูกหลานแดนมังกรรุ่นใหม่ที่อาจจะไม่แน่ใจว่าการไหว้เจ้าตรุษจีน ต้องไหว้อย่างไร? ใช้ของไหว้แบบไหน โดยเฉพาะการจัดของไหว้ในปีนี้ที่ต้องรัดเข็มขัด ประหยัดงบ แต่ได้ของไหว้ที่จำเป็นครบ เช็ควิธีไหว้ที่นี่!

1. ช่วงเช้า : ไหว้เจ้าที่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้าน

ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 31 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 06.00-07.00 น. เป็นช่วงเวลาที่จะต้องไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเทพเทวดาผู้คุ้มครองบ้านเรือน ที่มาปกปักดูแลให้เจ้าบ้านอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข

ของไหว้ : เนื้อสัตว์ต้มสุก 3 อย่าง (ซาแซ) หรือ 5 อย่าง (โหงวแซ) เช่น ไก่ เป็ด หมู ฯลฯ ผลไม้มงคล 5-7 อย่าง เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง ใช้ธูปในการไหว้ 5 ดอก หลังจากไหว้เสร็จ รอสักครู่ จากนั้นให้เผากระดาษเงินกระดาษทองตามประเพณี (แต่เพื่อป้องกันฝุ่นพิษ PM2.5 จึงควรงดเผาหรือเผาเล็กน้อยพอเป็นพิธี)

*เคล็ดลับจัดของไหว้ประหยัดงบ*

ไม่ว่าจะไหว้เทพเจ้า ไหว้เจ้าที่ ไหว้บรรพบุรุษ ของไหว้ต่างๆ ให้หาซื้อเท่าที่เราทำไหว (วันจ่าย 30 มกราคม 2565) และอาจจะลดขนาดหรือจำนวนลง จัดโต๊ะไหว้เล็กๆ พอเป็นพิธีตามธรรมเนียมปฏิบัติก็พอ เช่น จากเดิมเคยให้หัวหมู เป็ดทั้งตัว ไก่ตั้งตัว ก็สามารถลดทอนลงมาเหลือหมูหนึ่งชิ้น เป็ดครึ่งตัว ไก่ครึ่งตัว หรือหากแต่เดิมเคยไหว้ของคาว 5 อย่าง ผลไม้ 5 อย่าง ก็ลดเหลือประเภทละ 3 อย่าง เป็นต้น

ส่วนการจุดธูปเทียนขณะไหว้ เพื่อเป็นการประหยัดงบและลดฝุ่นพิษ PM2.5 แนะนำให้เจ้าบ้านจุดเพียงชุดเดียวก็เพียงพอ ไม่ต้องจุดธูปเทียนครบทุกคน

 

2. ช่วงสาย : ไหว้บรรพบุรุษ

ต่อมาในช่วงสายๆ เวลาประมาณ 10.00-11.00 น. ของวันที่ 31 มกราคม 2565 จะเป็นการตั้งโต๊ะไหว้บรรพบุรุษ ครั้งใหญ่ประจำช่วงต้นปี (ในเทศกาลปีใหม่จีน) เพื่อระลึกถึงญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีตามคติความเชื่อ

 

ของไหว้ : เนื้อสัตว์ต้มสุก 3-5 อย่าง เหมือนการไหว้ช่วงเช้า และให้เพิ่มอาหารอื่นๆ ที่บรรพบุรุษชอบหรืออาหารที่มีความหมายมงคล เช่น อาหารจานเส้น อาหารจานปลา เมนูซุปใสหรือแกงจืด ขนมจันอับ ถ้วยฟู ขนมเข่ง ขนมเทียน ฯลฯ ผลไม้มงคล และกระดาษเงินกระดาษทอง ใช้ธูปในการไหว้ 3 ดอก

ข้อควรระวัง : คนจีนไม่นำเต้าหู้ขาวมาไหว้วันตรุษจีน เนื่องจากสีขาวสำหรับชาวจีนเป็นสีแห่งความโศกเศร้า หลังไหว้เสร็จ ให้รอจนธูปหมด จากนั้นให้นำของไหว้มารับประทานร่วมกันและแจกจ่ายแบ่งปันเพื่อนบ้าน

