7 ปรัชญาระดับโลก เปลี่ยนมุมมองชีวิตช่วงปีใหม่

7 ปรัชญาระดับโลก เปลี่ยนมุมมองชีวิตช่วงปีใหม่

 

7 แนวคิดระดับโลก เปลี่ยนมุมมองชีวิตช่วงปีใหม่ เหมาะกับใคร ใช้อย่างไร ปรับให้เข้ากับชีวิตประจำวันได้อย่างไร เลือกให้เหมาะกับตัวเอง

ปีใหม่มักเป็นช่วงเวลาที่เราหยุดพักจากความเร่งรีบของชีวิต หันกลับมามองดูตัวเองและสิ่งรอบข้าง บางคนตั้งเป้าหมายใหม่ บางคนทบทวนสิ่งที่ผ่านไปแล้ว และบางคนเพียงแค่ต้องการเริ่มต้นปีด้วยความสงบสุขและความเข้าใจในตัวเอง

ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีปรับสมดุลชีวิต หรือสร้างแรงบันดาลใจใหม่สำหรับปีที่จะมาถึง 7 แนวคิดเหล่านี้อาจช่วยคุณได้ ไม่ว่าคุณจะสนใจค้นหาความหมายของชีวิต ผ่านการทำสมาธิ หรือแค่ต้องการความสุขเล็ก ๆ ในแต่ละวัน แนวคิดจากหลากวัฒนธรรมและปรัชญาเหล่านี้จะช่วยชี้ทางให้คุณมองชีวิตในมุมใหม่ที่ดีขึ้น

7 ปรัชญาระดับโลก  เปลี่ยนมุมมองชีวิต

 

7 ปรัชญาระดับโลก  เปลี่ยนมุมมองชีวิต

7 ปรัชญาระดับโลก  เปลี่ยนมุมมองชีวิต

อิคิไก

อิคิไก (Ikigai) เป็นแนวคิดจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น คำว่า อิคิ (มีชีวิตอยู่) ไก (คุณค่าหรือความหมาย) หมายถึง ความหมายของการมีชีวิต คนที่มีอิคิไกจะรู้ว่าทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาเขามีชีวิตแต่ละวันไปเพื่ออะไร เขาจะใช้ชีวิตในวันใหม่อย่างมีพลัง เบิกบาน พึงพอใจ และสุขสงบภายใน อิคิไกมีหลักง่ายๆ และสามารถนำไปปฏิบัติได้ในทุกๆ วัน เพื่อให้วันที่เต็มไปด้วยความหมาย

แก่นของ อิคิไก

ประกอบด้วย 4 อย่างหลักดังนี้

  1. สิ่งที่คุณรัก (แพสชัน)
  2. สิ่งที่คุณทำได้ดี (ทักษะ)
  3. สิ่งที่ดีต่อคนอื่น (หน้าที่)
  4. สิ่งที่คุณทำแล้วสามารถได้รับค่าตอบแทน (อาชีพ)

 

แก่งของ อิคิไก 4 อย่าง

แก่นของ อิคิไก 4 อย่าง

 

การปรับใช้อิคิไกในชีวิตประจำวัน

เริ่มต้นด้วยการสำรวจตัวเองผ่านคำถาม 4 ข้อหลัก ได้แก่ สิ่งที่คุณรัก สิ่งที่คุณทำได้ดี สิ่งที่ดีกับคนอื่น โลกต้องการ และสิ่งที่สามารถสร้างรายได้ คำตอบเหล่านี้จะช่วยให้คุณค้นพบความสมดุลระหว่างความสุขและความหมายในชีวิต ลองเขียนคำตอบลงในสมุดบันทึกเพื่อวิเคราะห์ว่าจุดไหนที่เชื่อมโยงกัน แล้วเริ่มต้นด้วยกิจกรรมเล็ก ๆ ที่เติมเต็มอิคิไก เช่น หากคุณรักการเขียน ลองเริ่มจากการเขียนบทความสั้น ๆ หรือถ้าคุณสนใจช่วยเหลือผู้อื่น อาจเริ่มจากการเป็นอาสาสมัครในชุมชน

