ทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้ด้วยดี แต่เมื่อขายไปสักพัก ก็เกิดปัญหาร้องเรียนมากมาย เพราะคุณภาพของสินค้าไม่ได้มาตรฐานและพัฒนาไม่ได้ตามต้องการ
จนสองพี่น้องต้องเดินทางมาไทย เพื่อเจรจากับทางโรงงานให้ปรับปรุงในเรื่องนี้ ทว่ากลับไม่เป็นผล กระทั่งตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้โรงงานจากฟิลิปปินส์แทน พร้อมกับเริ่มคิดที่จะเปลี่ยนบทบาทจาก ‘ผู้นำเข้า’ เป็น ‘เจ้าของ’
กำเนิด YETI
และในปี 2006 คูลเลอร์ของสองพี่น้องได้ถือกำเนิดขึ้น ในชื่อ YETI ซึ่งมาจากชื่อของ ‘มนุษย์หิมะ’ ที่ไรอันคิดได้ตอนนอนอยู่บนเตียง
โดยพวกเขาได้ใช้ Polyethylene Resin มาผลิตขึ้นรูปเป็นถังคูลเลอร์แบบไร้รอยต่อแบบเดียวกับแบร์ริเออร์ (Barrier) สีส้มที่ใช้กันตามท้องถนน และเสริมด้านในด้วยชั้นโฟมละเอียด เพื่อช่วยเพิ่มความทนทานให้ขึ้นไปเหยียบหรือนั่งได้ และทำให้สามารถเก็บความเย็นได้ดีกว่าคูลเลอร์ทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ด้วยการพัฒนาคุณภาพให้เป็นไปตามต้องการ ซึ่งนั่นหมายถึงต้นทุนในการผลิตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำให้สองพี่น้องไซเดอร์สตั้งราคาขายคูลเลอร์ YETI ไว้ที่ 300 เหรียญสหรัฐ หรือเกือบจะ 10,000 บาท เพื่อให้ครอบคลุมต้นทุนการผลิต
ราคาดังกล่าว ถือว่าสูงกว่าคูลเลอร์ตามท้องตลาดถึง 10 เท่า ดังนั้นช่วงทำตลาดใหม่ๆ พี่น้องไชเดอร์สจึงเลือกจำหน่ายสินค้าด้วยการออกร้านตามงานแสดงสินค้าโฟกัสไปที่งานแสดงสินค้าสำหรับคนรักกิจกรรมเอาต์ดอร์
เพราะมองว่าสินค้าของพวกเขาเป็น Niche Market ควรเจาะถึงกลุ่มเป้าหมายแบบตรง ๆ ที่สำคัญหากวางขายตามร้านค้าปลีกไม่น่าจะสู้ราคากับรายอื่นได้ แถมยังต้องแบ่งกำไรเป็นค่าฝากขายอีกด้วย
ปรากฏว่า กลยุทธ์นี้เวิร์ก บวกกับคุณภาพของสินค้า ทำให้คูลเลอร์ YETI ได้รับผลตอบรับดีมาก จนต่อมาได้แตกไลน์สินค้าทั้งอุปกรณ์เอาต์ดอร์ เครื่องแต่งกาย และอื่น ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างกว่าเดิม
ขายดีจนเกิดปัญหา
ปี 2011 YETI มียอดขายสูงมากจนผลิตสินค้าไม่ทันกับความต้องการ ในเดือนมิถุนายน 2012 จึงเปิดทางให้ Cortec Group เข้ามาซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ YETI เพื่อเข้ามาช่วยให้สามารถขยายธุรกิจเติบโตได้ราบรื่น ในปี 2014 YETI ทำยอดขายไป 147 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมี Rambler Tumbler ถ้วยทรงสูงทำจากเหล็กกล้าไร้สนิม หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า ‘แก้ว YETI’ เป็นพระเอก
ต่อมาเดือนกรกฎาคม ปี 2016 YETI ได้นำบริษัทจดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ภายใต้ชื่อ YETI Holdings ซึ่งในปี 2018 ทำรายได้ไป 0.77 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มเป็น 0.91 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2019 ก่อนจะเพิ่มเป็น 1.09 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2020
และนี่คือเส้นทางส่วนหนึ่งของ YETI ที่สองพี่น้องไซเดอร์สอย่างรอยและไรอันได้เริ่มต้นขึ้นมาเพราะ Passion เพื่อหาคูลเลอร์แช่ปลาเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง จนกลายเป็นแบรนด์ดังที่นิยมมากในปัจจุบัน
.
ภาพ : YETI
อ้างอิง
.
YETI
inc
mostlygreen
whalebonemag
ที่มา : https://www.thepeople.co/business/game-changer/51438