วิทยาศาสตร์ของการพนัน เหตุผลที่ทำให้คนเราไม่สามารถเลิกพนันได้ง่ายๆ

วิทยาศาสตร์ของการพนัน เหตุผลที่ทำให้คนเราไม่สามารถเลิกพนันได้ง่ายๆ

 

นั่งอ่านคำสารภาพของ นิโคโล ฟาโจลี ไอ้หนุ่มดาวรุ่งของทีมยูเวนตุสและทีมชาติอิตาลี แล้วสะท้อนใจ

 

นักเตะอายุแค่ 22 ปีที่ถูกตัดสินให้รับโทษแบนจากสหพันธ์อิตาลีเป็นเวลา 1 ปี – แยกเป็นการแบนห้ามลงสนาม 7 เดือน และโทษอีก 5 เดือนจะมีการชดใช้ความผิดในรูปแบบอื่น – คายความลับทุกอย่างออกมาหมด หลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีการเล่นพนันฟุตบอล ซึ่งถือเป็น ‘เรื่องต้องห้าม’ สำหรับนักกีฬาอาชีพ โดยสิ่งที่เจ้าตัวยอมรับสารภาพมานั้นมีหลายประโยคที่ฟังแล้วก็มีความเห็นใจอยู่ครับ

 

หนึ่งในถ้อยคำนั้นคือ “ผมเริ่มนอนไม่หลับ ยิ่งเวลาผ่านไปจำนวนหนี้ก็ยิ่งทำให้ผมหมกมุ่นมากขึ้น จำนวนเงินที่ผมติดหนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และผมคิดแต่ว่าผมจะเล่นเพื่อเอาคืนให้ได้ แต่ตอนนี้จำนวนหนี้มันมากเกินกว่าที่ต่อให้ผมแทงชนะก็จะไม่ได้อะไรเลย มันแค่ช่วยลดหนี้ที่ผมติดบ่อนพนันเอาไว้”

 

คำพูดของฟาโจลีน่าจะไม่ต่างอะไรจากประสบการณ์ของเหล่าคนที่เคยเจอวิกฤตเพราะชีวิตไปติดการพนัน เรื่องราวมันก็เป็นประมาณนี้แทบทั้งนั้น

 

คำถามที่น่าสนใจคือ ทำไมนักฟุตบอล – หรือคนทั่วไปก็เถอะ – ถึงชอบนักกับไอ้การเล่นพนันเนี่ย? ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นหนทางไปสู่ความฉิบหาย

 

แล้วทำไมมันถึงเลิกยากเลิกเย็นนักนะ?

 

เรื่องนี้บอกเลยว่ามีความซับซ้อนมากกว่าที่คิด และสามารถอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ได้

 

ย้อนกลับไปในคดีสะเทือนวงการฟุตบอลอิตาลี เมื่อปรากฏชื่อ 3 นักเตะทีม ‘อัซซูรี’ ที่เปลี่ยนสถานะจากนักเตะทีมชาติมาเป็นผู้ต้องหา เพราะถูกจับได้ว่าไปพัวพันกับการเล่นพนัน

 

 

หลายคนน่าจะพอได้เห็นรายละเอียดไปบ้างแล้วว่าถึงการดำเนินคดีของ นิโคโล ฟาโจลี, ซานโดร โตนาลี และ นิโคโล ซานิโอโล ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นนักเตะฝีเท้าดีและควรมีอนาคตที่สดใสรออยู่ ว่าพวกเขาไปทำแสบอะไรไว้บ้าง

 

 

ในบรรดา 3 คนนี้ คนที่ถูกตัดสินก่อนเพื่อนคือฟาโจลี ที่สารภาพทุกอย่างจนหมด เพราะจำนนต่อหลักฐานและเริ่มรู้สึกรับไม่ไหวกับเรื่องนี้แล้ว หลังจากที่เริ่มเข้าสู่วงการพนันตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนปี 2021

 

คนที่เป็นผู้ชักนำเขาเข้าสู่วงการก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นโตนาลีเมื่อครั้งที่ยังอยู่กับเอซี มิลาน อยู่เลย

 

ฟาโจลีเล่าประสบการณ์การลงนรกของตัวเองไว้ละเอียดประมาณหนึ่ง ซึ่งผมขออนุญาตถอดความมาให้เผื่อเป็นบทเรียนให้ใครได้

 

“ผมเริ่มพนันฟุตบอล เล่นเทนนิส และคาสิโน ตั้งแต่ช่วงเข้าแคมป์ทีมชาติชุดอายุไม่เกิน 21 ปีที่เตอร์เรเนีย ผมเห็นคนอื่นเขาเล่นกัน ผมก็ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าเว็บพนันพวกนี้มันถูกกฎหมายหรือเปล่า”

 

เว็บพนันถูกกฎหมายกับเว็บเถื่อนสำหรับฟาโจลีมีสิ่งเดียวที่แตกต่างกันนั่นคือ การให้ ‘เครดิต’ สำหรับการแทงบอลก่อน ได้ก็ดีไป เสียก็ใช้มา