เมื่อคุณค้นพบสิ่งที่ใกล้เคียงกับอิคิไก ลองปรับสมดุลระหว่างงานและสิ่งที่คุณรัก เช่น ใช้เวลาว่างทำกิจกรรมที่สร้างแรงบันดาล นอกจากนี้ ให้ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ในแต่ละวัน เช่น “วันนี้จะช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานหนึ่งคน” หรือ “จะเรียนรู้ทักษะใหม่” เพื่อเพิ่มความรู้สึกถึงความหมายในสิ่งที่ทำ การฝึกสมาธิและการอยู่กับปัจจุบัน (Mindfulness) ยังช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับกระบวนการค้นหาอิคิไกได้อย่างแท้จริง

 

7 ปรัชญาระดับโลก  เปลี่ยนมุมมองชีวิตช่วงปีใหม่

 

ใช้ อิคิไก เริ่มต้นชีวิตในปีใหม่ 

เมื่อคุณเริ่มเข้าใจอิคิไกของตัวเอง ลองกำหนดเป้าหมายที่สอดคล้องกับสิ่งนั้นในปีหน้า เช่น หากคุณรักการเขียนและต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น คุณอาจหาเวลามาเริ่มเขียนบทความหรือสร้างบล็อกเล็ก ๆ เพื่อแบ่งปันเรื่องราวชีวิตคุณให้กับคนอื่น

หากคุณสนใจการช่วยเหลือชุมชน อาจเข้าร่วมกิจกรรมอาสาสมัครในชุมชนเดือนละครั้ง หรือมากว่านั้น เพื่อทำประโยชน์ต่อโลก และคุณจะพบชีวิตที่มีความหมายมากขึ้น

การเริ่มต้นปีใหม่ด้วยอิคิไกไม่ได้หมายถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทันที แต่เป็นการค่อย ๆ เติมเต็มชีวิตด้วยสิ่งที่มีความหมาย ทำให้ทุกวันของปีใหม่นี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่คุณพึงพอใจ.

โปรดจำไว้ว่า อิคิไกไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตทันที แต่เป็นการค่อย ๆ เติมเต็มสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกมีคุณค่าและสร้างสมดุลในชีวิตอย่างยั่งยืน

 

7 ปรัชญาระดับโลก  เปลี่ยนมุมมองชีวิตช่วงปีใหม่

เต๋า

เต๋า (道, Tao) เป็นแนวคิดที่มีต้นกำเนิดจากประเทศจีนในช่วงประมาณ 600 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยมีเล่าจื๊อ (Lao Tzu) เป็นผู้ก่อตั้งแนวคิดนี้ ซึ่งปรากฏในคัมภีร์เต้าเต๋อจิง (Tao Te Ching) 14. เต๋าแปลว่า "วิถี" หรือ "ทาง" และหมายถึงหลักการหรือสัจธรรมที่เป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่งในจักรวาล

แก่งของเต๋า

แก่นของเต๋าคือความเข้าใจในธรรมชาติของจักรวาลและการดำรงอยู่ของมนุษย์ โดยเต๋าถือเป็นพลังงานที่ไม่มีชีวิตและไม่ใช่พระเจ้าที่มีรูปร่าง แต่เป็นสิ่งที่อยู่เหนือความเข้าใจของมนุษย์ เต๋าเป็นต้นกำเนิดของทุกสิ่งและเป็นจุดหมายปลายทางที่ทุกสิ่งต้องกลับไปหา12. คัมภีร์เต้าเต๋อจิงกล่าวว่า "เต๋าที่เรียกขานได้ไม่ใช่เต๋าแท้" ซึ่งหมายถึงว่า เต๋าที่สามารถอธิบายหรือเข้าใจได้ไม่ใช่แก่นแท้ของมัน