 

3. ช่วงบ่าย : ทำทานสัมภเวสี

ต่อมาในช่วงบ่ายแก่ๆ เวลาประมาณ 14.00-16.00 น. ของวันที่ 31 มกราคม 2565 จะเป็นการไหว้ให้ทานแก่ผีไม่มีญาติหรือสัมภเวสี โดยชาวจีนส่วนใหญ่มักมีอาชีพค้าขายและเชื่อกันว่าการให้ทานผีเหล่านี้จะช่วยให้ค้าขายราบรื่นดี

พอไหว้เสร็จ รอสักครู่ จากนั้นให้จุดประทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปให้หมด และเพื่อความเป็นสิริมงคลต้อนรับตรุษจีน

ของไหว้ : อาหารต่างๆ ที่เหลือจากการไหว้รอบเช้าและรอบสาย ข้าวสวย ขนมต่างๆ และกระดาษเงินกระดาษทอง ใช้ธูปในการไหว้เพียง 1 ดอกเท่านั้น

 

4. ช่วงดึก : ไหว้ “ไฉ่ซิงเอี้ย” เทพแห่งโชคลาภ

สำหรับใครที่อยากไหว้เสริมดวงและเพิ่มโชคลาภ ต้อนรับความเฮงในวันตรุษจีน 2565 ก็แนะนำให้ไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เป็นการไหว้ครั้งที่ 4 เพิ่มเข้ามา โดยฤกษ์ในการไหว้คือช่วงกลางดึกของคืนวันสิ้นปี ก่อนจะย่างเข้าวัน "ตรุษจีน" นั่นคือ ช่วงเวลา 23.00-01.00 น. ของคืนวันที่ 31 มกราคม 2565 เช้ามาก็จะเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565

 

ของไหว้ : องค์เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยจำลอง หรือจะเป็นป้ายอักษรพระนามว่า ไฉ่ซิงเอี้ยก็ได้, เทียนแดง 1 คู่ , ธูป 3 ดอก หรือ 5 ดอก หรือ 12 ดอกก็ได้, ขนมอี้(สาคูแดง) ผลไม้มงคล 5 อย่าง , อาหารเจ ข้าวสวย น้ำชา ให้จัดอย่างละ 5 ถ้วยเล็กๆ 

เตรียมกระดาษเงินกระดาษทอง หงิ่งเตี๋ย 12 แผ่น แทน 12 เดือน รวมถึงมีค้อซีที่อาจจะพับเป็นโคม หรือดอกบัว มีถังเงินถังทอง กิมหงิ่งเต้า เพื่อความเป็นมงคล เมื่อไหว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ดับเทียน โดยนำเทียนแดงไปเก็บไว้ในตู้เซฟ หรือวางไว้ที่หิ้งพระเพื่อความเป็นมงคล


5. ไหว้แก้ชง ฝากดวงชะตากับ "ไท้ส่วยเอี้ย"

นอกจากนี้ ในวันตรุษจีน หรือ วันขึ้นปีใหม่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ตามความเชื่อของชาวจีนยังนิยมไปไหว้ฝากดวงชะตากับเทพเจ้า "ไท้ส่วยเอี้ย" ด้วย หรือที่คุ้นเคยกันว่าการไหว้แก้ชง เพื่อให้ชีวิตราบรื่น แคล้วคลาด และปลอดภัยตลอดปี โดยจะนิยมไหว้ในวันตรุษจีนหรือหลังจากผ่านตรุษจีนไปเล็กน้อยก็ได้

ของไหว้ : มักจะไปไหว้ที่ศาลเจ้าหรือวัดจีนที่มีองค์ไท้ส่วยเอี้ยประดิษฐานอยู่ โดย "ของไหว้" สามารถทำบุญด้วยการซื้อชุดไหว้ที่ทางวัดจัดไว้ให้ หรือจะซื้อของไหว้มาจัดชุดเองก็ได้ ได้แก่ กระดาษเงินกระดาษทอง เทียบแดง ส้ม อาหารเจแห้ง ธูป เทียน เป็นต้น โดยวัดแต่ละแห่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือบอกวิธีการไหว้ในแต่จุด

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/983919

 

Visitors: 1,405,369