'เรียนฟรี' มีอีกมากมายให้ทุกคนได้ท่องโลกออนไลน์ พร้อมเติมเต็มทักษะความรู้ แต่หากไม่รู้จะเลือกคลิ๊กเว็บไหนดี ลองคลิ๊ก!!! ที่นี้

โควิด 19 ส่งผลให้การใช้ชีวิตของทุกคนเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปฎิบัติตัว ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย/ หน้ากากผ้าตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง รวมถึงถูกงดบางกิจกรรม อย่าง ท่องเที่ยว หรือต้องทำงาน Work from home ทำให้หลายคนมองหากิจกรรม หรือการเรียนรู้ที่ไม่ต้องออกนอกบ้าง

ชวนคนรุ่นใหม่มาเติมความรู้ เสริมทักษะให้แก่ตนเอง เปิดเว็บท่องโลกออนไลน์  ‘เรียนฟรี’ แถมมี ใบรับรอง ผ่าน 15 เว็บไซต์เรียนออนไลน์ ที่จะทำให้คุณๆ ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ  

•  15 เว็บไซต์ 'เรียนฟรี' ที่ควรลอง 

1. FINSTREET

เว็บไซต์ที่หลายคนอาจจะมองว่าให้ความรู้เรื่องการเงินแบบง่ายๆ เพียงอย่างเดียว แต่เมื่อได้ลองคลิ๊ก...เข้าไป จะรู้ว่าเว็บไซต์ดังกล่าว ได้รวบรวมองค์ความรู้ บทความ และคอร์สเรียนฟรีมากมาย แถมบางคอร์ส มีใบรับรอง เรียนจบนอกจากได้ความรู้แล้ว ยังเพิ่มทักษะด้านการบริหารจัดการเงิน การวางการเงิน  เรียกได้ว่าเข้าไปเว็บเดียวได้ครบทุกเรื่องเกี่ยวกับการเงิน  สนใจคลิ๊ก FINSTREET 

2. Thailand Cyber University Project (TCU)

เว็บไซต์เรียนออนไลน์สัญชาติไทย ที่เกิดจากความร่วมมือของหน่วยงานรัฐ และมหาวิทยาลัยไทยหลายแห่ง ที่มีบทเรียนให้ศึกษากว่า 874 บทเรียน 17 หลักสูตร และมีสถาบันร่วมโครงการกว่า 47 แห่ง ครอบคลุมทุกเรื่องในทักษะศตวรรษที่ 21 องค์ความรู้ที่จะช่วยสร้างเงิน สร้างอาชีพ พัฒนาศักยภาพของตนเองให้ดีขึ้น จัดเลย TCU 

3. fThaiMOOC

เมื่อพูดถึง TCU แล้วก็ต้องตามมาด้วยเว็บไซต์ เรียนฟรี ที่เกิดจากความร่วมมือของหน่วยงานรัฐ และมหาวิทยาลัยหลายแห่ง เช่นเดียวกัน อย่าง ThaiMOOC แต่เว็บนี้มีความพิเศษมากขึ้นมาก เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการเรียนเพื่อสายอาชีพ เช่น ภาษา บัญชี การออกแบบ การพัฒนาเว็บ การพยาบาลผู้สูงอายุ  การดูแลตัวเอง การสร้างอาชีพในช่วงโควิด 19 เป็นต้น โดยมีการเรียนการสอนที่หลากหลาย ทั้งในรูปแบบวิดีโอ มีเอกสารประกอบการสอน มีข้อสอบในบางบทเรียน บางบทเรียนสามารถเข้าเรียนออนไลน์พร้อมกับเพื่อนๆ คนอื่นได้อีกด้วย เรียกได้ว่า เรียนสนุก ได้ทักษะ มีใบรับรอง ได้อาชีพ ไม่มีเบื่อแน่นอน

4. SkillLane

แหล่งรวม คอร์ส เรียนออนไลน์ ที่มีมากกว่า 80 คอร์ส แถมอัพเดทคอร์สเรียนเพิ่มทุกๆ เดือน ถือเป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ที่เกิดจาก StartUp สายการศึกษา เพื่อคนที่ต้องการความก้าวหน้า ให้สามารถเรียนคอร์ส ออนไลน์คุณภาพ มีทั้งคอร์สฟรีและเสียเงิน โดยจะเน้นเรียนรู้เพื่อให้ใช้งานในชีวิตการทำงานจริงได้ เช่น  คอร์สเรียนภาษา การเงินการลงทุน การพัฒนาตัวเอง การตลาดออนไลน์  และการใช้โปรแกรมต่าง ๆ สอนโดยผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้น ๆ การเรียนการสอนเป็นรูปแบบวิดีโอ มีเอกสารประกอบ มีแบบทดสอบ และการประเมินผลหลังเรียนจบ รวมถึงมีใบรับรองอีกด้วย ตามไปศึกษารายละเอียดกันได้ ที่ SkillLane

