คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ยิ่งคิดก็ยิ่งตัน แต่ลองอาบน้ำเท่านั้นแหละ รู้เรื่อง! ทำไมไอเดียดีๆ มักผุดขึ้นมาตอนอาบน้ำ

คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ยิ่งคิดก็ยิ่งตัน แต่ลองอาบน้ำเท่านั้นแหละ รู้เรื่อง! ทำไมไอเดียดีๆ มักผุดขึ้นมาตอนอาบน้ำ

นั่งคิดงาน จ้องหน้าจอ หาไอเดียอยู่ตั้งนานสองนาน แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ยิ่งคิดก็ยิ่งตัน แต่อยู่ในห้องน้ำไม่กี่นาทีไอเดียพรั่งพรูเข้ามาเสียอย่างนั้น บางคนถึงกับต้องพกสมุด หรือโทรศัพท์เข้าไปจดไว้เลย 

นั่นเป็นเพราะ การอาบน้ำช่วยให้เราได้หยุดพักจากความเครียดที่มัวแต่จดจ่อกับงานใดงานหนึ่ง รวมถึงโลกภายนอกอันเต็มไปด้วยสิ่งเร้าที่รบกวนสมาธิในแต่ละวัน ให้จิตใจล่องลอยไปอย่างอิสระ 

แล้วจุดนี้เองที่ทำให้สมองด้านความคิดสร้างสรรค์ของเราจะทำงานได้ดีที่สุด และนำไปสู่การเชื่อมโยงระหว่างความคิด เนื่องจากสารแห่งความสุขอย่าง โดพามีน (Dopamine) ฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกดี และเอนดอร์ฟิน (Endorphin) ฮอร์โมนแห่งความสุขที่ลดอาการเจ็บปวดจะหลั่งออกมาเป็นจำนวนมาก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อได้ทำกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นให้สารเหล่านี้ทำงานได้ดีขึ้น สมองของเราก็จะปลอดโปร่ง ความคิดสร้างสรรค์ก็จะหลั่งไหลมา

นอกจากนี้ร่างกายที่สัมผัสกับอุณหภูมิอุ่นๆ ของน้ำ และกลิ่นหอมของสบู่หรือแชมพูสามารถกระตุ้นส่วนต่างๆ ของสมอง ซึ่งสามารถกระตุ้นการเชื่อมโยงและสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความคิดใหม่ๆ 

เมื่อสมองเรากำลังผ่อนคลาย ย่อมส่งผลให้สภาวะจิตใจที่ฟุ้งซ่าน และเคร่งเครียดกับกระจุกความคิดอยู่นั้นได้ผ่อนคลายตามไปด้วย เมื่อจิตใจผ่อนคลายก็จะเปิดรับความคิดสร้างสรรค์และการแก้ปัญหาได้มากขึ้น

อีกทฤษฎีหนึ่งที่สามารถอธิบายกระบวนการนี้ได้คือ รูปแบบการโฟกัสที่เรียกว่า Scatterfocus หรือ การกระจายโฟกัส คือ การมุ่งความสนใจของเราเข้าไปข้างใน เป็นโหมดสร้างสรรค์ที่สุดในจิตใจเมื่อเราจงใจปล่อยให้จิตใจให้ล่องลอย 

คำตอบนี้จึงสามารถอธิบายได้ว่า ทำไมนอกจากการอาบน้ำแล้ว กิจกรรมอื่นๆ เช่น การออกกำลังกาย การฟังเพลง การขับรถ ก็สามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ขึ้นมาได้เช่นเดียวกัน 

อย่างไรก็ตาม แต่ละคนย่อมมีวิธีการที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์แตกต่างกันไป เพราะบางคนอาจใช้พลังงานความกดดัน หรือความเครียดผลิตไอเดียออกมาได้ดีก็ได้ แต่ก็อาจจะทำให้จิตใจอ่อนล้าได้ง่ายเช่นกันหากทำบ่อยๆ 

ดังนั้น การหากิจกรรมที่ส่งเสริมการผ่อนคลายสมอง อารมณ์ ความเครียดลงบ้าง แล้วเพิ่มเข้าไปในกิจวัตรประจำวัน อาจจะเป็นหนทางที่ช่วยให้รักษาสภาวะความสมดุลทางจิตใจได้ดีมากกว่า

อ้างอิง

 

ที่มา : https://www.brandthink.me/content/scatterfocus

 

Visitors: 1,222,422