รู้ไหม คน Gen Z เกือบครึ่งใช้ TikTok ในการ ‘ค้นหา’ สิ่งต่างๆ แทน Google แล้ว
รู้ไหม คน Gen Z เกือบครึ่งใช้ TikTok ในการ ‘ค้นหา’ สิ่งต่างๆ แทน Google แล้ว
สำหรับคนที่ใช้ Facebook คงพอมองออกว่าทุกวันนี้ Facebook กำลังพยายามจะเป็น TikTok (และก็แน่นอน มันก็ทำให้คนจำนวนมากรำคาญ เพราะที่เราใช้ Facebook ก็เพราะมันไม่ใช่ TikTok!) ซึ่งถ้าดูทั้งยอดผู้ใช้และยอดรายได้ของ TikTok มันก็โตแบบน่ากลัว และจริงๆ ทาง Business Insider ก็ถึงขั้นประเมินว่า รายได้ TikTok น่าจะสูงกว่าแพลตฟอร์มวิดีโอมหาอำนาจอย่าง YouTube ในปี 2024 ด้วยซ้ำ แต่จริงๆ แล้ว TikTok นั้นท้าทายแค่ Facebook และ YouTube เท่านั้นหรือ? คำตอบคือไม่ใช่ เพราะล่าสุด Google ก็โดน TikTok ท้าทายด้วย ท้าทายยังไง? ในเมื่อเจ้าหนึ่งผลิตภัณฑ์คือวิดีโอสั้นให้คนดูขำๆ ขณะที่อีกเจ้าคือผู้ให้บริการด้านการค้นหาสารพัดสิ่งเบอร์หนึ่งของโลก สิ่งที่น่าคุยกัน คือแม้แต่งานวิจัยจากภายใน Google เองก็ระบุว่า คนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ เขาไม่ ‘ค้นหา’ สิ่งต่างๆ บน Google กันแล้ว แต่เขาใช้ TikTok และ Instragram ในการค้นหา ซึ่งนี่คือสิ่งที่ พราบาการ์ รากาวาน (Prabhakar Raghavan) ผู้บริหารระดับสูงของ Google ไปพูดในงาน Fortune Brainstorm Tech ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2022 และนี่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ของทั้งคนทำงานโซเชียลมีเดีย และคนในสังคมรวมๆ เลย เพราะอะไร? เราไปดูกัน รายงานนี้เริ่มชี้ให้เห็นถึง ‘รอยแยกทางพฤติกรรม’ ที่ใหญ่มากๆ ระหว่างคนก่อน Gen Z กับ Gen Z และแนวโน้มแบบนี้ เมื่อเทียบกับคนอายุน้อยๆ เราก็คาดหวังได้ว่ารอยแยกนี้จะยิ่งถ่างมากขึ้น อธิบายง่ายๆ ก็คือ ในขณะที่ ‘คนรุ่นเก่า’ มีอะไรก็ไปค้น Google หมด จนมีวลีคำว่า ‘Google It’ ออกมา คนรุ่นใหม่กลับทำสิ่งเดียวกันกับ TikTok บางคนอาจจินตนาการยากว่ามันทำแทนกันได้ยังไง? แต่เราอยากให้ลองจินตนาการถึง ‘คำถาม’ พื้นฐานเวลาค้นอะไร เช่น กลางวันนี้กินอะไรดี? อยากจะผอมทำยังไง? อยากรวยเร็วๆ มีวิธีไหน? ปวดหัวมีวิธีบรรเทายังไงบ้าง? หน้าหนาวนี้ไปเที่ยวไหนดี? ซึ่งคำตอบทุกอย่างมีอยู่ใน TikTok เพราะตอนนี้คอนเทนต์บน TikTok มันหลากหลายแบบนั้นแล้ว (อย่างน้อยๆ ก็ในโลกภาษาอังกฤษ) นี่หมายความว่ายังไง? คำตอบเร็วๆ ก็อาจเป็นว่า ‘คนรุ่นใหม่ใจร้อน’ ต้องการคำตอบต่างๆ ในเวลาไม่กี่วินาที (ปกติคลิป TikTok ยาวไม่เกิน 15 วินาทีเท่านั้น) แต่อีกด้าน