5. CHULA MOOC

อีกหนึ่งเว็บไซต์ เรียนออนไลน์ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  มีหลากหลายวิชาตามแต่ละคณะ สอนโดยอาจารย์ในคณะต่างๆ ของจากจุฬาฯ โดย CHULA MOOC  มีรูปแบบการเรียนรู้ มีทั้งผ่านระบบออนไลน์ลงเรียนพร้อมกับเพื่อนๆ คนอื่น ต้องเข้าเรียนผ่านระบบ Courseville ที่สามารถเชื่อมต่อด้วย Facebook ได้ เป็นการเรียนการสอนที่อยู่ในรูปแบบวิดีโอ และเมื่อเรียนครบหรือทำคะแนนได้ตามที่กำหนด จะได้รับใบรับรองทันที

6. Coursera

จากการริเริ่มของอาจารย์มหาวิทยาลัย Standford ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์กับมหาวิทยาลัยทั่วโลก และบริษัทต่าง ๆ ได้มีการเปิดเว็บไซต์เรียนออนไลน์ ที่มีการสร้างสรรค์คอร์ส เรียนฟรี ออกมาหลากหลายสาขาวิชา อาทิ ประวัติศาสตร์ ภาษา ฟิสิกส์ กฎหมาย IT วิทยาศาสตร์  เป็นต้น Coursera เป็นการเรียนรู้พร้อมกับ Subtitle มากกว่า 20 ภาษา (แต่ไม่มีภาษาไทยนะ) ช่วยอัพเดทความรู้ใหม่ๆ หรือเพิ่มเติมองค์ความรู้ในเรื่องที่อาจจะไม่เคยรู้ อาจจะไม่เคยเข้าใจ เป็นการเรียนออนไลน์ที่สามารถเรียนที่ไหน อย่างไรก็ได้ เมื่อเรียนจบแล้วบางหลักสูตรมีใบรับรองด้วย

7. EdX

เว็บไซต์ เรียนออนไลน์ ที่เหมาะกับคนเก่งภาษาอังกฤษ เพราะเป็นการเรียนรู้ด้วยภาษาอังกฤษ เว็บดังกล่าว เกิดจากความร่วมมือของสถาบัน MIT กับ Harvard University รวมทั้งพาร์ทเนอร์จากมหาวิทยาลัยและบริษัทต่าง ๆ มีหลักสูตรกว่า 300 หลักสูตรให้เลือกเรียน โดยส่วนใหญ่เป็นบทเรียนเกี่ยวกับ Innovation นวัตกรรมและเทคโนโลยี อาทิ  Big Data Analytics เป็นต้น อยากรู้ว่า เรียนกับมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกเป็นอย่างไร คลิ๊ก EdX

8. Open Culture Online Courses

เว็บไซต์ที่รวบรวมคอร์สจากมหาวิทยาลัยหลายร้อยแห่ง มีมากกว่า 1700 หลักสูตรให้เลือกเรียน แต่การเรียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เว็บที่ช่วยเติมเต็มทักษะ ค้นหาคอร์สที่ต้องการเรียนได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเสียเวลาไล่หาคอร์สจากเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยนั้นๆ ดูรายละเอียดที่ Open Culture Online Courses 

9. Mahidol University Extension : Mux

คอร์สเรียนออนไลน์ของทางมหิดลที่เปิดให้คนเข้า เรียนฟรี โดยมีรายวิชาจากเกือบทุกคณะ สามารถเลือกคอร์สที่ชอบ สนใจได้ตามอัธยาศัย หรือกำหนดเวลาได้  รวมถึงมีระบบ Personal Message ให้คุยกับผู้สอนได้อีกด้วย โดยบทเรียนออนไลน์นี้จะใช้สอนทั้งนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลและสอนให้บุคคลทั่วไปด้วย เมื่อเรียนจบมีใบรับรอง ดังนั้น จุดเด่นของที่นี่คือเรียนได้ตลอดเวลาไม่จำกัดการเข้าถึง สนใจดูรายละเอียดได้ที่ Mux

10. Kaggle

เว็บไซต์ชุมชนของ Data Science สำหรับคนที่ทำงาน หรือชอบในด้านข้อมูล เพราะที่นี้จะรวบรวบ ข้อมูลฟรี โปรเจคฟรีให้ได้ทำความเข้าใจ เป็นแหล่งพูดคุยกับ Data Science ระดับโลก อีกทั้งยังมีการแข่งขันทำโจทย์ หรือโปรเจคที่เกี่ยวข้องกับ Data Science  รวมถึงยังมี คอร์สเรียนฟรี (ภาษาอังกฤษ) จะเน้นที่ภาษา Python , SQL , Data แถมเรียนเสร็จยังได้ใบรับรอง ที่สามารถนำไปอัพเงินเดือน หรือเป็นพอร์ตใส่เป็นข้อมูลสมัครงานได้ด้วย  เข้าเรียนฟรีได้เลย Kaggle

