งานวิจัยชี้ แค่เปลี่ยนวิธีขับรถ ก็ช่วยลดคาร์บอนได้หลายล้านตัน

งานวิจัยชี้ แค่เปลี่ยนวิธีขับรถ ก็ช่วยลดคาร์บอนได้หลายล้านตัน

 

ไม่ต้องซื้อรถยนต์ไฟฟ้าก็ช่วยโลกได้ งานวิจัยล่าสุดชี้ เพียงแค่เปลี่ยนพฤติกรรมการขับรถ ก็ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้หลายล้านตันต่อปี

แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมีประโยชน์ทั้งการช่วยประหยัดค่าน้ำมัน และช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ในความเป็นจริง หากคุณยังไม่พร้อมที่จะมีรถยนต์ไฟฟ้า ก็ยังสามารถที่จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนจากการใช้ยานพาหนะได้ ด้วยการปรับพฤติกรรมการขับรถง่ายๆเท่านั้น

ในงานวิจัยล่าสุดของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ได้ใช้แบบจำลอง AI เพื่อแสดงให้เห็นว่า วิธีการขับรถ ส่งผลสำคัญต่อการลดมลพิษที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ได้มากแค่ไหน 

 

งานวิจัยชี้ แค่เปลี่ยนวิธีขับรถ ก็ช่วยลดคาร์บอนได้หลายล้านตัน

 

พวกเขาได้ทำการวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่บริเวณทางแยกมากกว่า 6,000 แห่งใน 3 เมืองใหญ่ของสหรัฐฯ ได้แก่ ลอสแองเจลิส ซานฟรานซิสโก และแอตแลนตา ผ่านการจำลองสถานการณ์ต่างๆ ราว 1 ล้านเหตุการณ์ โดยคำนึงถึงสภาพการจราจรและสภาพแวดล้อม

การศึกษาพบว่า การที่รถค่อยๆ ชะลอการเคลื่อนที่เมื่อถึงทางแยก แทนที่จะหยุดรถอย่างกะทันหัน และการลดระยะเวลาเดินเบาที่ทางแยก สามารถช่วยลดมลพิษทางอากาศได้ถึง 22%

นั่นหมายความว่าเราสามารถเริ่มต้นผลักดันการขับขี่แบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยไม่จำเป็นต้องรอให้รถยนต์ไฟฟ้าเข้าถึงผู้คนได้มากกว่านี้ในอนาคต

ที่สำคัญคือ หากนำแนวทางนี้ไปใช้กับการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า ก็จะยิ่งช่วยลดมลพิษได้มากกว่าเดิม เพราะ แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะไม่ก่อให้เกิดมลพิษบนท้องถนน แต่ไฟฟ้าที่ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ก็ยังคงมาจากเชื้อเพลิงที่ไม่สะอาด การขับรถแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจึงช่วยลดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ และช่วยให้เจ้าของรถไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่บ่อยด้วย

โดยทางทีมวิจัยเสนอว่า เมืองต่างๆ ควรมีการติดตั้งอุปกรณ์สัญญาณไฟจราจรที่บริเวณทางแยก เพื่อให้รถสามารถชะลอความเร็วลงได้ทีละน้อย แทนที่จะหยุดกะทันหัน เพื่อช่วยลดมลพิษในตัวเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ 

 

 

https://www.springnews.co.th/keep-the-world/climate-change/853186

 

 

Visitors: 1,405,414