คนไทยถูกมิจฉาชีพโกงเงินสูงติดอันดับ 6 โลก สาเหตุหลักคือ รัก-โลภ-โกรธ-กลัว !

คนไทยถูกมิจฉาชีพโกงเงินสูงติดอันดับ 6 โลก สาเหตุหลักคือ รัก-โลภ-โกรธ-กลัว !

คนทั่วโลกถูกมิจฉาชีพหลอกโอนเงินมากขึ้น ประเทศไทยโดนมากเป็นอันดับ 6 ธนาคารแห่งประเทศไทย ชี้! สาเหตุหลักคือ รัก-โลภ-โกรธ-กลัว

ถึงสื่อจะช่วยกันออกข่าวเรื่อง “กลโกงมิจฉาชีพ” กันมากขนาดไหน แต่ก็ยังมีคนถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกอยู่ทุกวัน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเหล่าบรรดามิจฉาชีพมีกลยุทธ์ และมุกใหม่ๆ มาหลอกเหยื่ออยู่เรื่อยๆ ทำให้คดีที่มีคนถูกแก๊งคอลเซนเตอร์โกงจนหมดตัวกลายเป็นข่าวที่ยืนยงอยู่คู่สังคมไทยไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีแค่คนไทยที่ตกเป็นเหยื่อ เพราะ The Global State of Scam Report ระบุว่า คนทั่วโลกถูกหลอกโอนเงินเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี 2021  มีรายงานคนถูกหลอกเงินผ่านช่องทางออนไลน์ 293 ล้านครั้ง ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายรวม 55.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 10.2% จากปีก่อนหน้า 

 

นอกจากนี้ รายงานจาก ACI Worldwide เรื่อง It’s Prime Time for Real-Time 2023 ยังพบว่า 1 ใน 5 ของผู้บริโภคที่ถูกสำรวจในปี 2023 เคยตกเป็นเหยื่อของการโกงชำระเงิน และประเทศที่ใช้ระบบเงินแบบทั้งโอนและรับเงินได้ 24 ชั่วโมง (real-time payment) มีแนวโน้มที่จะมีคนถูกหลอกสูงตามไปด้วย

 

คนไทยถูกมิจฉาชีพโกงเงินสูงติดอัดดับ 6 โลก : ภาพจากธนาคารแห่งประเทศไทย

คนไทยถูกมิจฉาชีพโกงเงินสูงติดอัดดับ 6 โลก : ภาพจากธนาคารแห่งประเทศไทย

ประเทศที่ถูกหลอกลวงอันดับต้นๆ ในปี 2565 ได้แก่

  • อินเดีย 89.5 พันล้านรายการ
  • บราซิล 29.2 พันล้านรายการ
  • จีน 17.6 พันล้านรายการ
  • ไทย 16.5 พันล้านรายการ (อันดับ 6 ของโลก)
  • เกาหลีใต้ 8.0 พันล้านรายการ

โดยสาเหตุที่สถิติการฉ้อโกงยังคงพุ่ง เป็นเพราะมิจฉาชีพไม่ลดละความพยายาม และมองหากลโกงรูปแบบใหม่อยู่ตลอดเวลา เช่น การสวมรอยเป็นคนอื่น  การหลอกเก็บเงินปลายทาง การแฮกบัญชีดิจิทัลวอลเล็ตร้านค้า เป็นต้น

 

ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) ได้เปิดเผยว่า  ประเทศไทยมารพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินที่ก้าวกระโดดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ทำให้ถูกมิจฉาชีพหลอกมากเป็นอันดับ 6 รองจากอินเดีย ไนจีเรีย ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐฯ และออสเตรเลีย

5 ประเภทคดีที่สถิติมีการแจ้งความมากที่สุดในไทยปี 2566

  1. หลอกให้ซื้อขายสินค้าหรือบริการ
  2. หลอกให้โอนเงินเพื่อทำงาน
  3. หลอกให้กู้เงิน
  4. หลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์
  5. ข่มขู่ทางโทรศัพท์

อย่างไรก็ตาม ในมิติของธนาคาร ไทยอยู่ระหว่างการผลักดันให้ธนาคารต่าง ๆ ยกระดับระบบตรวจจับและติดตามธุรกรรมที่เข้าข่ายผิดปกติได้แบบ near real-time เพื่อระงับธุรกรรมให้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าจะเสร็จช่วงปลายปี 2556 และนอกจากนี้ยังสร้างความรู้ความเข้าใจ ให้กับประชาชนเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพต่อไป ซึ่งเป็นหัวใจที่จะแก้ปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน

ธนาคารแห่งประเทศไทย เตือนว่า ภัยทางการเงินที่เกิดขึ้นทั่วโลก เริ่มจากพื้นฐานเดียวกันคือ การที่มนุษย์มีอารมณ์ รัก-โลภ-โกรธ-กลัว และถึงแม้เทคโนโลยีจะอำนวยความสะดวกให้มากแค่ไหน แต่หากใช้อย่างขาดสติก็อาจส่งผลเสียกับตัวเราได้ เพราะฉะนั้น อย่ากลัวเทคโนโลยีแต่ขอให้ใช้อย่างมีสติ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของภัยทางการเงิน

อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย



Visitors: 1,405,483