น่าเป็นห่วงโลกเรา !! ณ สิ้นปี 2564 โลกก็อาจจะยังไม่มีภูมิคุ้มกันหมู่จากการฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19

น่าเป็นห่วงโลกเรา !! ณ สิ้นปี 2564 โลกก็อาจจะยังไม่มีภูมิคุ้มกันหมู่จากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
 
การที่จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่(Herd Immunity)ให้เพียงพอต่อการระงับยับยั้งการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ได้ จะต้องมีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อยที่สุด 60% ของจำนวนประชากรทั้งหมด
 
ประมาณการตัวเลขประชากรโลกขณะนี้คือ 7,500 ล้านคน 60% ของจำนวนประชากรจึงเท่ากับ 4,500 ล้านคน วัคซีนโควิด-19 ส่วนใหญ่ต้องฉีดสองเข็ม จึงจำเป็นจะต้องฉีดวัคซีนให้ได้ 9,000 ล้านเข็ม
 
เราลองมาวิเคราะห์ถึงปัจจัยสำคัญสองประการ ที่ทำให้ความสามารถของมนุษยชาติ ที่จะฉีดวัคซีนจำนวน 9,000 ล้านเข็ม ให้กับคน 4,500 ล้านคนในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก
 
 
ให้เสร็จสิ้นภายในปี 2564 คือ อีก 11 เดือนที่เหลือหรืออีก 334 วัน ว่ามีรายละเอียดอย่างไรกันบ้าง
 
1) กำลังการผลิตของวัคซีนทั้งหมด เฉพาะ 10 บริษัทวัคซีนชั้นนำของโลก ที่ประกาศศักยภาพหรือความสามารถสูงสุด ที่จะผลิตวัคซีนได้ในปีนี้ ได้แก่
 
 
1.1) AstraZeneca 3,000 ล้านเข็ม
1.2) Novavax 2,000 ล้านเข็ม
1.3) Pfizer 1,300 ล้านเข็ม
1.4) Moderna 1,000 ล้านเข็ม
 
1.5) Johnson & Johnson 1,000 ล้านเข็ม
1.6) Gamaleya 500ล้านเข็ม
1.7) Sinovac 300 ล้านเข็ม
1.8) CureVac 300 ล้านเข็ม
1.9) Sinopharm 200 ล้านเข็ม
1.10) Cansino 200 ล้านเข็ม
 
รวมทั้งสิ้น 9800 ล้านเข็ม แต่ขณะนี้ได้เริ่มมีบริษัทที่แจ้งว่าอาจจะไม่สามารถผลิตได้ตามที่กำหนดไว้ เช่น AstraZeneca และ Pfizer เป็นต้น
 
จึงทำให้กำลังผลิต น่าจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 7,000 ล้านเข็ม ซึ่งก็ไม่เพียงพอกับจำนวน 9,000 ล้านเข็มดังกล่าว
 
2) ความสามารถหรือศักยภาพในการฉีด ขณะนี้หลังจากที่มีการเร่งฉีดมาประมาณหนึ่งเดือนเศษ ได้มีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 62 ประเทศ จำนวน 94.4 ล้านเข็ม ความสามารถในการฉีด ได้เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 4.47 ล้านเข็ม
 
ถ้าใช้ศักยภาพการฉีดในระดับนี้ เมื่อถึงสิ้นปี ก็จะฉีดได้เพียง 1,500 ล้านเข็ม ห่างไกลจากเป้าหมายเป็นจำนวนมาก
 
แต่อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าความสามารถในการฉีดวัคซีนนั้น ได้เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา จากเมื่อกลางเดือนธันวาคม 2563 มีความสามารถในการฉีดได้เพียงวันละ 1 ล้านเข็ม ขณะนี้ได้เพิ่มเป็น 4.47 ล้านเข็มแล้ว
 
ดังนั้น ถ้าเราประมาณการ ให้ศักยภาพความสามารถในการฉีดเพิ่มสูงขึ้นเป็นวันละ 10 ล้านเข็ม เราก็จะฉีดได้เพียง 3,340 ล้านเข็มเมื่อถึงสิ้นปี
 
ถ้าให้ศักยภาพเพิ่มขึ้นอีก กลายเป็นวันละ 20 ล้านเข็ม ซึ่งทำได้ค่อนข้างลำบาก ก็จะสามารถฉีดได้เพียง 6,680 ล้านเข็ม
 
จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะคำนวณจากกำลังการผลิต หรือความสามารถในการฉีดวัคซีน โอกาสที่สิ้นปีนี้จะฉีดวัคซีนได้ถึง 9,000 ล้านเข็ม ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก ทั้งนี้ ยังไม่นับว่าแม้ฉีดได้ 60% ของประชากรหรือ 4,500 ล้านคน(9,000 ล้านเข็ม)แล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะมีภูมิคุ้มกันทั้ง 4500ล้านคนนั้น
 
ถ้าประสิทธิภาพในการป้องกันเท่ากับ 80% เมื่อฉีดไปได้ 60% ของประชากร ก็จะมีภูมิคุ้มกันหมู่เกิดขึ้นเพียง 48% เท่านั้น
 
จากการประมาณการดังกล่าว ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงในกำลังการผลิต และไม่มีการเปลี่ยนแปลงในศักยภาพความสามารถในการฉีดวัคซีนอย่างมีนัยสำคัญ
 
ถึงสิ้นปีนี้ โลกเราคงยังไม่มีภูมิคุ้มกันหมู่จากการฉีดวัคซีนโควิดแต่อย่างใด ยกเว้นจะมีเป็นบางประเทศ ที่มีภูมิคุ้มกันหมู่เกิดขึ้นได้ คือ ประเทศที่มีความร่ำรวยอย่างมาก กล้านำเงินจำนวนมากไปจองไว้ตั้งแต่เมื่อหกเดือนที่แล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น เป็นต้น
 
หรือเป็นประเทศที่ร่ำรวยพอสมควร แต่เป็นประเทศขนาดเล็กมีประชากรน้อย เช่นอิสราเอล สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น
 
ณ สิ้นปี 2564 จึงคาดการณ์ได้ว่า อัตราผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงจนต้องเข้านอนโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตน่าจะมีจำนวนลดลงพอสมควร
 
ส่วนอัตราการแพร่กระจายเชื้อ ที่จะยุติลง หรือมีภูมิคุ้มกันหมู่ คงเกิดขึ้นเป็นบางประเทศในโลกนี้ ไม่ใช่เกิดขึ้นทั้งโลก ภูมิคุ้มกันหมู่ของทั้งโลก น่าจะเกิดขึ้นได้ในปี 2565 ครับ
 
 
Reference
 
 
ที่มา : ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย
Visitors: 1,403,312