พิสูจน์กฎ 3 วิ อาหารตกพื้น (บางอย่าง) ก็กินได้
พิสูจน์กฎ 3 วิ อาหารตกพื้น (บางอย่าง) ก็กินได้
เชื่อว่าในชีวิตประจำวันของเราคงไม่มีอะไรน่าเศร้าไปกว่าการทำขนมรสโปรดหลุดมือไปหล่นแหมะอยู่ที่พื้น และเชื่อด้วยว่าหลาย ๆ คนต้องเคยเก็บขนมแสนรักมาใส่ปาก แล้วอ้างกฎ 3 วินาทีเชื้อโรคมาเกาะไม่ทันมาก่อนแน่ ๆ ว่าแต่ไอ้กฎ 3 วินาทีเนี่ยมันเป็นเรื่องจริงแค่ไหน? ไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้นที่มีความเชื่อแบบนี้ เพราะมีคนเก็บของตกกินกันทั่วโลก งานนี้นักวิทยาศาสตร์ได้มีการวิจัยกันมาแล้วหลายครั้ง ถึงแม้ว่ากฎ 3 วิจะดูเป็นเรื่องหลอกเด็กและนักวิจัยหลายคนยังยืนยันว่าแบคทีเรียจะซึมเข้าสู่อาหารที่ตกพื้นตั้งแต่เสี้ยววินาทีแรกที่สัมผัสนั่นล่ะ แต่ Mark Rober และ Mike Meacham วิศวกรของ NASA ระบุไว้ในงาน “The Quick and the Curious” ว่า กฎ 3 วินาทีมีจริง! มันอาจไม่ได้สะอาดเอี่ยมพร้อมทานเหมือนตอนอยู่บนมือแต่อาหารที่ตกพื้นเองก็อยู่ในหมวด “ปลอดภัย” พอที่จะกินได้ แต่ปัจจัยไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น Rober กล่าวว่าควรเรียกเรื่องนี้ว่ากฎแห่งความชื้นและพื้นผิวมากกว่า เพราะปริมาณแบคทีเรียที่เกาะบนอาหารขึ้นอยู่กับว่ามันเป็นอาหารแบบไหนแล้วตกลงบนพื้นแบบไหนต่างหาก Rober ทดสอบอาหารกับแบคทีเรีย 3 ชนิด คือ E.coli, Listeria และ Salmonella พบว่าแบคทีเรียส่วนใหญ่ชอบสภาพแวดล้อมที่มีความชุ่มชื้น ดังนั้นถ้าทำอาหารที่มีความชื้นตกลงบนพื้นแบคทีเรียจะเติบโตได้ดีกว่าในอาหารแห้ง ๆ ถึง 10 เท่า แต่อย่างที่บอกว่าไม่ใช่แค่อาหารที่สำคัญเพราะผิวสัมผัสของพื้นก็สำคัญเหมือนกัน แน่ล่ะว่าเราจะไม่เปรียบเทียบพื้นในห้องนั่งเล่นกับฟุตบาทข้างทาง แต่งานวิจัยกำลังพูดถึงลักษณะของพื้นต่างหากที่ส่งผล เช่น ถ้าคุณทำอาหารตกบนพรมจะมีแบคทีเรียเจริญเติบโตน้อยกว่าอาหารที่ตกลงบนเสื่อน้ำมัน เพราะผิวสัมผัสของพรมเป็นเส้น ๆ ทำให้อาหารสัมผัสผิวน้อยกว่าเสื่อน้ำมันที่เป็นแผ่นกว้าง ไม่ใช่แค่นั้น เพื่อทดสอบว่ากฎ 3 วินาทีเชื่อได้จริงไหม นักวิจัยของ Manchester Metropolitan University (MMU) เองก็ได้ทดลองกับอาหารถึง 5 ประเภท คือ ขนมปังทาแยม พาสต้า แฮม บิสกิต และผลไม้อบแห้ง ผลวิจัยได้ช่วยพิสูจน์แล้วว่าบิสกิตเป็นอาหารตกพื้นที่ปลอดภัยที่สุดในกลุ่ม เพราะมันมีความชื้นน้อยมาก ดังนั้นถ้าหากใครทำบิสกิตหรือขนมกรุบกรอบหล่นพื้น ถึงจะไม่ได้น่าแปลกใจเท่าไร แต่ถ้าใครพลาดทำบิสกิตหรือขนมกรอบหล่นพื้นแล้วรีบหยิบใน 3 วินาที ถึงจะไม่ปลอดภัย 100% แต่ก็ปลอดภัยกว่าแฮมบนพื้นแน่นอนล่ะ แต่ MMU ระบุด้วยว่าไม่ใช่แค่เรื่องความชื้นเท่านั้นที่มีผล ถ้าปริมาณเกลือหรือน้ำตาลในอาหารสูงจะกินได้อย่างปลอดภัยมากกว่า เพราะแฮมที่มีความเค็มสูง กับแยมหวาน ๆ ที่ปริมาณน้ำตาลสูงปรี๊ด ถึงแม้ว่ามันจะเป็นอาหารที่มีความชื้นมาก แต่หลังจากตกพื้น 3 วินาที มันกลับมีสัญญาณการโตของแบคทีเรียน้อยกว่าผลไม้อบแห้งหรือพาสต้าเสียอีก สรุปแล้วกฎของตก 3 วินาทีก็ไม่ใช่แค่ข้ออ้างเด็ก ๆ เสมอไป เพราะฉะนั้นถ้าคุณเผลอทำขนมหล่นพื้นก็อย่าลืมเช็คว่าขนมของคุณแห้ง หรือเค็ม หรือหวาน มากพอจะนับ 3 แล้วโยนใส่ปากกินอย่างปลอดภัยได้รึเปล่า |