11. LinkedIn

เว็บไซต์ที่รวบรวม คอร์สออนไลน์ ไว้มากถึง 16,000 คอร์ส รองรับสายงานเกือบจะทุกสายงาน เรียนเสร็จอัพเดทลงเรซูเม่ แถมมีใบรับรองด้วย  ซึ่งเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นเครือข่ายสังคมที่เน้นในด้านเครือข่ายธุรกิจเป็นหลัก คล้ายๆ กับ Facebook ที่มีไว้สำหรับสายอาชีพ เป็น Online Profile ไว้สร้าง connection อีกรูปแบบหนึ่ง มีประโยชน์สำหรับบริษัทในการหาคนเข้าทำงาน ดูรายละเอียดได้ที่ LinkedIn

12. Khan Academy

องค์กรไม่แสวงผลกำไร ที่มีเป้าหมายหลักในการพัฒนาการศึกษา เปิดเว็บไซต์ เรียนฟรี ระดับโลกที่เรียกได้ว่าฟรีทั้งเว็บอย่างแท้จริง  ปัจจุบัน Khan Academy เริ่มมีการใช้ภาษาไทย และไม่ได้มีคอร์สฟรีเฉพาะในระดับมัธยมศึกษาเท่านั้น ยังมี คอร์สเรียนฟรี ด้านคอมพิวเตอร์ เศรษฐศาสตร์ ศิลปะ และพวก ทักษะชีวิต ให้ได้เรียนด้วย เรียนฟรีเสร็จมีใบรับรองให้อีกเช่นกัน

13. MITOpenCourseWare (OCW)

เว็บไซต์เรียนออนไลน์ ที่เปิดให้เรียนฟรี โดยความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของโลกด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใครที่สนใจองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสุดล้ำต้องไม่พลาดเว็บไซต์นี้ มีทุกเรื่องที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คลิ๊กเลย!! MITOpenCourseWare (OCW)

14. CMU Lifelong Education

คอร์สออนไลน์ ฟรี ใคร ๆ ก็เรียนได้จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่อย่าง CMU Lifelong Education ตรงนี้ มีความแตกต่างที่น่าสนใจเพราะสามารถใช้สะสมเป็นหน่วยกิตในมหาวิทยาลัยได้ด้วยแหละ มีหลายหมวดหมู่ให้เรียนตามความสนใจ ทั้งหลักสูตรอบรมออนไลน์ หลักสูตรอบรมระยะสั้น วิชาเรียนร่วม ฯลฯ สนใจเปิดเว็บ CMU Lifelong Education

15. Digital Skill by Depa

แพลตฟอร์มการเรียนรู้ของคนไทย จากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลร่วมกับสมาคมโปรแกรมเมอร์ไทยที่รวบรวมคอร์สพัฒนาทักษะดิจิทัลที่น่าสนใจไว้เพียบ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับโปรแกรมเมอร์หรือผู้ที่สนใจสายงานเทคโนโลยี ถือเป็นแหล่งความรู้ชั้นดีและฟรีที่เข้าถึงได้ง่าย

ใครสนใจอยากรู้เกี่ยวกับ AI, Big Data, Machine Learning และภาษา coding ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Python, JavaScript, HTML/CSS ไว้อัพสกิลเป็นโปรแกรมเมอร์ขั้นเทพก็ต้องเข้ามาหาความรู้ดี ๆ ที่นี่แล้วล่ะ นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรที่ได้รับความร่วมมือจาก Microsoft มาลงไว้ในเว็บด้วย ใครอยากเรียนรู้ฟังก์ชันการใช้งานของMicrosoft Azure ก็เข้ามาหาความรู้ยกระดับสกิลได้ที่นี่เลยฟรี ๆ ดูรายละเอียดได้ที่ Digital Skill by Depa

ในช่วงโควิด 19 นี้ จะไปไหนมาไหนก็อาจจะไม่สะดวกเช่นเดิม แต่สิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ คือ การเพิ่มเติมอาหารสมอง เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ผ่านโลกออนไลน์ที่ทุกคนคุ้นเคย และปฎิบัติตัวตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 หากอยากให้ประเทศกลับมาเป็นเช่นเดิม ลดการแพร่ระบาดของโลก ทุกคนต้องช่วยกัน

ที่มา:

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/946813?utm_source=grf-eng&utm_medium=partner&utm_campaign=giraff.io