ที่สุดของรุ่น!!! เยอรมันเผยสูตรฉีดวัคซีนข้ามบริษัทที่ดีที่สุดในโลกต้าน COVID-19

ที่สุดของรุ่น!!! เยอรมันเผยสูตรฉีดวัคซีนข้ามบริษัทที่ดีที่สุดในโลกต้าน COVID-19
 
 
เมื่อวัคซีน COVID-19 หลากหลายเทคโนโลยีเริ่มมีการกระจายไปแต่ละประเทศในเวลาที่ไม่พร้อมกัน หลายๆ ประเทศจึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีน COVID-19 ข้ามบริษัทเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันแก่ประชาชนให้มากที่สุดครับ อย่างไรก็ตามโรค COVID-19 ถือเป็นโรคที่ใหม่มาก ประสิทธิภาพของการฉีดวัคซีนข้ามบริษัทก็มีผลต่างกันไป อย่างไรก็ตามประเทศเยอรมันได้ประกาศคำแนะนำการฉีดวัคซีนข้ามบริษัทที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด
 
 
เข็มแรก AstraZeneca เข็มสองต้อง mRNA
 
คณะกรรมการการฉีดวัคซีนแห่งชาติเยอรมัน (The German Standing Committee on Vaccination: STIKO) ได้กล่าวเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาว่าประชาชนท่ได้รับวัคซีนเข็มแรกเป็น AstraZeneca ควรที่จะได้รับวัคซีนเข็มต่อมาเป็นวัคซีนเทคโนโลยี mRNA ไม่ว่าจะมาจาก Moderna หรือ Pfizer เป็นเข็มถัดมาไม่ว่าผู้รับวัคซีนจะอยู่ในช่วงอายุอะไรก็ตามครับ จากการประกาศของ STIKO ทำให้ประเทศเยอรมันเป็นประเทศแรกของโลกที่ให้การแนะนำให้ประชาชนของตนที่รับวัคซีน AstraZeneca รับเข็มสองแบบนี้
 
ทาง STIKO กล่าวว่าจากผลการศึกษาในปัจจุบัน การได้รับวัคซีนในลักษณะดังกล่าวจะทำให้เกิดประสิทธิภาพการสร้างภูมิคุ้มกันที่เหนือชั้นมาก แม้แต่คุณ Angela Merkel ผู้นำประเทศเยอรมันก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในการสนับสนุนการรับวัคซีนในลักษณะนี้ โดยคุณ Merkel ได้รับวัคซีนเข็มแรกของ AstraZeneca และรับเข็มที่ 2 ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเป็น mRNA ของ Moderna 
 
นอกเหนือจากประเทศเยอรมันแล้ว ประเทศแคนาดาก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่แจ้งประชาชนของตนเรื่องการฉีดวัคซีนข้ามบริษัทครับ โดยคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการสร้างภูมิคุ้มกันแห่งประเทศแคนาดา (National Advisory Committee on Immunization) ได้เชิญชวนให้ประชาชนชาวแคนาดาที่รับวัคซีน AstraZeneca หรือ Covishield (วัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตโดยศูนย์ในประเทศอินเดีย) ไปแล้ว ควรรับเข็มถัดมาเป็น mRNA 
 
 
การตอบสนองที่ดีกว่า
 
 
ทั้ง STIKO และคณะกรรมการจากแคนาดาได้ให้คำแนะนำและเชิญชวนประชาชนโดยอ้างอิงผลการทดลองการฉีดวัคซีนข้ามบริษัทโดยมหาวิทยาลัย Oxford ที่ติดพิมพ์ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาครับ โดยผลการศึกษาได้ทดลองการผสมวัคซีนระหว่าง Pfizer ตามด้วย AstraZeneca และ AstraZeneca ตามด้วย Pfizer โดยทำการทดสอบประสิทธิภาพจากการวัดความเข้มข้นของสาร Antibodies ที่ใช้สู้กับเชื้อ COVID-19 
 
ในส่วนของสหภาพยุโรปนั้น ทางสำนักงานยาแห่งยุโรป (European Medicines Agency: EMA) ได้แจ้งกับทางสื่อว่าถึงแม้พวกเขาจะไม่อยู่ในสถานะที่สามารถแนะนำให้ประชาชนควรได้รับวัคซีนข้ามบริษัท แต่จากผลการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนข้ามบริษัทมีผลดีโดยมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มารองรับ
 
คุณ Marco Cavaleri หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ภัยคุกคามสุขภาพชีวภาพและวัคซีนของทาง EMA กล่าวว่าผลการทดลองจากประเทศสเปนและประเทศเยอรมันได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ดีและไม่มีข้อควรระวังทางด้านความปลอดภัยครับ แต่อย่างไรก็ตามทาง EMA ก็จะต้องติดตามผลการทดลองต่อไป
 
นอกจากเหตุผลทางด้านประสิทธิภาพแล้ว นักวิจัยก็ให้น้ำหนักไปที่ความปลอดภัยด้วย เนื่องจากการได้รับวัคซีน AstraZeneca นั้นมีโอกาสทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันได้ การได้รับวัคซีน mRNA เป็นเข็มที่ 2 ก็จะช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้
 
 
ดีที่สุดในกลุ่มข้ามบริษัทเท่าที่มีการศึกษา
 
ถึงแม้ว่าการฉีดวัคซีนข้ามบริษัทจะทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีน mRNA ทั้ง 2 เข็มย่อมมีประสิทธิภาพสูงสุด
โดยมหาวิทยาลัย Oxford โดย Dr. Matthew Snape ได้พบว่าหากการฉีดวัคซีน AstraZeneca ทั้ง 2 เข็มจะได้ระดับของ antibodies 1,392 ELU/ml การได้รับวัคซีน AstraZeneca สลับกับ Pfizer หรือในทางกลับกันจะสามารถสร้างระดับ antibodies ได้มากกว่า AstraZeneca 2 เข็มถึง 5.1 – 9.2 เท่า
 
และเมื่อเทียบกับ Pfizer 2 เข็มแล้ว Pfizer 2 เข็มสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้เหนือกว่า AstraZeneca 2 เข็มได้ถึง 10.1 เท่าเลยครับ ดังนั้นการได้รับวัคซีน mRNA ทั้ง 2 เข็มย่อมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่อย่างไรก็ตามทางมหาวิทยาลัย Oxford ก็จะทดลองในลักษณะเดียวกันกับวัคซีนบริษัทอื่นๆ 
 
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะได้รับวัคซีน mRNA 2 เข็มหรือเป็น Sinovac หรือ AstraZeneca ก็ไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยที่ดีที่สุด ต้องรักษาสุขภาพ เว้นระยะห่างทางสังคม และสวมหน้ากาก ล้างมือตลอด 
 
 
Visitors: 1,221,175