การปรับใช้เต๋าในชีวิตประจำวัน

เน้นการใช้ชีวิตอย่างสอดคล้องกับธรรมชาติและความสมดุล แนวคิดหลักของเต๋าคือการปล่อยวาง ไม่ฝืนกระแสธรรมชาติ และการเดินตาม “เต๋า” หรือหนทางที่แท้จริงของชีวิต ในชีวิตประจำวัน เราสามารถนำเต๋ามาใช้โดยการเรียนรู้ที่จะยอมรับสิ่งที่เป็น และปรับตัวเข้ากับสถานการณ์โดยไม่พยายามควบคุมสิ่งที่อยู่นอกเหนืออำนาจของเรา เช่น การปล่อยให้สิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ดำเนินไปตามทางของมัน จะช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสงบในใจ

เริ่มต้นปีใหม่กับเต๋า

ในมุมมองของเต๋า การเริ่มต้นปีใหม่ไม่จำเป็นต้องเต็มไปด้วยความกดดันหรือการตั้งเป้าหมายที่ท้าทายจนเกินไป เต๋าสอนให้เรายอมรับธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลง และปล่อยให้ชีวิตไหลลื่นไปตามจังหวะของมัน "ไหลไปกับสถานการณ์" หรือที่เรียกว่า Wu Wei (การไม่ฝืน)

ลองเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการเปิดใจรับสิ่งที่มาอย่างสงบและเป็นธรรมชาติ เช่น แทนที่จะตั้งเป้าว่าต้องลดน้ำหนักให้ได้ทันทีในเดือนแรก อาจเริ่มจากการปรับเปลี่ยนนิสัยการกินทีละน้อยแทน หรือแทนที่จะมุ่งแต่สิ่งที่อยากได้ในปีใหม่ เต๋าสอนให้เราทบทวนสิ่งที่มีอยู่แล้วและชื่นชมกับมัน เช่น ลองจัดบ้านในช่วงต้นปีเพื่อสร้างความโปร่งสบาย หรือตื่นมาเดินเล่นในสวนยามเช้า จะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มเอมโดยไม่ต้องไล่ตามความสมบูรณ์แบบ

 

PHOTO spaceamoeba

PHOTO spaceamoeba

สมาธิ

แนวคิดการทำสมาธิ หรือนั่งสมาธิ มีมานานก่อนที่พุทธศาสนาจะถือกำเนิด ในอินเดียเหล่าพราหมณ์และฤษี มักฝึกสมาธิเป็นประจำ และมักเป็นการการฝึกจิตที่มีเป้าหมายทางศาสนา เพื่อบรรลุการเจริญภาวนาและเข้าถึงพลังลึกลับแห่งชีวิต แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป การนั่งสมาธิก็กลายมาเป็นวิธีการผ่อนคลายจากความเครียดและความวิตกกังวล ไม่เพียงแต่ในกลุ่มผู้ปฏิบัติศาสนา แต่ยังรวมถึงผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตประจำวัน

แก่งของสมาธิ

แก่นของการนั่งสมาธิคือการฝึกจิตให้มีสมาธิและสติ โดยมักจะเริ่มจากการนั่งในท่าที่สะดวกสบาย เช่น ท่าปัทมอาสนะ (ท่าดอกบัว) ซึ่งช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและจิตใจมีสมาธิ. ในระหว่างการฝึก ผู้ปฏิบัติมักจะใช้เทคนิคการหายใจเพื่อช่วยในการควบคุมจิตใจ เช่น การหายใจเข้าออกลึก ๆ หรือการใช้คำภาวนา (แมนตรา) เพื่อให้จิตใจมีสมาธิมากขึ้น. การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเครียด แต่ยังส่งเสริมสุขภาพจิตและร่างกายให้แข็งแรงขึ้น.