ปกติคนรุ่นเก่าค้น Google ก็ต้องการคำตอบเร็วๆ โดยไม่ต้องอ่านอะไรยาวๆ (ไม่งั้น Google ก็คงจะไม่มีการคัดคำตอบสรุปเอาไว้ให้ด้านบนผลค้นหา) แต่ความต่างที่น่าสนใจก็คือ สำหรับคนรุ่นใหม่ เขาเชื่อคำตอบจากคนใช้ TikTok มากกว่าการประมวลผลการค้นหาที่ ‘ดี’ ของ Google กล่าวคือ เขาเชื่อคลิปใครก็ไม่รู้ มาพูดอะไรให้ฟังสั้นๆ มากกว่าการประมวลผลจากบทความจำนวนมากที่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มีอ้างอิงชัดเจน (ตรวจโดยใครก็ไม่รู้ แต่เรารู้ว่ามีการตรวจในบางระดับ) สิ่งเหล่านี้ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายก็อาจไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นในเรื่องเชิงสุขภาพอาจเป็นอันตราย เพราะเริ่มมีข้อสังเกตว่า ‘เทรนด์สุขภาพจาก TikTok’ ที่ใครก็ไม่รู้ออกมาพูด และมีคนทำตามนั้นเชื่อถือได้แค่ไหน ซึ่งนี่ยังไม่ต้องพูดถึงอีกสารพัด ‘Challenge’ พิเรนทร์ๆ ที่มีคนทำแล้วตายจริงๆ กันไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ดี แม้ในเรื่องที่ไม่คอขาดบาดตาย ทั้งนักสื่อสารสารพัดสายและแบรนด์ต่างๆ ก็อาจต้องนึกถึง ‘การสื่อสารกับคนรุ่นใหม่’ ในรูปแบบที่ต่างออกไปแล้ว เพราะการสื่อสารที่ดี มันไม่ใช่เรื่องของการมีแหล่งข่าว แหล่งอ้างอิงที่หนาแน่นแบบยุคก่อนตามสไตล์ ‘สื่อคุณภาพ’ ยุคโบราณ ไม่ใช่เรื่องการตั้งหัวเรื่องให้คลิกเบตพอและมีภาพประกอบที่น่าสนใจพอที่จะให้คนเลือกเสพคอนเทนต์ ท่ามกลางคอนเทนต์ที่มากมายเป็นภูเขาเลากา ตามสไตล์ ‘อินฟลูเอนเซอร์’ ผู้ประสบความสำเร็จในยุค YouTube และ Facebook แต่มันอาจเป็นอะไรอีกอย่างที่เป็นอะไรก็ไม่รู้ ที่ ‘นักสื่อสารรุ่นเก่า’ ทั้งหลายเริ่ม ‘ไปไม่เป็น’ กันแล้ว เพราะอย่างน้อยๆ นักสื่อสารจากยุคสิ่งพิมพ์และทีวีนั้นก็ยังใช้เทคนิคแบบเดิมๆ กับ Facebook และ YouTube พอได้ แต่กับ TikTok มันแทบจะใช้เทคนิคเหล่านั้นไม่ได้อีกแล้ว แต่ทั้งนี้ ในเชิงสังคมการเมือง สิ่งที่พอจะเห็นวี่แววว่าจะเกิดขึ้นได้ก็คือ ความแตกต่างกันแบบ ‘ราวกับอยู่คนละโลก’ ของคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ เพราะการใช้แพลตฟอร์มที่ต่างกัน มันก็ทำให้การเข้าถึงข้อมูลต่างกันมาก และความต่างนี้มันก็จะไม่ใช่ระดับคนใช้ Facebook กับคนใช้ Twitter มันจะมากกว่านั้นไปอีกไกลลิบ อาจจะคล้ายยุคที่คนดูทีวีกันคนละช่อง เลยทำให้การรับรู้โลกเหมือนมาจากจักรวาลคู่ขนานของกันและกันด้วยซ้ำ อ้างอิง
ที่มา : https://www.brandthink.me/content/gen-z-tiktok-google |