สายโซเชียลเดือดร้อนไหม? จะใช้ชีวิตกันยังไง? หลังบังคับใช้กฎหมาย PDPA
สายโซเชียลเดือดร้อนไหม? จะใช้ชีวิตกันยังไง? หลังบังคับใช้กฎหมาย PDPA
อยากรู้แต่ไม่มีเวลา อ่านแค่ตรงนี้พอPDPA ย่อมาจาก Personal Data Protection Act หรือ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จึงเรียกกันย่อๆ ว่ากฎหมาย PDPA ร่างเสร็จตั้งแต่ปี 2562 แต่ ครม. มีมติเห็นชอบออกพระราชกฤษฎีกาขยายเวลาบังคับใช้เต็มรูปแบบในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ภายใต้กฎหมายนี้ รัฐบาลบอกว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการคุ้มครองมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ต้องเคารพข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน หลังจากนี้ใครได้รับข้อความโฆษณาโดยไม่ยินยอม สามารถเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ ฐานละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ต้องปฏิบัติตัวอย่างไรภายใต้กฎหมาย PDPA?ในส่วนที่กฎหมาย PDPA เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนทั่วไปนั้น ทำให้หลายคนสงสัยว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ชี้แจงเอาไว้เป็นหัวข้อดังนี้ 4 เรื่องไม่จริงเกี่ยวกับ PDPA
(1) เป็นการทำตามสัญญา (2) เป็นการใช้ที่มีกฎหมายให้อำนาจ (3) เป็นการใช้เพื่อรักษาชีวิตและ/หรือ ร่างกายของบุคคล (4) เป็นการใช้เพื่อการค้นคว้าวิจัยทางสถิติ (5) เป็นการใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ (6) เป็นการใช้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ หรือสิทธิของตนเอง ทั้งนี้ หลักการข้างต้น อาจเปลี่ยนแปลงตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นกรณีๆ ไป สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมาย PDPAเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิตามกฎหมาย PDPA ดังนี้ สิทธิในการถอดถอนความยินยอม ในกรณีที่ได้ให้ความยินยอมไว้, สิทธิในการได้รับการแจ้งให้ทราบรายละเอียด (Privacy Notice), สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล, สิทธิขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคล, สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล, สิทธิขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้, สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล, สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล, สิทธิในการร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในกรณีที่มีการฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือประกาศที่ออกตามกฎหมาย PDPA หากมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงที่จะกระทบสิทธิเสรีภาพของเจ้าของ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่แจ้งเหตุการละเมิดให้เจ้าของส่วนบุคคลทราบ และมีแนวทางการเยียวยาโดยไม่ชักช้า ข้อยกเว้นการบังคับใช้กฎหมาย PDPA สำหรับกิจการสื่อมวลชนในกรณีกิจการสื่อมวลชน มาตรา 4 (3) เป็นข้อยกเวินเชิงเนื้อหาที่ไม่ใช้บังคับตาม พ.ร.บ. แต่มีรายละเอียดอื่น ดังนี้ เป็นข้อยกเว้นเฉพาะกิจกรรมประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้น การประมวลผลที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการสื่อมวลชน กฎหมายไม่ได้ยกเว้น เช่น การใช้ข้อมูลพนักงาน การทำระบบสมาชิก การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจการสื่อมวลชนจะต้องเป็นไปตามจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพหรือเป็นประโยชน์สาธารณะเท่านั้น ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการยกเว้นยังคงต้องจัดให้มีการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลให้เป็นไปตามมาตรฐานด้วย อ้างอิง
ที่มา : https://www.brandthink.me/content/pdpa
|