 

ในตอนแรกก็เริ่มจากการพนันเทนนิสก่อน แต่พอชักเสียเยอะขึ้นก็เริ่มมาแทงบอล และก็เป็นตามสเต็ปนรกคือ พอแทงเสียก็แทงจำนวนมากขึ้น เพื่อหวังจะเอามาโปะกับหนี้ที่เสียไป

 

ผีพนันเข้าสิงฟาโจลี ดวงตาของเขามืดบอด ยิ่งแทงยิ่งเสียหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่แทนที่จะหยุด กลับถลำลึกดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ จนถึงสุดเหวนรกที่เจ้าหนี้เริ่มเอาจริง

 

จนถึงขั้นที่เริ่มจ่ายไม่ไหว บวกกับโดนสายทวงหนี้ของบ่อนข่มขู่ “เดี๋ยวกูจะหักขามึง!”

 

ฟาโจลีเลยต้องขอหยิบยืมเงินจากเพื่อนมาใช้จ่ายหนี้ก่อนด้วยข้ออ้างต่างๆ นานา แต่ก็ไม่วายยังเล่นต่อ จนสุดท้ายเรื่องก็ปิดไม่มิด

 

 

ฟังแล้วรู้สึกไหมครับว่าเรื่องนี้มันคุ้นๆ เหมือนเคยได้ยินเพื่อนหรือคนรู้จักสักคนที่เสียผู้เสียคนในทำนองเดียวกัน ชนิดที่เราสามารถเปลี่ยนชื่อตัวละครจากฟาโจลีเป็นใครก็ได้ ต่อให้รายละเอียดมันแตกต่างกัน แต่หัวใจของเรื่องก็เหมือนกัน

 

ผีพนันเข้าสิงคนพวกนี้ และพวกเขาไม่สามารถหาทางกลับมาสู่แสงสว่างได้

 

เรื่องนี้อยากบอกว่า การจะไล่ผีพนันออกจากตัวนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายแบบที่คิดครับ เพราะการพนันคือการเสพติดชนิดหนึ่งที่ให้ผลเสียร้ายแรงกว่าชนิดที่เราอาจไม่เคยคิดถึงมันมาก่อนว่ามันจะเป็นได้ถึงขนาดนี้

 

ตามข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุข NHS ของประเทศอังกฤษ – ซึ่งต้องบอกว่าเป็นประเทศที่การพนันเป็นเรื่องถูกกฎหมายนะครับ มีบ่อนรับพนันกันเกลื่อน – บอกเอาไว้แบบนี้ครับว่า การติดพนัน หรือที่เรียกกันว่า ‘Gambling Addict’ นั้นสามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตได้ถึง 3 ด้านด้วยกัน

 

  1. ด้านสุขภาพกาย
  2. ด้านสุขภาพจิต
  3. ด้านการเงิน

 

ให้เห็นภาพง่ายๆ ต้องย้อนกลับจาก 3-2-1 ครับคือ หากเราเล่นพนันเสีย นั่นหมายถึงเรามีโอกาสจะประสบปัญหาทางการเงิน ไม่ว่าจะเงินขาดมือ ใช้เงินสำรองที่เก็บออมไว้ ทีนี้พอไม่มีเงินก็ต้องหามาใช้ ถ้าเงินสำรองของตัวเองหมดก็ต้องหยิบยืมจากคนอื่น ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต (Mental Health) ต่อ

 

พอเงินไม่มี ไม่รู้จะหามาใช้หนี้พนันอย่างไร เกิดความเครียดสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ความเครียดนั้นก็จะไปส่งผลต่อสุขภาพกายต่อ ซึ่งตัวอย่างของฟาโจลีที่สารภาพออกมาคือ เขาเริ่มมีอาการนอนไม่หลับเพราะเป็นหนี้พนัน และมันก็ส่งผลต่อเรื่องของสภาพร่างกาย เรื่องของการซ้อม ไปจนถึงเรื่องของการลงสนาม

 

โดยที่ทุกอย่างจะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันไม่ได้จบแค่ 3 อย่างนี้ด้วย เพราะยังมีสิ่งที่สูญเสียได้อีก ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ (ผมเองก็เสียเพื่อนไปหลายคนที่ติดการพนัน…) หรือสิ่งที่เสียไปแล้วไม่สามารถเรียกคืนกลับมาได้อีกเลยคือ ‘เวลา’

 

ทีนี้มาถึงประเด็นสำคัญ ถ้ารู้ว่าเล่นแล้วมันจะแย่ขนาดนี้ ทำไมไม่เลิก?

