รู้จัก 'โรคใหลตาย' ภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทะทันหัน เช็กสัญญาณอันตราย

รู้จัก 'โรคใหลตาย' ภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทะทันหัน เช็กสัญญาณอันตราย

ทำความรู้จัก "โรคใหลตาย" ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันขณะนอนหลับ กลุ่มเสี่ยงสูงคือเพศชายวัยทำงาน สัญญาณอันตรายที่อาจพบได้คือ อาการวูบหมดสติโดยไม่ทราบสาเหตุ ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ หรือหายใจลำบากในเวลากลางคืน

"โรคหัวใจที่คุณหรือครอบครัวอาจจะไม่มีโอกาสครั้งที่สอง" โรค “ใหลตาย” (Sudden Unexplained Nocturnal Death Syndrome) หรือที่เคยเป็นความเชื่อในภาคอีสานว่า "ผีแม่หม้ายมาเอาตัวไป" นั้น เป็นภัยเงียบที่ยังคงสร้างความสูญเสียให้กับหลายครอบครัวในทุกๆ ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชายหนุ่มที่มีสุขภาพแข็งแรงในช่วงวัยทำงาน

ปัจจุบัน ข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันว่าภาวะนี้คือ กลุ่มอาการเสียชีวิตเฉียบพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ (SUDS) ซึ่งผู้ป่วยจะเสียชีวิตเพราะหัวใจหยุดเต้นกะทันหันในขณะนอนหลับ

ใหลตายคืออะไร? ภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทันหันที่ซ่อนอยู่

โรคใหลตายคือ กลุ่มอาการที่มีการเสียชีวิตขณะนอนหลับโดยไม่ทราบสาเหตุ สาเหตุหลักเกิดจากความผิดปกติของระบบหัวใจและหลอดเลือด โดยเฉพาะความผิดปกติของการนำไฟฟ้าหัวใจ หรือโครงสร้างหัวใจผิดปกติ

สาเหตุสำคัญที่พบได้บ่อยและเป็นที่รู้จักในปัจจุบันคือ กลุ่มอาการบรูกาด้า (Brugada Syndrome)

  • Brugada Syndrome เป็นโรคทางกรรมพันธุ์ชนิดหนึ่งที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของยีนที่ควบคุมการทำงานของไฟฟ้าในหัวใจ (channelopathy)
  • ความผิดปกตินี้ส่งผลให้ระบบนำไฟฟ้าในหัวใจไม่เสถียร โดยเฉพาะที่หัวใจห้องล่างขวา ทำให้คนไข้มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดรุนแรง
  • เมื่อหัวใจเต้นผิดจังหวะอย่างรุนแรง หัวใจจะไม่สามารถบีบเลือดออกไปเลี้ยงร่างกายได้ มักเกิดขึ้นระหว่างการนอนหลับและเสียชีวิตในที่สุด

 

 

ใครบ้างที่มีความเสี่ยงต่อภาวะใหลตาย

แม้ว่าโรคนี้จริงๆ แล้วจะพบได้ไม่มากนัก โดยมีสถิติในประเทศไทยพบผู้ป่วย Brugada Syndrome ประมาณ 40 คน จากจำนวนประชากร 100,000 คน และทั่วโลกมีอัตราการเกิด 40 คนต่อประชากรหนึ่งแสน แต่กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงและควรเฝ้าระวังคือ

  1. เชื้อชาติและถิ่นที่อยู่ พบได้บ่อยในชาวไทยที่มีถิ่นกำเนิดอยู่แถบภาคอีสาน และพบมากในชาวเอเชีย โดยเฉพาะชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  2. เพศและวัย พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง และมักเป็นผู้ชายอายุน้อยช่วงวัยทำงานหรือวัยกลางคน คือช่วงอายุ 20 - 50 ปี
  3. ประวัติครอบครัว มีประวัติบุคคลในครอบครัวที่อายุน้อยเสียชีวิตเฉียบพลัน หรือมีสมาชิกในครอบครัวเกิดอาการใหลตาย เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม (ผู้ป่วยกลุ่มอาการบรูกาด้าประมาณ 15-30% มียีนที่เกี่ยวข้อง)

