แฟชั่น ‘Y2K’ คืออะไร…ตอนนี้ใครๆ ก็พูดถึง
แฟชั่น ‘Y2K’ คืออะไร…ตอนนี้ใครๆ ก็พูดถึง
เชื่อว่าในช่วงนี้ ใครๆ ก็คงได้ผ่านตาแฮชแท็ก #Y2Kaesthetic หรือ #Y2Kfashion กันอยู่บ่อยครั้ง ทำให้หลายคนคงอดสงสัยไม่ได้ว่าคำว่า Y2K ที่พูดกันนั้นหมายถึงอะไร วันนี้โว้กจะพาไปทำความรู้จักแฟชั่นสไตล์ Y2K อีกครั้ง... จริงๆ แล้ว Y2K ย่อมาจากคำว่า ‘Year 2000’ เกิดจากการชวเลข หรือการเขียนอย่างย่อด้วยสัญลักษณ์เพื่อความรวดเร็วในการพิมพ์หรือจดบันทึก คำว่า Y2K ที่พูดถึงกันในช่วงนี้จึงหมายถึงแฟชั่นในช่วงปลายปี ‘90s จนถึงช่วงต้นของปี 2000s ซึ่งแฟชั่นในยุคนั้นค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเกิดจากการผสมผสานกันระหว่าง Pop-culture ของชาว Millennial และการพัฒนาของเทคโนโลยีในยุคนั้น เรียกได้ว่าเป็นช่วงเดียวกันกับที่โลกของอินเตอร์เน็ตกำลังก่อตัวอย่างเป็นรูปเป็นร่างและทำให้เกิดความเชื่อที่ว่าเทคโนโลยีไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้ต้นแบบของแฟชั่น Y2K เป็นแฟชั่นที่รวมเอาความสนุกในการแต่งตัวและความไร้ขีดจำกัดเข้ามาไว้ด้วยกัน
เดาว่าในช่วงหนึ่ง หลายคนคงเคยใส่เสื้อผ้าสไตล์ Y2K กันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อครอปท็อป เสื้อยืดพอดีตัวที่สกรีนลายกราฟิกใหญ่ๆ อีกทั้งพวกกางเกงเอวต่ำทรงหลวมๆ หรือกระโปรงยีนส์สั้น ซึ่งส่วนใหญ่โทนสีของเสื้อผ้าในยุคนั้นมักจะเน้นไปทางสีชมพู หรือสีที่ค่อนข้างฉูดฉาดที่เน้นความสนุกในการแต่งตัว รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่ดูแวววาวอย่างหนังหรือการประดับกลิตเตอร์ลงบนเสื้อผ้า ให้ความรู้สึกล้ำเหมือนมาจากโลกแห่งอนาคต หากใครยังนึกไม่ออกให้ลองนึกภาพเสื้อผ้าที่นักร้องสาว Britney Spears หรือ Paris Hilton ชอบใส่ในยุคที่พวกเธอกำลังโด่งดัง รวมถึงคอสตูมของสาวๆ ในภาพยนต์เรื่อง Mean girls ก็อธิบายแฟชั่น Y2K ได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
“ทุกอย่างที่เก่าจะกลายเป็นสิ่งใหม่อีกครั้ง ไม่ช้าก็เร็ว” Stephen King นักเขียนนิยายเขย่าขวัญชาวอเมริกันเคยกล่าวไว้ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคล้ายกับทฤษฎีที่แฟชั่นมักโหยหาอดีต เหมือนในตอนนี้ที่สาวๆ ชาว Gen Z ได้ชุบชีวิตแฟชั่น Y2K ให้กลับมาเป็นเทรนด์อีกครั้งในรอบ 20 ปี ในบทความบนเว็บไซต์ University of fashion กล่าวว่า ที่แฟชั่น Y2K กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง อาจเป็นเพราะว่าในช่วงยุคแรกของแฟชั่น Y2K ชาว Gen Z ยังเด็กเกินไปที่จะได้สัมผัสมันจริงๆ แต่พวกเขาก็ได้ผ่านตาและปราถนาจะใส่เสื้อผ้าพวกนั้นมาเสมอ ในตอนนี้จึงถึงเวลาที่ชาว Gen Z หยิบนำเอาเสื้อผ้าสไตล์ Y2K