วิธีใช้ สมาธิ ในชีวิตประจำวัน

การนั่งสมาธิเป็นวิธีที่เรียบง่ายและได้ผลในการคลายความเครียด คุณสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการหาสถานที่เงียบสงบที่คุณรู้สึกผ่อนคลาย จากนั้นนั่งในท่าที่สบาย ไม่ว่าจะเป็นนั่งขัดสมาธิหรือบนเก้าอี้ ให้หลังตรงและมือวางบนตักหรือเข่า หลับตาเบา ๆ แล้วเริ่มต้นด้วยการหายใจเข้าออกลึก ๆ ช้า ๆ โดยให้ความสนใจกับลมหายใจทุกครั้งที่เข้าและออก หากมีความคิดเข้ามาในหัว ไม่ต้องกังวล เพียงสังเกตแล้วค่อย ๆ ดึงความสนใจกลับมาที่ลมหายใจ

คุณสามารถเริ่มฝึกนั่งสมาธิเพียง 5-10 นาทีต่อวัน และค่อย ๆ เพิ่มระยะเวลาเมื่อคุณคุ้นเคย การนั่งสมาธิช่วยให้จิตใจสงบนิ่ง ลดความฟุ้งซ่าน และช่วยปลดปล่อยความตึงเครียดที่สะสมอยู่ในร่างกายและจิตใจ ทำให้คุณสามารถเผชิญหน้ากับความท้าทายต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ด้วยความชัดเจนและสมดุลมากขึ้น

ทั้งนี้ สมาธิไม่ได้จำกัดอยู่แค่การนั่งหลับตาในที่เงียบสงบ แต่สามารถฝึกได้ในชีวิตประจำวันผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเดินสมาธิ โดยเดินช้า ๆ และให้ความสนใจกับทุกก้าวที่ย่าง การหายใจ หรือเสียงรอบตัว อีกวิธีคือการทำงานอย่างมีสมาธิ (Mindful Working) เช่น ล้างจานโดยให้ความสนใจกับความรู้สึกของน้ำ การสัมผัสจาน หรือการเคลื่อนไหวของมือ วิธีเหล่านี้ช่วยให้คุณอยู่กับปัจจุบัน ลดความว้าวุ่นของจิตใจ และคลายความเครียดโดยไม่ต้องจัดเวลาแยกต่างหากสำหรับการนั่งสมาธิแบบดั้งเดิม

 

การเริ่มปีใหม่ด้วยการมี ‘สมาธิ’

การเริ่มปีใหม่ด้วยการมี ‘สมาธิ’

 

การเริ่มปีใหม่ด้วยการมี ‘สมาธิ’

การทำสมาธิในช่วงปีใหม่เป็นวิธีที่ดีในการเริ่มต้นด้วยจิตใจที่สงบและชัดเจน คุณสามารถใช้เวลาช่วงเช้าของวันปีใหม่เพื่อฝึกสมาธิแบบง่าย ๆ เช่น การนั่งเงียบ ๆ และหายใจเข้าออกลึก ๆ อย่างมั่นคงและมีสติ หรือใช้สมาธิเพื่อเดินทางสู่ภายในปีที่ผ่านมา ทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาตลอดปีว่าได้ทำอะไรบ้าง ถ้าเป็นเรื่องที่ทำได้สำเร็จให้จดจำและเรียนรู้เอาไว้ใช้ต่อในปีหน้า ส่วนเรื่องที่ทำผิดพลาดให้ปรับปรุงตัวเองและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น

 

7 ปรัชญาระดับโลก  เปลี่ยนมุมมองชีวิตช่วงปีใหม่

สโตอิก

แนวคิดแบบสโตอิก (Stoicism) เกิดจากชาวกรีก ซีโน (Zeno) ที่มีชีวิตอยู่ในช่วง 300 ปีก่อนคริสตกาล ระหว่างเดินทาง เขาเผชิญกับ อุบัติเหตุเรือล่ม แต่รอดชีวิตมาได้ ทว่าก็สูญเสียทรัพย์สินทุกอย่าง เมื่อกลับมาเอเธนส์ เขาจึงมาเอาดีทางปรัชญา และสอนลูกศิษย์หลายคนจนเป็นแนวคิดปรัชญา สโตอิก ที่แบ่งแยกความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เรา ‘ควบคุมได้’ กับ ‘ควบคุมไม่ได้