เช็กสัญญาณอันตราย แม้จะขึ้นชื่อว่า "ไม่มีสัญญาณเตือน"

ความท้าทายของโรคใหลตายคือ อาการครั้งแรกที่เกิดขึ้นอาจจะนำไปสู่การเสียชีวิตได้โดยไม่มีโอกาสครั้งที่สอง และเรามักได้ยินข่าวว่าผู้ที่เป็นโรคนี้เสียชีวิตไปขณะนอนหลับโดยที่ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ มาก่อน

อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่มีอาการบางอย่างมาก่อน หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย

  • วูบ เป็นลม หรือหมดสติไปชั่วขณะโดยไม่ทราบสาเหตุมาก่อน
  • ใจสั่น หรือหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ
  • หัวใจเต้นเร็วมาก
  • เวียนศีรษะ
  • ชัก
  • หายใจลำบาก โดยเฉพาะเวลากลางคืน
  • เจ็บหน้าอก
  • เคยตรวจพบว่ามีหัวใจห้องบนหรือห้องล่างเต้นผิดจังหวะชนิดรุนแรง
  • กรณีที่อาการกำเริบระหว่างนอนหลับ อาจมีเสียงหายใจครืดคราดคล้ายละเมอ
 

ปัจจัยกระตุ้นที่ผู้ป่วยต้องหลีกเลี่ยง

ผู้ที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคใหลตายจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจกระตุ้นให้เกิดอาการในช่วงนอนหลับหรือหลังมื้ออาหารใหญ่ๆ

  • ภาวะไข้สูง
  • เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  • ร่างกายขาดน้ำและแร่ธาตุ
  • ยาบางชนิด ผู้ป่วยต้องปรึกษาแพทย์ก่อนได้รับยาบางชนิด เช่น ยานอนหลับ หรือยาที่มีผลต่อแร่ธาตุในร่างกาย รวมถึงยาที่มีผลต่อการไหลเข้าออกของโซเดียมในเซลล์

การวินิจฉัยและการป้องกัน

การตรวจพบโรคนี้ก่อนเกิดอาการเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีประวัติครอบครัวหรือเคยมีอาการเป็นลมโดยไม่ทราบสาเหตุ

การวินิจฉัยโรคใหลตายเบื้องต้นทำได้โดยการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) เพื่อดูลักษณะของคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่เข้าได้กับ Brugada syndrome

แพทย์อาจพิจารณาตรวจเพิ่มเติมร่วมด้วย เช่น

  • การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง (echocardiography) เพื่อดูโครงสร้างของหัวใจ
  • การตรวจระบบไฟฟ้าในหัวใจโดยการใส่สายเข้าไปตรวจภายในหัวใจ (EP study)
  • การตรวจทางพันธุกรรม (genetic testing) เพื่อดูการกลายพันธุ์ในสารพันธุกรรม

การรักษาและการป้องกันความเสี่ยง: ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคนี้ให้หายขาด แต่แพทย์จะให้การรักษาโดยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตจากหัวใจเต้นผิดจังหวะ เช่น

  • การฝังเครื่องกระตุกหัวใจหรือเครื่องช็อตไฟฟ้าหัวใจ (AICD)
  • การใช้ยาควบคุมการเต้นของหัวใจ
  • การจี้ไฟฟ้าหัวใจ

เนื่องจากโรคใหลตายเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม และอาการครั้งแรกอาจถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้น หากท่านใดมีประวัติครอบครัวเสียชีวิตขณะนอนหลับหรือวูบหมดสติตั้งแต่อายุน้อย ๆ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจหรือแพทย์ผู้ชำนาญด้านไฟฟ้าหัวใจ เพื่อประเมินความเสี่ยงและตรวจคัดกรองเพิ่มเติมอย่างสม่ำเสมอ. การตรวจสุขภาพและตรวจหัวใจเป็นประจำทุกปีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับทุกคน

 

 

ที่มา : โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ 

Visitors: 1,707,189