วัคซีนโควิด สำหรับเด็กมีหรือยัง?
วัคซีนโควิด สำหรับเด็กมีหรือยัง?
แต่ไหนแต่ไรวัคซีนทั้งหลายผลิตขึ้นมา เพื่อใช้ฉีดให้เด็กซึ่งเป็นวัยที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคต่างๆมากเพียงพอ หมอที่สนใจเรื่องวัคซีนก็ไม่พ้นหมอเด็ก คราวนี้โรคโควิด 19 มาระบาดไปทั่วโลก ทุกคนหันกลับมาสนใจเรื่องวัคซีนกันอีก
เริ่มมีการใช้วัคซีนป้องกันโควิดฉีดให้ผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไปในหลายๆประเทศ
แล้วเด็กๆล่ะคะ โรงเรียนเริ่มเปิด เด็กๆไปโรงเรียนจะไปติดเชื้อนี้กลับมาบ้านไหม?
นี่คือความกังวลของพ่อ แม่ และคุณครู
มีวัคซีนโควิดสำหรับเด็กๆไหม?
เดี๋ยวก่อนค่ะ อย่าเพิ่งใจร้อน ตั้งแต่เกิดเขาก็ถูกจิ้มทุกเดือนสองเดือนอยู่แล้วค่ะ พอโตหน่อยก็ค่อยๆห่างออก วัคซีนพื้นฐานเหล่านั้น มีการวิจัยพัฒนามาเป็นเวลานานเป็นสิบๆปีแล้ว มีการทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่าจนเชื่อมั่นในความปลอดภัย จึงนำมาฉีดให้เด็กๆ
แต่วัคซีนป้องกันโควิด นี้เป็นวัคซีนใหม่เอี่ยมถอดด้าม คิดค้นพัฒนาอย่างเร่งด่วนภายในเวลา 1 ปี (แต่ไม่ลัดขั้นตอน ) เพิ่งเริ่มฉีดให้ประชาชนผู้ใหญ่ทั่วไปได้ไม่ถึง 2 เดือน
เด็กๆรอก่อนดีกว่าค่ะ
จำนวนเด็กที่ติดเชื้อโควิด คิดเป็น 11% ของจำนวนคนที่เป็นโควิดทั้งหมด จากรายงานของ CDC ประเทศอเมริกา ถือว่ามีเด็กจำนวนน้อยที่เป็นโรคนี้
เด็กติดเชื้อและสามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นที่อยู่รอบตัวได้
อาการในเด็กขึ้นกับอายุที่เป็น ส่วนใหญ่มีอาการไม่มาก เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ จาม ท้องเสีย อาเจียน แต่ส่วนใหญ่เด็กไม่มีอาการอะไร
เด็กที่มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะมีอาการรุนแรงคือ
-อายุน้อยกว่า 2 ปี
-คลอดก่อนกำหนด
-อ้วน
-มีโรคปอดเรื้อรัง
การป้องกันการติดเชื้อโควิดในเด็ก
- เด็กติดโควิดได้จากบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดในครอบครัว หรือ คนภายนอกที่มาหาที่บ้าน จึงต้องระมัดระวัง ผู้ที่ไม่ใช่คนในครอบครัว ให้หลีกเลี่ยงการมาอยู่ใกล้ชิดกับเด็กค่ะ
- พ่อแม่ที่ออกไปนอกบ้าน ต้องเปลี่ยนเสื้อ อาบน้ำให้เรียบร้อยก่อนที่จะมาอุ้มหรือเล่นกับลูก
- เด็กที่ไปโรงเรียน ให้ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หรือใช้แอลกอฮอล์เจล
- สอนเด็กว่า เมื่อออกนอกบ้านให้อยู่ห่างจากคนอื่นๆ และไม่ไปเล่นกับเด็กอื่นๆ
ถึงแม้ว่าจากรายงานของยุโรป ยังไม่มีหลักฐานว่า โรงเรียนเป็นแหล่งต้นตอของการแพร่เชื้อไวรัสโควิด เราก็ยังต้องระมัดระวังดีที่สุดค่ะ
วัคซีนป้องกันเชื้อโควิด 19 ในเด็ก
กำลังเริ่มทดสอบความปลอดภัย และปริมาณที่เหมาะสมในเด็ก ทางอเมริกา Dr Fauci บอกว่าจะเริ่มการทดสอบระยะแรก และระยะที่สองในปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้
อาจจะต้องรอเวลาอีกสักระยะหนึ่งค่ะกว่า จะทราบผลและนำมาใช้ในเด็กได้ ระหว่างนี้ก็ต้องป้องกันด้วยวิธีอื่นให้ดี อย่าเพิ่งการ์ดตกค่ะ
อ้างอิง
ที่มา : https://www.blockdit.com/articles/601954072d492f0b91dd454b
|