 

คำตอบที่อาจจะเหมือนข้ออ้างสำหรับผีพนันคือ การพนันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหยุดหรือเลิกได้ทันที ไม่เหมือนการปิดสวิตช์ไฟ

 

การติดพนันเป็นภาวะเสพติดที่ไม่ต่างอะไรจากการติดเหล้าหรือติดยา

 

ร้ายกว่านั้นคือ การติดพนันสามารถส่งผลกระทบทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสมองด้วย!

 

สิ่งที่เราเข้าใจผิดเกี่ยวกับคนที่ติดการพนันคือ พวกเขาไม่ได้คิดแค่เรื่อง ‘ได้-เสีย’ ในหัว แม้ว่าจำนวนเงินเดิมพันที่หวังไว้ในใจมันจะมีส่วนก็เถอะ

 

เพราะความจริงแล้วสิ่งที่ทำให้พวกเขาเสพติดคือ ‘การได้เดิมพัน’ หรือพูดง่ายๆ คือความรู้สึกตื่นเต้นในการได้ลุ้นว่าจะได้หรือจะเสีย

 

 

พอล เมอร์สัน ตำนานนักเตะอาร์เซนอล ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในคนที่ชีวิตเกือบหมดทุกสิ่งไปเพราะการพนัน บอกว่า สิ่งที่เขาสนใจไม่ใช่ว่าเขาได้หรือเสียเงินไปเท่าไร แต่คือการแสวงหาความรู้สึกตื่นเต้นในแบบเดียวกับการทำประตูได้ในสนามแข่งขัน ซึ่งการพนันมันมอบความรู้สึกนี้ให้กับเขาได้

 

สิ่งที่น่าสนใจคือ ความรู้สึกนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่คิดเอาเองด้วยครับ เพราะมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสมองของเรา เมื่อเราเดิมพันกับการพนัน สมองของเราจะหลั่งสารโดพามีนและอะดรีนาลีนออกมา ทำให้เรารู้สึกมีความสุขและผ่อนคลาย

 

มันคือหลักการเดียวกันกับการใช้ยาเสพติดที่มีโทษร้ายแรงอย่างโคเคนเลยทีเดียว ซึ่งมีการทดสอบตรวจการทำงานของสมองของคนที่ติดการพนันกับคนที่ติดโคเคนแล้วพบว่า มีการทำงานในรูปแบบเดียวกัน

 

นี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้เกิด ‘ผีพนัน’ และผีร้ายตนนี้ร้ายกาจอย่างยิ่ง

 

สำหรับผีพนันเวลาที่เล่นได้นั้น เงินที่ได้มาไม่ได้มีความหมายอะไรมากไปกว่าการไปเติมน้ำมันให้รถใช้วิ่งไปต่อ (แต่ไปนรกนะ) ในทางกลับกัน ในเวลาที่เล่นเสียก็เกิดความเครียด แต่ก็ไม่สามารถเลิกได้ เพราะสมองเสพติดกับความสุขที่ได้จากการเล่นพนันแล้ว

 

กว่าผีจะออกจากร่างคือวันที่หมดตัวแล้ว ไม่เหลืออะไรแล้ว และพวกเขารู้สึกแล้วว่าอยากให้ใครสักคนมาช่วยฉันที

 

หรือสำหรับคนที่โชคร้ายกว่านั้น มันอาจหมายถึงจุดจบของชีวิตได้เลย

 

และนั่นคือเหตุผลที่ทำไมกรณีของฟาโจลีหรือโตนาลี เมื่อความแตกแล้ว นอกจากจะยอมรับสารภาพ แต่พวกเขายังต้องขอความช่วยเหลือในการเข้ารับการบำบัดการติดพนัน เพราะสภาวะตอนนี้มันเกินกว่าที่พวกเขาจะเยียวยาตัวเองได้แล้ว มันต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูแลช่วยเหลือดูแล

 

แล้วทีนี้สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้เป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียง เป็นแค่คนที่ชอบแทงบอลทั่วไปจะทำอย่างไร?

 

ถ้าได้อ่านบทความชิ้นนี้แล้วคิดได้ ก็ขอให้ลด ละ แล้วรีบเลิกเสีย เพราะอนาคตมืดมิดแน่นอน

 

ส่วนคนที่มีความสัมพันธ์กับคนที่เล่นพนัน ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวหรือคนรัก ถ้าเรายังรักและหวังดีต่อกัน ก็ต้องบอกกันตรงๆ ว่าเลิกเถอะ พยายามให้กำลังใจกัน เพราะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่จะปราบผีพนันได้

 

มองไม่เห็นทางออก?

 

ลองตามหาพี่คนนี้ดูนะ พี่กรมสุขภาพจิต โทร. 1323 ตลอด 24 ชั่วโมงได้เลย รับประกันว่าจะมีคนช่วยชี้ทางสว่างให้แน่ ขอแค่ตั้งใจ

 

ขอให้ทุกคนโชคดี!

 

อ้างอิง:

 

โดย เมธา พันธุ์วราทร
https://thestandard.co/gambling-addiction-2/

 

Visitors: 1,405,487