ผลสำรวจในอังกฤษชี้ว่า พนักงานส่วนใหญ่แอบใช้ AI ช่วยทำงาน แต่ไม่กล้าบอกหัวหน้า เพราะรู้สึกไม่สบายใจ

ผลสำรวจในอังกฤษชี้ว่า พนักงานส่วนใหญ่แอบใช้ AI ช่วยทำงาน แต่ไม่กล้าบอกหัวหน้า เพราะรู้สึกไม่สบายใจ
 
.
ต้องยอมรับว่าโลกเรากำลังอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำไปมากจริงๆ โดยเฉพาะเจ้า AI หรือปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น
.
จากผลการวิจัยของ Advertising Week Europe โดย Cint แพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลดิจิทัล ได้ทำการสำรวจผู้คนจำนวนกว่า 1,000 คนในสหราชอาณาจักร ที่มีอายุตั้งแต่ 16-79 ปี พบว่า “กว่า 1 ใน 3 ของคนวัยทำงาน (ที่ตอบแบบสำรวจ) กำลังใช้ AI ช่วยทำงาน ขณะเดียวกันพนักงานส่วนใหญ่ก็รู้สึกไม่สบายใจถ้าจะต้องบอกหัวหน้างาน หรือเจ้านายตรงๆ”
.
ความกลัวนี้เป็นสิ่งที่จับต้องได้มากขึ้นสำหรับคนรุ่นใหม่ โดย 42 เปอร์เซ็นต์ของคน Gen Z และ 40 เปอร์เซ็นต์ของคน Gen Y หรือคนรุ่นมิลเลนเนียลส์ บอกว่าตัวเองรู้สึกไม่สบายใจที่ต้องบอกหัวหน้าเรื่องการใช้ AI ช่วยทำงาน
.
ซึ่งสาเหตุที่คนส่วนใหญ่กลัวกัน อาจเกิดจากบริษัทในสหราชอาณาจักรไม่มีแนวทางที่ชัดเจนในการใช้ AI โดยมีถึง 2 ใน 3 ของบริษัทที่ทำการสำรวจแล้วพบว่าไม่มีนโยบายเกี่ยวกับ AI ทำให้พนักงานไม่รู้ว่าพวกเขาจะใช้มันได้หรือไม่
.
ขณะที่สัดส่วนพนักงานที่มีประสบการณ์ทำงานมากกว่า 15 ปี แต่ไม่เคยใช้ AI มาก่อน มีมากถึง 69 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับ 62 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานที่มีประสบการณ์น้อยกว่า 15 ปี ที่ตอบว่าตัวเองเคยใช้ AI ช่วยทำงาน นั่นอาจหมายความว่าคนรุ่นใหม่เลือกใช้เทคโนโลยี AI ในการทำงานมากกว่าคนรุ่นก่อนหน้า
.
ในขณะเดียวกันก็พบว่าบริษัทด้านเทคโนโลยีและการเงินมีแนวโน้มที่จะนำ AI ไปใช้ในที่ทำงาน และสนับสนุนในการชี้แนะแนวทางให้กับพนักงานมากกว่า ส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น ด้านการแพทย์ การศึกษา การค้าปลีก และด้านการบริการยังคงปรับตัวตามไม่ทัน เพราะยังไม่มีการนำเทคโนโลยีด้านนี้ไปใช้เท่าไหร่นัก
.
รูธ มอร์ติเมอร์ (Ruth Mortimer) ประธาน Advertising Week Europe กล่าวว่า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่แปรปรวน ผู้คนต่างกลัวจะถูกปลดออกจากงานเป็นทุนเดิมกันอยู่แล้ว ทำให้การจะถามหัวหน้าว่าสามารถใช้ AI ทำงานได้หรือไม่นั้นกลายเป็นเรื่องน่ากลัว
.
“แม้ว่าสิ่งนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงาน แต่บ่อยครั้งที่ AI มักมาพร้อมกับความเชื่อที่ว่าถ้า AI​ ทำงานได้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้คนอีกต่อไป เลยเหมือนกับว่าจะมาแย่งงานพนักงาน ฉะนั้นพวกเขาจึงรู้สึกไม่กล้าบอกออกไปว่ากำลังใช้ AI ช่วยทำงาน
.
"หัวหน้างานจึงควรแสดงให้พนักงานเห็นว่า พวกเขารับรู้เข้าใจเกี่ยวกับการสร้างโอกาส และความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้ AI ช่วยในการทำงาน เหล่าหัวหน้าและเจ้านายจึงต้องสร้างบรรยากาศที่เปิดกว้าง พร้อมกับรับฟัง เพื่อให้พนักงานกล้าพูด และปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ไม่เช่นนั้นบางบริษัทอาจจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” รูธ มอร์ติเมอร์ กล่าวเพิ่มเติม
.
เพราะตั้งแต่มีการเปิดตัว ChatGPT ในเดือนพฤศจิกายน 2022 นอกเหนือจากพนักงานบริษัทเอกชน ก็ยังมีนักกฎหมาย วิศวกร ครู และอาชีพอื่นๆ ที่นำแชตบอต AI เข้ามาช่วยเขียนอีเมล เขียนคอนเทนต์ลงบนโซเชียลมีเดีย การแสดงรายการอสังหาริมทรัพย์ และอื่นๆ จนมีพนักงานรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับ Vice ว่า เขาใช้ ChatGPT ช่วยทำงานจนสำเร็จถึง 80 เปอร์เซ็นต์ สามารถเอาเวลาไปทำงานเสริมอย่างอื่นได้ในเวลาเดียวกัน
.
อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องนี้ย่อมมีทั้งฝั่งที่เห็นด้วยกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาร่วมใช้ในการทำงาน เพราะจะได้ตามทันยุคสมัย อีกทั้งสะดวก แถมประหยัดเวลาไปได้ตั้งเยอะ และฝั่งไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าพนักงานอาจใช้เครื่องมือมากเกินไป จนขาดการเรียนรู้ หรือทดลองทำด้วยตัวเอง
.
แล้วคุณล่ะ? มีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง
.
อ้างอิง: Business Insider. Some 42% of Gen Z workers are nervous to tell their manager they are using AI at work, new survey finds. https://tinyurl.com/2p95uzrt
 
 
 
 
Visitors: 1,224,811