มาใส่และปรับให้เข้ากับยุคสมัยจนกลายเป็นที่นิยมอีกครั้ง จนเกิดเป็นปรากฏการณ์การสร้างคอนเทนต์ พร้อมกับติดแฮชแท็ก #Y2Kaesthetic หรือ #Y2Kfashion บนแพล็ตฟอร์ม TikTok ที่เปรียบเสมือนเพื่อนซี้ของชาว Gen Z ซึ่งพอมาคำนวณดูแล้วมีผู้เข้าชมแฮชแท็กของวิดีโอนี้มากกว่า 405 ล้านครั้ง และยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเรื่อยๆ ตอกย้ำความเป็นที่นิยมให้กับแฟชั่น Y2K ในตอนนี้ ด้วยการที่เซเลบริตี้ชื่อดังอย่าง Bella Hadid หรือนักร้องสาว Dua Lipa ไอดอลของสาวๆ Gen Z ก็นำเอาเสื้อผ้าพวกนั้นมาใส่ในชีวิตประจำวัน พร้อมกับโพสต์ภาพลงบนโซเชียลมีเดียของพวกเธอเช่นกัน ทางฝั่งลักชัวรีแบรนด์เองหยิบเอาสินค้าที่เคยเป็นเทรนด์ในช่วงยุค 2000s มา Re-edtion หรือทำใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า Prada Nylon Re-edition 2000 หรือกระเป๋า Fendi Baguette 1997 กระเป๋าสะพายไหล่ใบจิ๋วที่ถึงแม้จะใส่ของได้เพียงน้อยนิด แต่ก็กลายมาเป็น It-bag ใบใหม่ของสาวๆ หลายคน รวมไปถึงแบรนด์เสื้อผ้าที่เคยเป็นที่นิยมในช่วงยุค 2000s เองก็ถูกค้นหาเพิ่มขึ้นอีกครั้งตามเว็บไซต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Von Dutch, Juicy Couture หรือ Guess เรียกได้ว่าแบรนด์เหล่านี้เติบโตมาพร้อมกับยุคต้นแบบของแฟชั่น Y2K ก็ว่าได้ และเชื่อว่าสาวๆ ในยุคนั้นต้องมีสินค้าของแบรนด์พวกนี้สักชิ้นเพื่อไม่ให้ตกเทรนด์
และเพื่อเติมเต็มความเป็นแฟชั่นสไตล์ Y2K ทั้งลุค ก็พลาดไม่ได้ที่จะหยิบเอาพาเลตต์อายแชโดว์มาใช้แต่งแต้มเปลือกตาเพื่อเพิ่มสีสันควบคู่ไปกับการแต่งตัว เพราะการแต่งหน้าสไตล์ Y2K นั้นเน้นการแต่งแบบสนุกสนานและไร้ความกังวลใดๆ เรียกได้ว่าจะแต่งอะไรก็ได้ที่อยากแต่ง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตาแบบ Frosted eyes การแต่งเปลือกตาด้วยสีขาวสว่าง หรือเลือกแต่งเปลือกตาด้วยอายแชโดว์สีฟ้าที่เป็นซิกเนเจอร์ของยุค 2000s พร้อมกับทาลิปสติกที่เป็นสีเมทัลลิคสุดแวววาว และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการทำผมทรง Space buns หรือม้วนผมแบบบันทั้งสองข้างก็จะยิ่งเติมเต็มความเป็นแฟชั่น Y2K มากขึ้นไปอีก
หลายครั้งที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าแฟชั่นคือการวนกลับมาซ้ำๆ และในครั้งนี้เองก็เป็นคิวของแฟชั่น Y2K ที่ยังคงเน้นความเฟมินิสต์สุดๆ ทั้งในเรื่องดีไซน์และสีสัน อีกทั้งยังเป็นเทรนด์แฟชั่นที่สนุกและค่อนข้างไร้ขีดจำกัด ซึ่งเชื่อว่าการหยิบเอาเสื้อผ้าสไตล์ Y2K มาใส่ หรือการแต่งหน้าทำผมแบบเมื่อ 20 ปีที่แล้ว อาจจะเป็นสิ่งที่มาช่วยเติมเต็มความสุขเล็กๆ น้อยๆ และเพิ่มสีสันให้กับใครที่เบื่อการอยู่บ้านตลอดช่วงล็อกดาวน์นี้ได้
ที่มา : ธนพร สมบูรณ์สิทธิ์
|