ร้อนมากจนหอยสุก!!!

ปรากฏการณ์ 'โดมความร้อน' อาจฆ่าสัตว์ทะเลนับพันล้านตัวบนชายฝั่งแคนาดา

 


.
‘โดมความร้อน’ ที่โถมถล่มแคนาดาเมื่อปลายเดือนมิถุนายนเป็นเวลาเกือบสัปดาห์ นอกจากทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 คน ยังคร่าสิ่งมีชีวิตในทะเลนับพันล้านตัวในคราวเดียวกัน
.
นักนิเวศวิทยาทางทะเลแห่งมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย พบว่าในช่วงเวลาเดียวกันมีหอยแมลงภู่หลายพันตัวต้องจบชีวิตลงเพราะทนความร้อนและแสงแดดที่แผดเผาไม่ไหว รวมถึงพวกเพรียงและดาวทะเลอีกเป็นจำนวนมาก และมีความเป็นไปได้สูงว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวสามารถฆ่าสัตว์ทะเลตลอดแนวชายฝั่งรัฐบริติชโคลัมเบียได้มากถึงพันล้านตัว!
.
หายนะจากโดมความร้อน
.
‘โดมความร้อน’ หรือ ‘Heat Dome’ เกิดขึ้นเมื่อคลื่นความร้อนในอากาศขยายตัวแนวตั้งจนถูกความกดอากาศสูงกดกลับลงมา โดยนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการวิจัยของ Bamfield Marine Sciences Center ระบุว่าปรากฏการณ์โดมความร้อนในช่วงปลายเดือนมิถุนายนทำให้อุณหภูมิน้ำเพิ่มขึ้น 3 องศาเซลเซียส
.
ในกรณีของหอยแมลงภู่ที่พบตายเกลื่อนชายฝั่ง นักชีววิทยาทางทะเลแห่งมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย อธิบายว่าอุณหภูมิที่เหมาะต่อการใช้ชีวิตอยู่บนโลกจะอยู่ที่ 30 องศา ส่วนเพรียงทะเลอยู่ที่ 40 องศา
.
แต่สำหรับช่วงเวลาที่เกิดเหตุ อุณหภูมิทั่วไปของแคนาดาทะลุเกิน 45 องศา (ซึ่งเป็นค่าอุณหภูมิสูงสุดที่เคยวัดได้ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว) โดยเฉพาะในวันที่ 29 มิถุนายนที่อุณหภูมิสูงถึง 49.6 องศา พวกสัตว์ทะเลที่อาศัยอยู่แถบน้ำตื้นหรือโขดหินจึงได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ไปเต็มๆ
.
นอกจากซากสัตว์ที่ร้อนจนสุกตายเกลื่อนชายฝั่ง นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่ายังมีสิ่งมีชีวิตในทะเลอีกมากที่จบชีวิตลง เพราะความร้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันในช่วงเวลาดังกล่าว เพียงแต่การตายของสิ่งมีชีวิตใต้น้ำเป็นเรื่องที่สำรวจได้ยาก เนื่องจากศพอาจจมลงไปใต้ทะเล หรืออาจถูกกระแสน้ำพัดพาไปอยู่ที่อื่น

เมื่อความร้อนฆ่าสัตว์
.
สำหรับสัตว์น้ำหากน้ำร้อนขึ้นเพียง 1-2 องศา เป็นเวลานานติดต่อกันอย่างน้อยสองสามชั่วโมงก็สามารถพรากลมหายใจสิ่งมีชีวิตบางจำพวกได้อย่างไม่ยากเย็น แต่โดมความร้อนที่เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนั้นกินเวลายาวนานถึง 5 วัน
.
สิ่งมีชีวิตบางชนิด เช่นหอยแมลงภู่อาจสามารถกลับมาปรากฏตัวให้เราเห็นได้มากดังเดิมในระยะเวลาประมาณ 2 ปี แต่พวกปลาดาวหรือหอยชนิดอื่นๆ อาจต้องใช้เวลานานราว 10 ปี เพราะสืบพันธุ์ได้ช้า
.
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบนชายฝั่งแคนาดาครั้งนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมาได้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่กับหอยแมลงภู่นับแสนตัวบนชายฝั่งประเทศนิวซีแลนด์จากสาเหตุเดียวกันนี้
.
หรือในเรื่องราวที่ใกล้เคียงกัน เมื่อไม่นานมานี้นักวิทยาศาสตร์เพิ่งแถลงว่าทะเลแถบเส้นศูนย์สูตร “ร้อน” จนอยู่ไม่ได้ สัตว์น้ำต้องย้ายบ้านหนี ตามที่เคยได้นำเสนอไปก่อนหน้า (อ่านเพิ่มเติมที่: https://bit.ly/2U33FmN)
.
กรณีทำนองเดียวกันนี้ ยังเกิดขึ้นอีกหลายๆ แห่ง และหลายรูปแบบทั่วโลก เช่น มีรายงานว่านกหลายสายพันธุ์ในออสเตรเลียไม่สามารถฟักไข่ได้ เพราะอุณหภูมิร้อนเกินภาวะเหมาะสม
.
ขณะที่ในแอฟริกาใต้ ได้บันทึกการตายของนกและค้างคาวมากกว่าร้อยตัว ในวันที่อากาศร้อนจัดของช่วงปลายปี 2020
.
หรือย้อนไปก่อนหน้านั้น คลื่นความร้อนที่ถล่มออสเตรเลียช่วงต้นปี 2019 ทำให้ม้าป่ามากกว่า 90 ตัวล้มตายระเนระนาด จากภาวะขาดน้ำอย่างหนักเพราะความร้อนแล้งจนน้ำเหือดหายไปจากลำธารหลายสาย
.
หรือโลกจะลุกเป็นไฟ
.
กลับมาที่ปัจจุบัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศเตือนว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังผลักดันให้สภาพอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง และอัตราการเกิดก็ถี่ยิ่งขึ้น โดยนักอุตุนิยมวิทยาคาดว่าโดมความร้อนอาจเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งในสัปดาห์นี้ทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกาและทางตะวันตกเฉียงใต้ของแคนาดา
.
และอาจทำให้มีสิ่งมีชีวิตได้รับผลกระทบมากขึ้นยิ่งกว่าที่เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนที่แล้ว
.
ดูเหมือนคำเปรียบเปรยที่ว่า “โลกกำลังลุกเป็นไฟ” จะค่อยๆ เข้าใกล้ความจริงขึ้นมาทุกวัน
อ้างอิง: The Guardian. ‘Heat dome’ probably killed 1bn marine animals on Canada coast, experts say. https://bit.ly/2TcoX0Y
 
Canadian Broadcasting Corporation. More than a billion seashore animals may have cooked to death in B.C. heat wave, says UBC researcher. https://bit.ly/3kdKzFm
 
Ecowatch. Hundreds of Thousands of Mussels Found Baked to Death on New Zealand Beach. https://bit.ly/2VsyzFq
 
Ecowatch. Heat Waves Cook Bird Eggs. https://bit.ly/36k5fDk
 
Visitors: 1,405,600