แก่นของสโตอิก

ปรัชญาสโตอิกสอนให้เราแยกแยะระหว่างสิ่งที่เราควบคุมได้ (เช่น ความคิด การกระทำ และการตอบสนอง) กับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ (เช่น ความคิดเห็นของผู้อื่น หรือเหตุการณ์ในโลก) และมุ่งเน้นพลังงานไปที่สิ่งที่อยู่ในขอบเขตของเรา สโตอิกยังเน้นการมีมุมมองที่ชัดเจนต่อความทุกข์ ความตาย และความเปลี่ยนแปลง โดยมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นธรรมชาติของชีวิตและไม่ควรหลีกเลี่ยง การยอมรับสิ่งที่เป็นและมุ่งทำสิ่งที่ดีในทุกสถานการณ์คือหัวใจของปรัชญานี้.

สโตอิก เหมาะกับช่วงปีใหม่อย่างไร ?

การใช้ชีวิตด้วยแนวคิดสโตอิกในช่วงปีใหม่สามารถช่วยให้คุณตั้งเป้าหมายและเผชิญกับความท้าทายได้อย่างมีสติ โดยเริ่มจากการยอมรับสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม เช่น สถานการณ์ทางเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด คุณควรให้ความสำคัญกับสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ เช่น ความคิดและการกระทำของตัวเอง การตั้งเป้าหมายที่มีความหมายและมีคุณธรรมจะทำให้คุณมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเองและสร้างชีวิตที่มีคุณค่า

 

 

7 ปรัชญาระดับโลก  เปลี่ยนมุมมองชีวิตช่วงปีใหม่

ลากอม

แนวคิดแบบลากอม (Lagom) เป็นปรัชญาการใช้ชีวิตที่มีต้นกำเนิดจากประเทศสวีเดน ซึ่งแปลว่า "ไม่มากเกินไป ไม่น้อยไป แค่พอดี โดยมาจากวัฒนธรรมของชาวไวกิ้งที่แบ่งปันสิ่งมีค่าให้กัน เพื่อให้ทุกคนมีความสุขร่วม

แก่นของ ลากอม

แนวคิดนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การหาสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อน แต่ยังรวมถึงการสร้างความพอดีในทุกด้านของชีวิต เช่น การกินอาหาร การใช้เวลาในการเข้าสังคม และการจัดการอารมณ์ โดยมุ่งหวังให้ผู้คนสามารถพอใจกับสิ่งที่มีแบบไม่สุดโต่งในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเกินไป 

วิธีใช้ลากออมในชีวิตประจำวัน

การตั้งเวลาในการทำงานให้ชัดเจน และเมื่อถึงเวลาพัก ให้ใช้เวลาอย่างเต็มที่เพื่อผ่อนคลายหรือทำกิจกรรมที่คุณชอบ เช่น การอ่านหนังสือหรือเดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศ การใช้ชีวิตตามแนวคิดลากอมยังหมายถึงการเลือกสิ่งที่มีคุณค่าในชีวิต เช่น การเลือกซื้อของที่จำเป็นและมีคุณภาพ แทนที่จะซื้อของฟุ่มเฟือย ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้สึกพอใจกับสิ่งที่มีอยู่แล้วและหลีกเลี่ยงความเครียดจากการบริโภคมากเกินไป. ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความสุขอย่างยั่งยืนในยุคที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย

 

7 ปรัชญาระดับโลก  เปลี่ยนมุมมองชีวิตช่วงปีใหม่

ปีใหม่แบบ ลากออม ที่พอดี

แทนที่จะฉลองแบบยิ่งใหญ่ หรือฟุ่มเฟือย ให้ทำกิจกรรมที่ดีต่อสุขภาพในปริมาณที่เหมาะสม เช่นออกกำลังกาย จัดบ้าน กินอาหารอย่างมีสติ เลี่ยงการกินและใช้เงินที่เกินความจำเป็น เพื่อสร้างความสุขและความพอใจในชีวิตที่พอดี

