ส่อง 9 อาชีพที่หุ่นยนต์ AI ทำงานแทนไม่ได้ เพราะทักษะซับซ้อน
ส่อง 9 อาชีพที่หุ่นยนต์ AI ทำงานแทนไม่ได้ เพราะทักษะซับซ้อน
รวบรวม อาชีพต่างๆ ที่ ณ เวลานี้ AI ยังไม่อาจแทนที่ได้ อาชีพไหนบ้างที่เจ้าหุ่นยนต์ AI ไม่ว่าจะยังไงก็มาแทนที่มนุษย์ไม่ได้ มาดูกัน ? ประเด็นของ AI จะเข้ามามีบทบาทและสามารถทำงานแทนคนได้นั้น เริ่มถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ และในสังคมไทย ก็ถูก กวนตะกอนความคิดให้ฟุ้งขึ้นมา จากกรณีที่ สำนักข่าวบางสำนัก มีความคิด จะใช้ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เอามาเป็นผู้ประกาศข่าว เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย ดังนั้น ในวันนี้ SPRiNG ขอรวบรวม อาชีพต่างๆ ที่ ณ เวลานี้ AI ยังไม่อาจแทนที่ได้ จะมีอาชีพไหนบ้าง ที่เจ้าหุ่นยนต์ AI ไม่ว่าจะยังไงก็มาแทนที่มนุษย์ไม่ได้ มาดูกัน , แต่ อาชีพที่จะยกตัวอย่างขึ้นมานี้ เป็นเพียงบางส่วนเล็กๆน้อยๆ • นักการเมืองอาชีพนักการเมือง แบบใช้สิทธิ์ออกเสียงแทนประชาชนนั้น ยังไม่อาจแทนด้วย AI ได้ เพราะ การตัดสินใจทางการเมืองเกี่ยวข้องกับการตัดสินคุณค่า และการพิจารณาทางจริยธรรม ซึ่งต้องใช้เหตุผลและวิจารณญาณของมนุษย์ , แต่หากจะใช้ เทคโนโลยี AI ในการคิดมุก คิดกิมมิกหาเสียงนั้น ยังมีให้เห็นในภาพการเมืองในหลายๆประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย , ปากีสถาน • เชฟ หรือ กุ๊กสาเหตุที่ AI หรือ หุ่นยนต์ ทำอาชีพ เพราะการทำอาหารต้องใช้ประสาทสัมผัสที่AIไม่มี เช่น รสชาติ กลิ่น และสัมผัส ดังนั้น ถ้าจะมี AI ทำอาหารให้นั้น รสชาติกร่อยแน่นอน • ผู้พิพากษา – ทนายความด้วยเนื้องานของอาชีพผู้พิพากษานี้ ต้องใช้การวิเคราะห์ ใช้ประสบการณ์ ใช้ตรรกะความถูกต้อง เป็นการพิจารณากรณีต่อกรณี เคสต่อเคส ดังนั้น หุ่นยนต์ AI ไม่สามารถเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีเท่ากับมนุษย์ ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัททนายความแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ พูดว่า การเจรจาต่อรองทางกฎหมายเป็นเรื่องที่ซับซ้อนเกินไปสำหรับหุ่นยนต์ หรือ AI จะทำ รวมไปถึง การโต้แย้งกับลูกความภายในศาลที่ต้องใช้คนเท่านั้น
• นักจิตวิทยาการรักษาอย่างหนึ่งของอาชีพทั้งสองนี้ คือ การพยายามเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของมนุษย์ด้วยกัน ไม่ต่างอะไร เป็นเหมือนที่ปรึกษาและคนที่คนไข้ไว้ใจ ดังนั้น การรักษาแบบที่ใช้ ‘จิตสัมผัส’ กันค่อนข้างละเอียดอ่อน ไม่สามารถทำหน้าที่ตรงนี้ด้วยหุ่นยนต์ AI ได้เลย ขณะที่ระดับการสื่อสารส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องในเชิงลึกทางอารมณ์เกิน 80% ดังนั้น วิวัฒนาการของหุ่นยนต์ให้เข้าใจจิตใจมนุษย์นั้นจึงทำได้ยาก ยังไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้นได้ในอีก 5 ปี 10 ปี • ศิลปินผลงานศิลปะต้องใช้อารมณ์และจินตนาการในการถ่ายทอดสูงมาก ไม่ว่าจะเป็น จิตรกร นักร้อง นักแสดง นักเขียน นักดนตรี หรืออาชีพที่ต้องสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ถึงแม้ว่าเราอาจจะเคยเห็นผลงานภาพที่เกิดจาก AI แต่ระหว่างการป้อนข้อมูลให้กับหุ่นยนต์ กับไอเดียความคิดสร้างสรรค์ของศิลปิน จะได้ผลลัพธ์อารมณ์ภาพที่แตกต่างกันมาก มนุษย์ยังคงสามารถออกแบบและสร้างสรรค์งานศิลปะได้ตรงใจกว่า และในมุมของงานศิลปะแล้ว งานของ AI จะขาดจิตวิญญาณ • แพทย์อาชีพ หมอ หรือ แพทย์ นั้น Al ไม่อาจทำแทนได้ เพราะ AI สามารถช่วยในการวินิจฉัยและคำแนะนำในการรักษาได้บางส่วน แต่ AI ไม่สามารถแทนที่การเอาใจใส่ และการสื่อสารที่จำเป็นในการดูแลผู้ป่วย • นักบริหารการบริหารในเรื่องต่างๆ ต้องใช้การพิจารณา การตัดสินใจ รวมไปถึงการมีปฏิสัมพันธ์ การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ที่ต้องอาศัยความเข้าอกเข้าใจ การจัดการทรัพยากรมนุษย์เพื่อความเหมาะสมและเป็นไปตามเป้าหมายขององค์กร • นักกีฬาลองจินตนาการดูว่า ถ้าเราเห็นหุ่นยนต์เล่นกีฬา เช่น เช่น เตะฟุตบอลแข่งขัน , เล่นวอลเลย์บอลแข่งขันกัน มันไม่น่าจะสนุกเท่ากับเราได้เห็นประสิทธิภาพของคนจริงๆ ดังนั้น การที่เราจะลองหยิบหุ่นยนต์มาเล่นกีฬา หรือแข่งขันกัน มองว่ามันไม่อินกับคนดูคนเชียร์มากเท่าไหร่นัก เพราะมันไร้อารมณ์ , ขณะที่เคยมีคนพูดถึงหุ่นยนต์ว่า การฟิตหุ่นให้แข็งแกร่งและคล่องไวเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น เพราะสามารถป้อนโปรแกรมเข้าไปได้เลย ดังนั้น อะไรที่มันไร้พัฒนาการก็ดูไม่น่าจะตื่นเต้นสักเท่าไหร่สำหรับคนรักกีฬา • นักมายากลนักมายากล เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ต้องใช้ทักษะในการแสดงสูงมาก ทั้งยังต้องให้ความบันเทิงแก่ผู้ชม และสื่อสาร connect กับผู้ชมได้ ดังนั้น นักมายากล จำเป็นที่จะต้องเป็นคนเท่านั้นในการทำการแสดงโชว์ เพื่อให้ผู้ชมรับรู้ สนุกไปกับการแสดงโชว์ และยัง get feeling การโชว์ของเรา
ที่มา medium thansettakij forbes https://www.springnews.co.th/digital-business/848300
|