ถอดรหัสวิธีคิด เอเลียด คิปโชเก้ : คนที่มีวินัยต่อตนเองจะมีอิสระในชีวิต
|
ถอดรหัสวิธีคิด เอเลียด คิปโชเก้ : คนที่มีวินัยต่อตนเองจะมีอิสระในชีวิต
ประโยคเรียบง่ายที่ เอเลียด คิปโชเก้ พูดซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า กลับทำหน้าที่เหมือนเข็มทิศ—ชี้ทางให้ชายคนหนึ่งเดินจากหมู่บ้านเล็ก ๆ ในเคนยา ไปสู่สถานะ “มนุษย์คนแรกที่วิ่งมาราธอนต่ำกว่า 2 ชั่วโมง” จากเด็กส่งนมเท้าเปล่า สู่วันที่โลกหยุดหายใจ12 ตุลาคม 2019 โลกทั้งใบจับตาที่ชายเสื้อยืดสีขาวคนหนึ่งวิ่งเข้าสู่เส้นชัยของโครงการ INEOS 1:59 Challenge ที่เวียนนา ด้วยเวลา 1:59:40 สิ่งที่เคยถูกมองว่า “เป็นไปไม่ได้ทางสรีรวิทยา” ถูกเขาทลายลงอย่างสง่างาม แต่เรื่องราวนี้ไม่เคยเป็นเรื่องของพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว แรงบันดาลใจ คำพูดที่กลายเป็นไวรัลแห่งพลังชีวิตก่อนจะทุบสถิติวิ่งมาราธอนต่ำกว่า 2 ชั่วโมงได้ในปี 2019 , 2 ปีก่อนหน้านั้น คิปโชเก้ขึ้นเวที Oxford Union ในปี 2017 และทิ้งชุดบทเรียนที่ภายหลังกลายเป็น “คู่มือชีวิต” ให้คนทั่วโลก เขาเล่าถึงความล้มเหลว การลุกขึ้นใหม่ และศิลปะของการรักษาใจให้มั่นคงท่ามกลางความเจ็บปวดของร่างกาย จากคำพูดและเส้นทางอาชีพทั้งหมด นี่คือ 7 หลักคิด ที่หล่อหลอมชายคนนี้ให้เป็นตำนาน 7 หลักคิดของคิปโชเก้ — สูตรลับที่มากกว่าการวิ่ง
1) วินัยคือรากฐานของทุกสิ่ง (Self-Discipline) สำหรับเขา วินัยไม่ใช่การกดทับตัวเอง แต่คืออิสระที่ได้จากการไม่ถูกอารมณ์ชั่ววูบลากไปไหน “หากไร้วินัย คุณจะเป็นทาสของแพชชั่น” วินัยทำให้เขาตื่นตี 5 วิ่งวันละหลายสิบกิโลฯ และทำในสิ่งที่ “ควรทำ” มากกว่า “อยากทำ” 2) ชัยชนะเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนปืนปล่อยตัว (Planning & Preparation) คิปโชเก้เชื่อว่าความสำเร็จไม่ได้ถูกตัดสินที่เส้นชัย แต่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่จังหวะที่กำลังวางแผน “การเตรียมตัวสำคัญกว่าชัยชนะ” สิ่งที่เกิดขึ้นในวันแข่ง เป็นเพียงภาพสะท้อนของ “ความซื่อสัตย์กับการซ้อม” ตลอดหลายร้อยวันก่อนหน้า 3) ความสม่ำเสมอคือกุญแจ (Consistency) เขาชอบยกตัวอย่างการปลูกต้นไม้ “เวลาที่ดีที่สุดในการปลูกต้นไม้คือ 25 ปีก่อน ถ้าไม่ได้ปลูก วันนี้คือเวลาที่ดีที่สุดรองลงมา” ความสม่ำเสมอ คือพลังที่ผลักให้เขาก้าวไปข้างหน้าแม้ในวันที่สภาพจิตใจย่ำแย่ที่สุด
4) เชื่อมั่นในตัวเองแบบที่มีรากฐาน (Self-Belief) คิปโชเก้ไม่เชื่อในการมโนภาพหลอกตัวเอง ความมั่นใจของเขาถูกสร้างจาก “ระยะทางที่วิ่งจริง” ไม่ใช่คำคม “ผมเชื่อมั่นเสมอว่าวันนี้ผมจะทำดีที่สุด เพราะผมซ้อมมามากพอที่จะเชื่อแบบนั้นได้” 5) คิดบวกไม่ใช่โลกสวย แต่เป็นกลยุทธ์ (Positive Thinking) การคิดบวกของเขาเป็นเหมือนเชื้อเพลิง มันคือทักษะในการคงสติ ไม่ใช่การมองโลกเพ้อฝัน 6) พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลง (Adaptability) คิปโชเก้ย้ำเสมอว่าชีวิตคือความไม่แน่นอน การเตรียมตัวให้เปลี่ยนได้ ทำให้เขาเติบโตขึ้นในทุกช่วงเวลาที่โลกไม่เป็นใจ 7) ความสำเร็จไม่เคยเป็นงานเดี่ยว (Teamwork) แม้การวิ่งจะดูเหมือนกีฬาประเภทเดี่ยว แต่คิปโชเก้ยกเครดิตทั้งหมดให้โค้ช เพื่อนร่วมซ้อม และทีมเพซเซอร์ “100% ของผม ไม่มีค่าเท่ากับ 1% ของทีม” คือสูตรคิดที่ทำให้เขาไม่ล้มแม้จะเผชิญแรงกดดันระดับมนุษยชาติ “No Human Is Limited”เส้นทางของเด็กชายขายนมเท้าเปล่าจากเคนยา กลายเป็นหลักฐานชัดเจนที่สุดว่า ขีดจำกัดของมนุษย์นั้นยืดได้เสมอ ตราบใดที่เรามีวินัยเป็นเข็มทิศ และความสม่ำเสมอเป็นเชื้อเพลิง สิ่งที่คิปโชเก้ทำไม่ใช่แค่พิสูจน์ว่ามนุษย์วิ่งต่ำกว่า 2 ชั่วโมงได้ แต่พิสูจน์ว่า ชีวิตของเราก็ “ทะลุขีดจำกัด” ได้เหมือนกัน ถ้าเลือกเดินด้วยวินัย ความเชื่อมั่น และความเพียรพยายามเหมือนเขา
|