 

PHOTO Moyan Brenn from ItalyPHOTO Moyan Brenn from Italy

ซิสุ 

แนวคิด "ซิสุ" (Sisu) เป็นปรัชญาการใช้ชีวิตจากฟินแลนด์ เน้นที่ การเผชิญกับความท้าทายและความยากลำบาก เกิดขึ้นในสมัยสงครามฤดูหนาวกับสหภาพโซเวียต ช่วงต้นสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นแนวคิดที่ทำให้ชาว ฟินแลนด์สามารถเอาชนะความยากลำบากมาได้

แก่นของ ซิสุ

ปรัชญานี้ยังส่งเสริมให้ผู้คนกล้าออกจากคอมฟอร์ตโซนและลองทำสิ่งใหม่ ๆ โดยไม่กลัวความล้มเหลว ซึ่งเป็นการสร้างจิตวิญญาณแห่งความพยายามและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

วิธีใช้ ซิสุ ในชีวิตประจำวัน

การเริ่มต้นจากกิจกรรมเล็ก ๆ เช่น การเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ หรือการลองทำสิ่งใหม่ ๆ ที่อยู่นอกคอมฟอร์ตโซนของตนเอง เช่น การเปลี่ยนสายงานหรือการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ซิสุยังส่งเสริมให้เรามีความกล้าในการเผชิญกับความยากลำบากและไม่กลัวที่จะลองสิ่งใหม่ ๆ โดยไม่กลัวที่จะล้มเหลวหรือผิดพลาด ซึ่งจะช่วยให้เราพัฒนาตนเองและเติบโตในทุกด้านของชีวิต

 

7 ปรัชญาระดับโลก  เปลี่ยนมุมมองชีวิตช่วงปีใหม่

ฮูก้า

แนวคิด "ฮูก้า" (Hygge) เป็นปรัชญาการใช้ชีวิตที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเดนมาร์ก ซึ่งมุ่งเน้นการค้นหาความสุขจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน คำว่า "ฮุกกะ" ไม่มีการแปลความหมายที่ตรงตัว แต่สามารถเข้าใจได้ว่าเป็นการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย 

แก่นของ ฮูก้า

เน้นการใช้ชีวิตอย่างมีสติและการชื่นชมสิ่งรอบตัว โดยการมองเห็นคุณค่าในความเรียบง่ายและความธรรมดา แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย

วิธีใช้ ฮูก้า ในชีวิตประจำวัน

คุณสามารถเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการจัดบ้านให้มีมุมสบาย ๆ สำหรับพักผ่อน เช่น วางเก้าอี้ตัวโปรดใกล้หน้าต่าง พร้อมผ้าห่มนุ่ม ๆ และแสงไฟอุ่น ๆ จากโคมไฟหรือเทียนไข ใช้เวลานั่งจิบชาร้อน ๆ หรืออ่านหนังสือเล่มโปรดในบรรยากาศที่สงบและสบายใจ สิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างความสุขเล็ก ๆ ที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและมีพลังในชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ ฮูกะยังสามารถเกิดขึ้นได้จากการใช้เวลาร่วมกับคนที่คุณรัก เช่น การทานมื้ออาหารที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นกับครอบครัว หรือการจัดค่ำคืนเล่นเกมหรือดูหนังกับเพื่อนสนิท การพูดคุยหัวเราะและแบ่งปันช่วงเวลาที่มีความหมายช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และความสุข

ฮูก้าไม่ได้หมายถึงการใช้เงินมากมาย แต่คือการใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ รอบตัวที่ช่วยเติมเต็มชีวิตประจำวันด้วยความสุขที่แท้จริง

 

 

ที่มา : https://www.springnews.co.th/news/infographic/854857

 

 

 

Visitors: 1,408,303